อย่าเพิ่งหมดหวังกับการผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ อาเซียน คัพ 2022 เพราะผลต่างสกอร์ 0-1 ที่ไทย ตามหลังมาเลเซีย อยู่ ยังสามารถพลิกสถานการณ์ได้สบายๆ
แม้ว่าคู่แข่งรายนี้จะเป็นทีมที่มักจะสร้างความเจ็บช้ำให้กับทัพช้างศึกอยู่เสมอ แต่ในโลกของลูกหนัง อะไรก็เกิดขึ้นได้
ที่สำคัญ 'สถิติ' มีไว้เพื่อทำลาย
นับถึงล่าสุด ก็เป็นเกมที่ 7 ติดต่อกัน และเป็นปีที่ 9 ที่ไทย ยังไม่สามารถเอาชัยเหนือเสือเหลืองแห่งมาลายันได้เลย
ในแง่ของตัวเลข เราเป็นรองพวกเขาแบบห่างไกลก็จริง แต่ถ้ามองถึงรูปเกมการแข่งขัน จุดนี้ช้างศึกเหนือกว่าแบบชัดเจน
โดยเฉพาะนัดล่าสุดที่สถิติแทบทุกอย่างของเราสูงกว่ามาเลเซีย แบบไกลโพ้น
ทั้งในเรื่องเปอร์เซ็นต์การครองบอลและโอกาสในการทำสกอร์
อย่าลืมว่าเราไปเยือน บูกิต จาริล สนามที่เปี่ยมไปด้วยมนต์ขลังและความกดดันจากเสียงเชียร์ของเจ้าถิ่น แต่สิ่งที่ลูกทีมของ อเล็กซานเดร โพลกิ้ง แสดงออกมาคือการคอนโทรลทุกอย่างไว้ได้แบบเบ็ดเสร็จ ขาดเพียง 'จังหวะสุดท้าย' ที่ไม่เฉียบขาดเท่านั้น
หากว่านักเตะไทย สามารถรักษามาตรฐานการเล่นได้เหมือนนัดที่ผ่านมา รับประกันเลยว่าโอกาสที่จะเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศจะสูงขึ้นไปด้วย
ที่สำคัญคือจะทำลายอาถรรพ์ที่ไม่ชนะมาเลเซีย ได้สักที
ดังนั้นเรื่องรูปแบบการเล่น หายห่วง ขอแค่ไม่พลาดเสียประตูเร็ว หรือผิดฟอร์มกันทั้งทีม ยังไงเสีย แฟนๆ จะได้เห็นทัพช้างศึกครองบอลใส่เกียร์ 5 เดินหน้ายำใหญ่อาคันตุกะแน่ๆ
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่สำคัญที่สุดสำหรับเกมนี้คือ 'กำลังใจ' จากชาวไทย ทั้งประเทศ
เป็นที่รู้โดยทั่วกันว่ากระแสของฟุตบอลในดินแดนขวานทองเริ่มถดถอยลงไป ด้วยเหตุผลหลายหลาก ไม่ว่าจะเป็นผลงานของทีมชาติที่ตกต่ำ, การบริหารที่ดูติดๆ ขัดๆ, เจอสภาวะเศรษฐกิจเล่นงาน และอื่นๆ อีกพอสมควร
ก่อนเริ่มแข่งขัน อาเซียน คัพ ก็มีสารพันปัญหา ทั้งการไม่ได้ใช้ผู้เล่นชุดที่ดีที่สุด, ลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด, การเตรียมทีม เรียกว่าอะไรต่อมิอะไรรุมเร้าเข้ามาไม่ซ้ำเลย
คือเจอแต่เรื่องไม่เว้นแต่ละวันเลยทีเดียว
แต่ในห้วงเวลาที่ยกลำบากเช่นนี้ 'กำลังใจ' คือสิ่งสำคัญมากๆ ที่จะนำพาทีมชาติไทย ไปถึงปลายทาง
ตัวอย่างมีให้เห็นแบบใกล้ๆ คืออินโดนีเซีย กับมาเลเซีย นี่แหละ
เกมที่ไทย ไปเยือน เสนายัน และ บูกิต จาริล คือไม่สามารถกลับออกมาด้วยชัยชนะ ทั้งๆ ที่เมื่อเทียบกันตำแหน่งต่อตำแหน่ง ทัพช้างศึกเหนือกว่าทุกอย่าง ทั้งมาตรฐานฝีเท้า หรือประสบการณ์ในระดับนานาชาติ
ทว่าการต้องลงเล่นภายใต้แรงกดดันจากเสียงเชียร์ของเจ้าบ้าน ทำให้หลายๆ อย่างไม่เป็นไปตามที่ต้องการ
ดังนั้น หนึ่งทุ่มครึ่งของวันอังคารที่ 10 มกราคมนี้ แฟนฟุตบอลท่านใดที่สามารถไปส่งกำลังใจถึงขอบสนาม โปรดลุยอย่างเต็มเหนี่ยว ช่วยกันส่งเสียงเชียร์นักเตะให้ฮึกเหิม
พลังของคุณสำคัญต่อพวกเขาจริงๆ
ไม่ว่าผลการแข่งขันจะออกมาเป็นเช่นไร ทีมชาติไทย จะสู้อย่างสุดความสามารถจริงๆ
19.30 น. รวมใจไทย หนึ่งเดียว!!
ชิกกะด้าว