"ฮ่องกง" สถานีต่อไปทีมชาติไทย ต้องชนะเพื่อเรียกศรัทธา!

"ฮ่องกง" สถานีต่อไปทีมชาติไทย ต้องชนะเพื่อเรียกศรัทธา!
ความสำเร็จในอดีต, สไตล์การเล่น, เฮดโค้ช, ทีมชุดปัจจุบัน, นักเตะเด่น, นักเตะน่าจับตามองและเกร็ดน่ารู้เรื่องอื่นๆ "SIAMSPORT" ขอแนะนำคุณผู้อ่านให้รู้จักกับทีมชาติฮ่องกง คู่แข่งในเกมอุ่นแข้งฟีฟ่าเดย์วันจันทร์นี้ ซึ่ง มาโน่ โพลกิ้ง และลูกทีม จำเป็นต้องชนะให้ได้ เพื่อเรียกศรัทธาคืนจากแฟนๆ หลังเพิ่งเสมอ ไต้หวัน มาหมาดๆ

[ 1 ] ความสำเร็จในอดีต

พวกเขาเข้ามาเป็นสมาชิกของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า (FIFA) ในปี 1954 แต่ฮ่องกง ยังคงอยู่ภายใต้การปกครองของสหราชอาณาจักร หลังจากจีน พ่ายแพ้ในสงครามฝิ่น ทำให้ธงชาติในห้วงเวลานั้นจึงมีความเป็นประเทศในเครืออาณานิคม

ด้วยความที่เป็นประเทศเป็นเกาะ และมีความเจริญทางด้านเศรษฐกิจสูง นักกีฬาของที่นั่นจึงมีไม่มากนัก แต่พวกเขาก็เคยเล่น เอเชียน คัพ รอบสุดท้ายถึง 3 ครั้ง และเคยได้อันดับ 3 ในปี 1956 

อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่ปี 1968 ฮ่องกง ก็ไม่เคยมีส่วนร่วมในทัวร์นาเมนต์ระดับเมเจอร์ของทวีปอีกเลย 

ทว่าการก่อตั้งลีกอาชีพในปี 2014 ส่งผลถึงการพัฒนาโครงสร้างฟุตบอลโดยตรง เพราะมันทำให้ผลงานของพวกเขาค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับ

คิตฉี สโมสรอันดับหนึ่งของประเทศ มีส่วนร่วมกับการแข่งขันในทวีป ไม่ว่าจะเป็น เอเอฟซี คัพ หรือ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก ทุกซีซั่น นับตั้งแต่ปี 2012 ซึ่งมันคือการสร้างประสบการณ์ให้กับนักเตะ และต่อยอดมาถึงทีมชาติในปัจจุบัน

[ 2 ] สไตล์การเล่น

แม้ว่าแรงกิ้งของฮ่องกง จะอยู่ลำดับกลางๆ ของเอเชีย แถมลีกอาชีพก็ยังเริ่มต้นได้ไม่นาน แถมบุคลากรทางด้านฟุตบอลก็ค่อนข้างจำกัด ทว่านับตั้งแต่แต่งตั้ง จอห์น แอนเดอร์เซ่น ขึ้นเป็นเฮดโค้ช ดูเหมือนว่าพวกเขาจะมีผลงานที่ดีขึ้นเรื่อยๆ

เทรนเนอร์วัย 60 ปี มีความยืดหยุ่นสูง แท็กติกในแต่ละเกมของเขาขึ้นอยู่ที่คู่ต่อสู้ว่าเป็นใคร หากเหนือกว่ามาก ก็จะตั้งรับแบบเต็มรูปแบบ แต่ถ้าใกล้เคียงหรือระดับเดียวกัน กุนซือชาวนอร์เวย์ จะไม่วู่วาม หากแต่รอใช้จังหวะของตนเองเพื่อจัดการฝั่งตรงข้าม

ดังนั้นรูปแบบการเล่นของฮ่องกง ค่อนข้างที่จะทำให้คู่แข่งต้องอึดอัดพอสมควร แม้ตัวเฮดโค้ชจะเคยเป็นอดีตกองหน้า แต่กลยุทธ์ของเขาไม่เน้นบุกเท่าไหร่ และออกไปทางเน้นผลซะมากกว่าด้วย

[ 3 ] เฮดโค้ช

จอห์น แอนเดอร์เซ่น อดีตศูนย์หน้าทีมชาตินอร์เวย์ ยุค 80' ผู้มากด้วยประสบการณ์ในการคุมสโมสรยุโรป เพราะผ่านมาแล้วทั้งลีกกรีซ, เยอรมัน และออสเตรีย ก่อนจะข้ามน้ำข้ามทะเลมาเริ่มงานที่เอเชีย กับเกาหลีเหนือ เมื่อปี 2016 ซึ่งถือเป็นกุนซือชาวต่างชาติรายที่สองในประวัติศาสตร์ที่เคยนั่งตำแหน่งนี้

เขาอยู่ดินแดนโสมแดงได้ราวๆ 2 ปี ก่อนจะไปต่อที่ อินเชือน ยูไนเต็ด ทีมใน เคลีก เกาหลีใต้ ทว่าในห้วงเวลาเดียวกันก็มีข่าวโยงว่าเทรนเนอร์เลือดไว้กิ้งได้รับความสนใจจากฮ่องกง เช่นกัน

กระทั่งปี 2021 นั่นเองที่ แอนเดอร์เซ่น มาลงเอยกับ เดอะ ดราก้อนส์ และก็คุมทัพยาวมาจนถึงทุกวันนี้ และก็ทำทีมได้ดีเสียด้วย เพราะสามารถนำฮ่องกง ผ่านเข้าไปเล่น เอเชียน คัพ 2023 ได้สำเร็จ ซึ่งนับเป็นหนแรกในรอบ 54 ปี ที่พวกเขาไม่เคยมีส่วนร่วมในทัวร์นาเมนต์ระดับทวีป

[ 4 ] ทีมชุดปัจจุบัน

แน่นอนว่านักเตะของ คิตฉี เจ้าของแชมป์ลีกฮ่องกง มากที่สุดย่อมเป็นแกนหลักของทีมชาติ โดยมีผู้เล่นของ หลี่ หมาน และ อีสต์เทิร์น อีกสองสโมสรชั้นนำรองลงมา

นอกจากนี้ทีมชุดปัจจุบันมีแข้งจากลีกจีน อยู่ถึง 4 คน โดยเฉพาะ แมตต์ ออร์ ศูนย์หน้าเชื้อสายนิวซีแลนด์-จีน ที่ยิงไป 7 ประตู จาก 8 เกม พา กวงชี ปิ้งเก๋า ไหเหลา นำเป็นจ่าฝูงของ ลีก วัน ในปัจจุบัน

จอห์น แอนเดอร์เซ่น เฮดโค้ชของทีมยังผสมผสานระหว่างนักเตะประสบการณ์สูงเข้ากับกลุ่มผู้เล่นอายุน้อยได้เป็นอาย่างดี

อย่างไรก็ตามแข้งโอนสัญชาติอย่าง ยูโตะ รากามูระ (ญี่ปุ่น), โชโกะ อิชิกาวะ (ญี่ปุ่น), อเล็กซ์ อาคานเด้ (ไนจีเรีย), จาฮานกีร์ ข่าน (ปากีสถาน), แฟร์นานโด (บราซิล), ดีเอโก้ เดลี่ (บราซิล), โทมัน มาโรเนซี่ (บราซิล), ลีออน โจนส์ (สกอตต์แลนด์) และ แอนดี้ รัสเซลล์ (อังกฤษ) นั้นไม่ถูกเรียกตัวมาด้วย

[ 5 ] นักเตะเด่น

แมตต์ ออร์ หัวหอกเลือดนิวซีแลนด์-จีน แต่เกิดและโตในฮ่องกง ที่ได้ทุนไปเรียนฟุตบอลที่สหรัฐอเมริกา แต่ก็กลับมาเทรนกับ คิตฉี ในทุกๆ ซัมเมอร์ กระทั่งเซ็นสัญญาอาชีพฉบับแรกกับยอดทีมของประเทศตอนอายุ 23 ปี

เขาเล่นกับ คิตฉี ได้ 3 ซีซั่น ก็ย้ายไป กวงชี ปิ้งเก๋า ไหเหลา สโมสรในลีกรองของจีน แต่ปีแรกผลงานไม่ดีนัก กระทั่งเข้าสู่ฤดูกาล 2023 ที่กดไป 7 ประตู จาก 8 เกม นำเป็นดาวซัลโวสูงสุดในขณะนี้

ออร์ เป็นกองหน้าผู้มาพร้อมความสูงกว่า 1.88 เมตร อีกทั้งยังมีเท้าซ้ายสุดฉมัง หากปล่อยให้ได้สับไก มีเปอร์เซ็นต์สูงทีเดียวที่บอลจะพุ่งไปจบลงที่ก้นตาข่ายของคู่แข่ง

[ 6 ] นักเตะน่าจับตามอง

ซุน มิง ฮิม แนวรุกริมเส้นผู้อุดมไปด้วยทักษะอันเอกอุ และเป็นนักเตะพรสวรรค์สูงที่สมาคมฟุตบอลฮ่องกง ให้การสนับสนุนแบบสุดตัว อีกทั้งยังติดทีมชาติทุกชุดมาตั้งแต่ตนเองยังเยาว์วัย

เมื่อปี 2016 เขาถูกส่งไปร่วมซ้อมกับ บาเยิร์น มิวนิค สโมสรชั้นนำของเยอรมัน และก็ได้ประสบการณ์กลับมามากมาย ก่อนจะเริ่มต้นอาชีพที่ ฮอยกง ทีมในลีกรองของประเทศ 

ความเก่งกาจของ มิง ฮิม ยังไม่จบลงแค่ตรงนี้ เพราะเขาประเดิมทีมชาติชุดใหญ่ ตั้งแต่อายุเพียง 18 เท่านั้น และปัจจุบันในวัย 22 มีผลงานที่โดดเด่นขึ้นเรื่อยๆ 

[ 7 ] เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย

เกมล่าสุดที่พบกัน ไทย เป็นฝ่ายบุกไปเฉือนชนะได้ 1-0 โดยเกมนั้นได้ประตูจาก ฟิลิป โรลเลอร์ ตั้งแต่นาทีที่ 2 ของการแข่งขัน ณ มงก๊ก สเตเดี้ยม เมื่อปี 2018 

อย่างไรก็ตาม ผู้เล่นในวันนั้นที่ยังหลงเหลือมาถึงวันนี้มีเพียง ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ เท่านั้น

นอกจากนี้ ครั้งหลังสุดที่ทัพช้างศึก เป็นฝ่ายปราชัยต่อฮ่องกง คือปี 2003 ในศึก เอเชียน คัพ รอบคัดเลือก โดยนัดนั้นแพ้ไป 1-2 ซึ่งหนนั้นแข่งขันกันที่อุซเบกิสถาน

ภาพจาก : HKFA 中國香港足球總會 @HKFAofficial


ที่มาของภาพ : @HKFAofficial
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport