เกมอุ่นเครื่องนัดที่ 2 ของทีมชาติไทยในช่วง ฟีฟ่า เดย์ จบลงแบบไม่ต่างจากเกมแรกสักเท่าไหร่
คือเล่นดี แต่แพ้
...ว่าแล้วก็ปราชัยต่อ ยูเออี ไปด้วยสกอร์ 2-0
1. ก่อนอื่น ขอย้อนกลับไปในเกมแรกที่พ่าย ซีเรีย 3-1
เกมนั้น พลพรรคช้างศึกเล่นดีนะครับ แถมไม่ใช่ดีธรรมดา แต่ดีมากซะด้วย เล่นเป็นระบบ และมีทีมเวิร์ค รูปเกมเหนือกว่า บุกได้มากกว่า และมีโอกาสทำประตูมากกว่า
ทว่าเพราะความผิดพลาดส่วนบุคคลของผู้รักษาประตูทำให้เสียประตูแบบไม่น่าเสีย
ขณะที่เกมรุกมีปัญหาที่จังหวะสุดท้ายในวงเล็บว่า (เหมือนเดิม)
ส่วนคู่แข่งอย่าง ยูเออี ในเกมล่าสุดนี่ ชาติตระกูลสูงกว่า ซีเรีย อีกนะครับ จึงถือเป็นบททดสอบที่ยอดเยี่ยม และสิ่งที่ผู้ชมทางบ้านอย่างผมอยากเห็น คือเราจะเอาความผิดพลาดจากเกมแรกมาเป็นบทเรียนได้มากขนาดไหน
2. มาโน โพลกิ้ง เปลี่ยนทีมจากเกมแรกแค่ 2 ตำแหน่ง
แน่นอนว่าหนึ่งในนั้นคือผู้รักษาประตูที่เอา กัมพล กลับมาเฝ้าเสาอีกครั้ง
แผงหลังเหมือนเดิม ตรงกลาง ฐิติพันธ์ ได้ลงคู่กับ วีรเทพ แทน พีรดนย์ โดยมี 'เมสซี่เจ' เป็นเพลย์เมคเกอร์
แดนหน้า 3 ตัวก็ 'สามศุภ' เหมือนเดิม เรียกว่าจัดแบบเน้นผล แม้จะเป็นแค่เกมอุ่นแข้งก็ตาม
3. สาบานว่าตอนแรก ผมคิดว่าเกมของทีมชาติไทยเป็นรองเจ้าบ้านแน่ๆ ด้วยมองว่าชื่อชั้น และคุณภาพของผู้เล่น ยูเออี นั้นเหนือกว่า ซีเรีย พอสมควร
แต่หลังจากผ่านไปประมาณ 10 นาที ผมรู้สึก...เอ๊ะ !!!
นักเตะสายพันธุ์ปลาแดกเดินขึ้นไปบีบสูงพลางพุ่งเข้าหาอย่างรวดเร็วทุกจังหวะจนคู่แข่งตั้งเกมของตัวเองไม่ค่อยติด และเล่นเกมเร็วไม่ได้ ต้องถ่ายบอลไปถ่ายบอลมาช้าๆ
เกมรุกเราต่อบอลกันได้แม่นยำ จังหวะเข้าทำก็มีทั้งการเล่นแบบเน้นความแน่นอนสลับความฉาบฉวย
สิ่งที่แตกต่างอันสังเกตเห็นแบบคมชัดอีกอย่างคือความหื่นกระหายในการเล่น
ทีมช้างศึกสำแดงความฮึกหาญออกมามากกว่า ยูเออี ที่ดูไม่ค่อยจริงจังกันสักเท่าไหร่
ครึ่งแรก ทีมชาติไทยเหนือกว่าชัดเจน จังหวะจู่โจมก็ได้น้ำได้เนื้อ โดยนับโอกาสมำประตูได้ถึง 11 ครั้ง แถมไม่มีความผิดพลาดแบบน่าเกลียดเหมือนเกมแรก
จังหวะนั้นผู้ชมทางบ้านบางคนแอบยิ้มมุมปากเล็กน้อยพร้อมพูดในใจว่า...เอาล่ะโว้ยยยย !!!
แต่ช้าก่อน มึงอย่าพึ่งกระหยิ่ม และชะล่าใจไป เพราะเกมแรกก็แบบนี้แหละ
บ่อยครั้งที่เจอพวกตะวันออกกลาง เรามักตกม้าตายเสมอ
4 ต่อเมื่อเริ่มครึ่งหลัง เฮดโค้ชทีมชาติไทยอย่าง 'คุณมาโนช' เปลี่ยนตัวผู้เล่นทีเดียวถึง 3 ตำแหน่ง
อันนี้ผู้ชมทางบ้านอย่างผมแอบไม่เห็นด้วยนะครับ เพราะรูปเกมครึ่งแรกมันดีอยู่แล้วก็ควรใช้ผู้เล่นชุดเดิมไปก่อน ถ้าอยากจะเปลี่ยนตัว หรือแก้เกม รอให้เวลาผ่านไปสัก 10-15 นาทีก่อนก็ได้
แต่เข้าใจว่าผู้เป็นกุนซืออาจมองว่ามันเป็นเกมอุ่นเครื่องที่ต้องทดลองผู้เล่นพลางให้โอกาสลงสนามอย่างทั่วถึง
แบ็คขวาเปลี่ยนจาก มิเคลสัน เป็น ศุภนันท์
มิดฟิลด์ตัวกลางเปลี่ยนจาก ฐิติพันธ์ เป็น ศตวรรษ
แดนหน้าเปลี่ยน โดยส่ง ปรเมศย์ อาจวิไล ลงมาแทนหัวหอกตัวเป้าอย่าง ศุภชัย ใจเด็ด แล้วขยับ ศุภฌัฏฐ์ เหมือนตา เข้าไปเป็นศูนย์หน้าแทน
แล้วสิ่งที่กลัวก็เกิดขึ้นจริงๆ คือเหมือนการเปลี่ยนตัวจะทำให้อะไรที่เรียกว่า 'สมดุลย์' ของทีมเสียไปด้วย
ความเข้มของเกมตกลงไปจากครึ่งแรกแบบมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าเลยครับคุณ
เท่านั้นไม่พอ
ดูเหมือน ยูเออี จะเน้นกันมากขึ้นด้วย ไม่เหยาะแหยะเหมือนครึ่งแรก
กระนั้นเกมของทีมชาติไทยก็ไม่ได้แย่อะไรนะครับ ยังบดบี้กับคู่แข่งได้อย่างถึงใจพระเดชพระคุณ ก่อนที่ปัญหาเดิมๆ จะตามมาหลอกหลอนอีกแล้ว
คือบทจะเสียประตูก็เสียดื้อๆ เลย เสียทั้งๆ ที่ไม่ได้ถูก
ยูเออี บุกกดดันอย่างต่อเนื่องด้วยซ้ำ
พอเสียประตูง่ายๆ และเป็นฝ่ายตามหลัง มันก็เล่นยากสิทีนี้ แถวบ้านเรียก 'ตามควาย' เพราะตอนยังเสมอกันก็หาทางยิงยากอยู่แล้ว
มาโน โพลกิ้ง พยายามแก้เกมด้วยการปรับระบบเป็น 'หลังสาม' เพื่อดันฟูลแบ็ค 2 ขึ้นสูงเหมือนเป็นปีก เปลี่ยนตัวรุกลงมาเพิ่ม แล้วเน้นเกมรุกมากขึ้น
สุดท้ายเสียง่ายๆ อีกดอกจากความไม่ละเอียดในการป้องกันลูกฟรีคิก
พอตามหลัง 2 ประตู ก็จบข่าวเลยครับ
5. สรุปว่าทีมชาติไทยยัง 'ก้าวข้าม' ปัญหาเดิมๆ ของตัวเอง ไม่ได้สักที
เราอุตส่าห์ครองบอลกันได้ไฉไล เกมไหลลื่น บุกมากกว่า และหาจังหวะยิงได้มากกว่าก็จริง
เพียงแต่หาจังหวะจบแบบเหน่งๆ ได้น้อยเกินไป จังหวะจบส่วนใหญ่ที่หาเจอก็เป็นจังหวะที่ยิงได้ยาก - นึกออกไหมครับ
คือมันไม่ค่อยมีจังหวะจบแบบจะแจ้ง ประเภทมึงห้ามพลาดนะ
ต่อเมื่อมีจังหวะจบแบบ 'มันต้องเข้า' ก็ไม่เด็ดขาดเสียอีก
เกมรับก็มักจะเสียประตูง่ายๆ แบบไม่มีเหตุผล และไม่ต้องการความเข้าใจใดๆ ทั้งสิ้น ทั้งที่คู่แข่งเขาไม่ได้โหมบุกกระหน่ำใส่เป็นระลอกๆ จนต้องใช้รูว์ตรูดช่วยหายใจสักหน่อย
อย่างไรก็ตาม
ทั้ง 2 เกมที่พ่ายแพ้
ผมขอมองโลกเป็นสีชมพู เพราะโดยรวมถือว่าทีมชาติไทยชุดนี้เล่นได้ไฉไลนะครับ รูปแบบการเล่น ทีมเวิร์ค ความมุ่งมั่น และทุ่มเท
เรียกว่ามีอนาคตเลยทีเดียว
เพียงแต่ผลการแข่งขันที่ต้องการมันยังไม่ยอมตามมาเท่านั้นเอง
บอ.บู๋