ศึกฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 48 ที่จังหวัดเชียงใหม่เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ได้ทีมผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศเป็นที่เรียบร้อยแล้วในวันที่ 25 ก.ย.65 มาเลเซีย จะพบกับ ทาจิกิสถาน ส่วนคู่ชิงอันดับ 3 ไทย เจ้าภาพ จะพบกับ ตรินิแดดฯ โดยการคว้าแชมป์คิงส์คัพครั้งล่าสุดของทีมชาติไทยนั้น ต้องย้อนเวลากลับไปถึง 2017 หรือ 5 ปี ที่แล้ว ครั้งนั้น มิโลวาน ราเยวัช กุนซือชาวเซอร์เบีย พาทีมชาติไทยคว้าแชมป์ ที่ราชมังคลากีฬาสถาน นั่นคือแชมป์ครั้งสุดท้ายของทีมชาติไทยในฟุตบอลรายการนี้
โดยฟุตบอลรายการเก่าแก่ที่สุดของทวีปเอเชียที่ก่อตั้งแต่ปี 2511 มีการปรับโยกไปแข่งขันตามพื้นที่จังหวัดต่างๆ เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของแฟนบอลรวมครั้งนี้ด้วยเป็นครั้งที่ 7 แต่สิ่งที่ไม่น่าเชื่อคือทีมชาติไทยไม่เคยคว้าแชมป์รายการนี้จากการฟาดแข้งนอกพื้นที่ กทม.ได้เลย ทำได้ดีที่สุดคือการคว้ารองแชมป์ ครั้งที่ 39 ที่จังหวัดภูเก็ต คงต้องติดตามกันต่อว่า คิงส์คัพนอกเมืองหลวงครั้งต่อไปจะเป็นที่จังหวัดไหน? และ ทีมชาติไทยจะก้าวไปเถลิงบัลลังก์แชมป์ แน่นอนว่าสถานที่จัดการแข่งขันคงไม่ใช่เรื่องหลักในความสำเร็จ แต่การเตรียมการจัดการของทีมชาติและทรัพยากรนักเตะฝีเท้าดีรวมไปถึงองค์ประกอบอื่นๆ คือสิ่งสำคัญที่ทำให้ทีมก้าวไปสู่เป้าหมาย
สถิติฟุตบอลคิงส์คัพ นอกพื้นที่ กทม.
ครั้งที่ |
| แชมป์ | รองแชมป์ | อันดับ 3 | อันดับ 4 |
พ.ศ.2548 36 | ภูเก็ต(สนามสุระกุล) | ลัตเวีย | เกาหลีเหนือ | ไทย | โอมาน |
พ.ศ.2552 39 | ภูเก็ต(สนามสุระกุล) | เดนมาร์ก | ไทย | เลบานอน | เกาหลีเหนือ |
พ.ศ.2553 40 | นครราชสีมา(80พรรษา) | เดนมาร์ก | โปแลนด์ | ไทย | สิงคโปร์ |
พ.ศ.2556 42 | เชียงใหม่(700ปี) | สวีเดน | ฟินแลนด์ | ไทย,เกาหลีเหนือ | - |
พ.ศ.2558 43 | นครราชสีมา(80พรรษา) | ยู23 เกาหลีใต้ | ไทย | ยู23 อุซเบกิสถาน | ยู20 ฮอนดูรัส |
พ.ศ.2562 47 | บุรีรัมย์(ช้างอารีน่า) | กือราเซา | เวียดนาม | อินเดีย | ไทย |
พ.ศ.2565 48 | เชียงใหม่(700ปี) | -ยังแข่งขันไม่จบ- |