บทสรุป 5 ข้อ! หลังทีมชาติไทยชวดชิงฯ คิงส์ คัพ 2022

1.  อาถรรพ์ 8 ปี ที่ยังต้องยืดออกไป

มาเลเซีย ยังคงเป็นหนามยอกอกของทีมชาติไทย ในภูมิภาคอาเซียน ต่อไป แม้ว่าจะเป็นการเอาชนะด้วยลูกจุดโทษ แต่มันก็แสดงให้เห็นว่าพวกเขาสามารถไม่เคยเกรงกลัวช้างศึกเลยสักนิด

ครึ่งแรกแทบจะเป็นห้วงเวลาของทัพเสือเหลือง เพราะพวกเขาต่อบอลกันอย่างมั่นใจ แถมยังดูดีกว่าทีมช้างศึก ด้วยซ้ำ

พวกเขาไม่มีเตะสกัดโฉ่งฉ่าง กล้าแกะเพรสซิ่งตั้งแต่แดนหลัง แถมฟูลแบ็กทั้งฝั่งขวา-ซ้ายอย่าง แมทธิว เดวี่ส์ กับ ลาเวียร์ คอร์บิน-อ่อง ก็เติมเกมบุกกันสนุกสนาน

พอครึ่งหลัง มาเลเซีย รู้ดีว่าไทย ต้องบุกใส่แน่ พวกเขาเลยใช้การ 'เตะหนัก' และ 'ตัดเกม' จนทำให้ลูกทีมของ อเล็กซานเดร โพลกิ้ง ต้องถูกเบรกจนขึ้นบอลไม่ปะติดปะต่อ

กว่าจะได้ประตูตีเสมอ ก็ต้องรอจนวินาทีสุดท้ายของการแข่งขัน และก็ยังทำให้สถิติไม่ชนะทีมเสือเหลือง 8 ปี ต้องยืดออกไป

2. ไร้ สารัช - ธีรศิลป์ เห็นผลชัดเจน

การไม่มี สารัช อยู่เย็น กับ ธีรศิลป์ แดงดา ส่งผลอย่างชัดเจนว่าทำให้เกมของทีมชาติไทย ขาดความสม่ำเสมอ

มิดฟิลด์เชือกวิเศษเป็นผู้เล่นที่สามารถเชื่อมเกมรับและรุกได้เนียนตา อีกทั้งยังมีจุดเด่นในเรื่องการโคเวอร์ตำแหน่งเพื่อนร่วมทีมได้ยอดเยี่ยมมากๆ ซึ่งจุดนี้แหละที่ทำทัพช้างศึกมีความสมดุลมากๆ ยามที่มีกองกลางวัย 30 ปี คอยคุมจังหวะ

ขณะที่ ธีรศิลป์ แม้จะอายุ 34 ปี ความปราดเปรียวลดลง แต่ประสบการณ์และเหลี่ยมฟุตบอลของหัวหอกจาก บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ยังสร้างประโยชน์ให้กับทีมได้เสมอ 

จะเห็นได้ชัดเลยว่าครึ่งแรก แดนกลางของไทย ในเกมกับมาเลเซีย จ่ายบอลขึ้นหน้ากันขาดๆ เกินๆ เหมือนไม่ค่อยเข้าใจกัน ส่วนข้างบน ก็ถูกกองหลังของอาคันตุกะเก็บกินได้หมด 

ครึ่งหลัง อาจจะดูวูบวาบกว่าเก่า ทว่าการขึ้นเกมสวยๆ อย่างมีรูปแบบแทบไม่เกิดขึ้นเลย 

นั่นก็เพราะการขาดผู้เล่นที่มีประสบการณ์อย่าง สารัช และ ธีรศิลป์ นั่นแหละ ที่ส่งผลต่อทีมชาติไทย อย่างแท้จริง 

3. บทเรียนของ ศุภณัฏฐ์ 

ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา คือนักเตะที่อนาคตไกลที่สุดคนหนึ่งของเมืองไทย แนวรุกชาวศรีสะเกษ มีคุณสมบัติครบถ้วนที่จะก้าวมาแทนรุ่นพี่ในทีมชาติ และศักยภาพของเขาก็สามารถไปค้าแข้งในต่างประเทศได้ด้วยเช่นกัน

การถูกเปลี่ยนลงสนามในครึ่งหลังเห็นผลชัดเจนว่ากองหน้าจาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด สามารถคุกคามคู่ต่อสู้ได้ตลอด 

ทว่าโอกาสเหน่งๆ 2 ครั้งระหว่างเกมที่ ศุภณัฏฐ์ พลาดไป ถือเป็น 'บทเรียน' ที่จะต้องเรียนรู้เพื่อนำปรับปรุงเรื่องความเฉียบขาดในจังหวะสุดท้าย 

หากต้องการก้าวคำคำว่า 'ดาวรุ่ง' สองโอกาสที่ได้ยิงในระยะทำการแบบนั้น มันควรจะต้องเป็นสกอร์ เพราะเส้นบางๆ ระหว่างนักเตะทั่วไปกับนักเตะชั้นยอด คือจังหวะสุดท้ายนี่แหละที่จะเป็นตัวชี้วัดว่าคุณเป็นผู้เล่นระดับใด

ในวัย 20 ปี ยังมีเวลาอีกมากมายให้ได้เรียนรู้ ได้พัฒนาต่อ ซึ่งด้วยหัวใจที่กร้าวแกร่งอย่าง ศุภณัฏฐ์ - เขาจะเก่งกาจขึ้นกว่านี้แน่ๆ  

4. สุมัญญา ยังมีประโยชน์เสมอ

การถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนามตั้งแต่นาทีที่ 14 ของ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ทำให้ สุมัญญา ปุริสาย ได้ลงเล่นแทน

จริงๆ แล้วชื่อของกองกลางชาวร้อยเอ็ด นั้นไม่ได้อยู่ในลิสต์แรก ทว่าการถอนตัวของ สารัช อยู่เย็น ทำให้เขาเข้ามาอยู่ในทำเนียบช้างศึกอีกครั้ง

แม้ว่าจะอายุใกล้ 36 ปี ทว่า สุมัญญา ยังแสดงให้เห็นว่าตนเองยังมีคุณภาพพอที่จะสร้างความแตกต่างให้กับทีมได้

ในเกมที่ต้องเจอการเตะติดดาบจากมาเลเซีย จนร่างกายแทบระบมไปทั้งตัว แต่แววตาของมิดฟิลด์จาก ชลบุรี เอฟซี ยังคงมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์โอกาสให้เพื่อนๆ โดยที่ไม่หงุดหงิดไปกับลูกตุกติกจากทัพเสือเหลือง

กระทั่ง 'ทีเด็ด' กับการเปิดฟรีคิกในช่วงทดเวลาการแข่งขันไปเข้าหัว พรรษา เหมวิบูลย์ โหม่งตีเสมอ เป็นอีกครั้งที่เครื่องหมายการค้าของ สุมัญญา แสดงให้เห็นว่าเขายังมีประโยชน์กับทีมชาติไทย

5. ฝันร้ายของ สุภโชค  

สุภโชค สารชาติ ยังคงเป็นนักเตะที่ทรงพลานุภาพในเกมบุกอยู่เสมอ ทุกครั้งที่เขาได้โอกาสลากเลื้อย หากไม่เบรกเกม คุณมีโอกาสจะน้ำตาตกได้ทันที

อย่างไรก็ตาม ในครึ่งแรก ดูเหมือนว่าแนวรุกของ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร จะยังไม่คุ้นชินกับการที่ได้ออกสตาร์ตเป็นตัวจริงมากนัก เพราะนับตั้งแต่ย้ายไปญี่ปุ่น ในเดือนกรกฎาคม เขาก็ไม่ค่อยได้สัมผัสเกมอย่างเป็นทางการตั้งแต่นาทีแรกเลย

แน่นอนว่ามันเลยทำให้ดูติดๆ ขัดๆ ไปบ้าง 

กระทั่งครึ่งหลัง สุภโชค เริ่มปรับตัวกับเกมได้ ซึ่งการที่เขามีส่วนร่วมกับแนวรุกมากขึ้น ทำให้ไทย มีความหลากหลายในการเข้าทำในพื้นที่สุดท้าย ที่แม้จะไม่มีชื่อทำประตู แต่เขาก็ปั่นป่วนแนวรับมาเลเซีย ตลอดทุกครั้งที่สัมผัสบอล

การที่ยิงจุดโทษไม่เข้า ย่อมทำให้เป็น 'ฝันร้าย' ของเขา แต่นั่นไม่ใช่เรื่องสุดท้ายของชีวิต เพราะนักฟุตบอลทุกคนต่างก็ต้องเผชิญกับช่วงเวลาที่แย่ๆ เช่นกัน 

เดวิด เบ็คแฮ่ม พลาดลูกจุดโทษใน เวิร์ล คัพ 1998, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เองก็เคยยิงข้ามคานในนัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2008 และคนอื่นๆ อีกมากมาย

ดังนั้น สุภโชค ต้องลืมมันให้เร็วที่สุด และก้าวต่อไปข้างหน้า เพราะเส้นทางลูกหนังของเขายังอีกยาวไกล และทีมชาติไทย ก็ยังหวังพึ่งแนวรุกชาวศรีสะเกษ คนนี้ต่อไปในระยะยาว