"นายกก๊อง"ยันวันแข่งเปิดขายบัตรอีก2พันใบพร้อมเปิดเชียร์ผ่านจอยักษ์ LED

"นายกก๊อง" พิชัย เลิศพงศ์อดิศร นายก อบจ.เชียงใหม่ ในฐานะประธานจัดศึกฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 48 ได้เปิดใจกับผู้สื่อข่าวสยามสปอร์ต ถึงกระแสแฟนบอลที่แห่จับจองตั๋วอย่างคับคั่งจนถึงขั้นหมดเกลี้ยงภายในไม่กี่นาที ก่อนเกมที่ทีมชาติไทย ลงสนามรอบรองชนะเลิศ พบกับ ทีมชาติมาเลเซีย ในวันพฤหัสบดีที่ 22 ก.ย.65 เวลา 20.30 น.

"นายกก๊อง" เผยว่า "จากการเปิดขายบัตรได้รับการตอบรับจากแฟนบอลเชียงใหม่ แฟนบอลจังหวัดใกล้เคียง โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางออนไลน์ที่จับจองแทบจะทั่วประเทศ ตอนนี้ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี อย่างเพจ อบจ.เชียงใหม่ ที่ขายเมื่อวาน (19 ก.ย.65) ประมาณ 10 นาทีก็ต้องปิดเพราะเต็ม ส่วนในออนไลน์ของบริษัทที่ อบจ. ว่าจ้างก็จำหน่ายเต็ม และช่วงวันแรก 18 ก.ย. ที่ไปตั้งบูธ ณ เซ็นทรัล เชียงใหม่ เปิดจอง คนก็มารอ 3-4 ชั่วโมง ซึ่งก็ขายไม่เพียงพอ"

"ในวันพฤหัสบดีที่ 22 ก.ย.นี้ ทาง อบจ.เชียงใหม่ ก็จะมีการจำหน่าย 2 พันใบ ซึ่งจะขายในเวลาเที่ยงตรง ซึ่งจำกัดซื้อคนละไม่เกิน 2 ใบ แต่ก็ต้องดูตามสถานการณ์เผื่อว่าคนมารอเยอะ โดยตอนนี้จำหน่ายตั๋วไปแล้วประมาณทั้งสปอนเซอร์ทั้งอะไร ก็ประมาณ 80-90 เปอร์เซ็นต์แล้ว ซึ่งสนามเรามีความจุ 17,600 คน ซึ่งแต่ก่อนสนามสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี จุได้ 25,000 ที่นั่ง แต่เนื่องจากมีการปรับปรุง และมีการติดตั้งเก้าอี้ทั้วทั้งสนาม ทำให้จำนวนที่นั่งลดลง"

"เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่เชียงใหม่มีการจัดการแข่งขันฟุตบอลระดับชาติตั้งแต่ปี พ.ศ.2555 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 2 ปีที่ผ่านมาจากสถานการณ์โควิด-19 บอลคิงส์คัพก็เลยไม่ได้จัด พอสถานการณ์ดีขึ้น แฟนบอลเชียงใหม่ แฟนบอลใกล้เคียง และมาจาก กทม. ทุกคนก็อยากมาเชียร์ทีมชาติไทย แถมเป็นฟีฟ่าเดย์ และเป็นถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ที่เป็นถ้วยเก่าแก่ ทำให้กระแสตอบรับดีมาก ตอนนี้บัตรยังไงก็ไม่พอ"

"อย่างไรก็ตามตอนนี้ผมพยายามประสานขอจอ LED มายังหน้าสนาม ซึ่งเราประสานไว้แล้ว และพยายามทำให้ดีที่สุดสำหรับแฟนบอลที่ไม่สามารถเข้ามาชมฟุตบอลในสนามได้ นอกจากนี้เรายังมีบูธเกี่ยวกับนิทรรศการฟุตบอลคิงส์คัพ และของสปอนเซอร์ต่างๆที่มาจากทุกที่ แฟนบอลเกือบ 2 หมื่นคน อาหารการกินก็ต้องพร้อม