ธีรศิลป์เบิ้ลเพิ่มสถิติ! ทีมชาติไทยทุบกัมพูชา ซิวแชมป์กลุ่มลิ่วตัดเชือก

ฟุตบอลเอเอฟเอฟ มิตซูบิชิ อิเล็คทริก คัพ 2022

วันจันทร์ที่ 2 มกราคม 2566 

ทีมชาติไทย 3-1 กัมพูชา 

การแข่งขันฟุตบอล เอเอฟเอฟ มิตซูบิชิ อิเล็คทริก คัพ 2022 ประจำวันจันทร์ที่ 2 ม.ค. 66 ที่สนามธรรมศาสตร์ สเตเดี้ยม เวลา 19.30 น. เป็นเกมรอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอ นัดที่ 4 คู่ระหว่าง ทีมชาติไทย จ่าฝูงที่มี 7 แต้ม จาก 3 นัด เปิดรังรับมือ ทีมชาติกัมพูชา ทีมอันดับ 3 ที่ลงเตะ 3 นัด มี 6 แต้ม

รายชื่อผู้ตัดสิน : โอมาร์ มูฮัมเหม็ด อาเหม็ด ฮัสซัน อัล อาลี(ยูเออี), ผู้ช่วยผู้ตัดสินที่1 : จาเซม อับดุลลา ยูเซฟ อับดุลา อัล อาลี(ยูเออี), ผู้ช่วยผู้ตัดสินที่2 : กิลา ลาดสะวง(สปป.ลาว), ผู้ตัดสินที่4 : โซอี้ วงคำ(สปป.ลาว) 

โดยเกมนี้ มาโน่ โพลกิ้ง กุนซือใหญ่ทีมชาติไทย ปรับระบบมาเล่น 4-4-2 ขนผู้เล่นชุดที่ดีที่สุดลงสนามในเกมนี้ โดยเปลี่ยน 1 ตำแหน่งจากเกมที่แล้ว โดยส่ง อดิศักดิ์ ไกรษร ลงสนามแทนที่ ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว

เกมเริ่มมาได้เพียง 6 นาที ศศลักษณ์ ไหประโคน ตวัดบอลจากริมเส้นฝั่งซ้ายเข้าไปในเขตโทษ บอลแฉลบแนวรับกัมพูชาไปเข้าทาง ธีรศิลป์ แดงดา ก่อนจะไหลกลับให้ เอกนิษฐ์ ปัญญา ซัดด้วยขวา แต่บอลไหลถากเสาไกลออกหลังไป 

น.25 กัมพูชา ได้ลุ้นทำประตูขึ้นนำ เรือง บุนเหียง ได้โอกาสซัดด้วยขวาบริเวณฝั่งขวาหน้ากรอบเขตโทษ แต่บอลยังไม่ตรงกรอบ พุ่งเฉี่ยวเสาไกลออกไป 

น.42 กัมพูชา เกือบได้ประตูขึ้นนำ โสส สุฮะนา พาบอลขึ้นมาทางฝั่งขวา แตะหนี ศศลักษณ์ ไหประโคน แล้วตวัดบอลจากสุดเส้นหลังเข้าไปในเขตโทษให้ เซียง จันเธีย ได้ซัดเหน่งๆ แต่บอลเหินข้ามคานออกไปอย่างหวุดหวิด

ถัดมา น.45 ไทยได้ลูกจุดโทษจากจังหวะที่ ยือ มุสลิม สกัด ศศลักษณ์ ไหประโคน ล้มลงในกรอบเขตโทษ ก่อนผู้ตัดสินชี้ให้เป็นจุดโทษ และเป็น ธีรศิลป์ แดงดา ซัดเข้าไปไม่พลาด ใน น.45+2 ส่งให้ ทีมชาติไทย นำ ทีมชาติกัมพูชา 1-0 และหมดครึ่งแรกไปด้วยสกอร์

กลับมาในช่วงครึ่งหลัง น.50 สารัช อยู่เย็น ตัดบอลได้กลางสนาม ก่อนจะพาบอลสวนขึ้นไป แล้วไหลทะลุช่องต่อให้ สุมัญญา ปุริสาย ได้หลุดเข้าไปในเขตโทษแล้วจิ้มด้วยปลายเกือก บอลไหลสวนตัวนายด่านกัมพูชาซุกก้นตาข่ายเข้าไป พาทีมชาติไทยหนี 2-0

น.69 กัมพูชา ตีไข่แตกไล่ขึ้นมาเป็น 1-2 จากจังหวะที่ ซา ตี้ เลี้ยงบอลฝ่าแนวรับไทย เข้ากรอบเขตโทษ แล้วดีดต่อให้ เซียง จันเธีย แตะบอลหนี กฤษดา กาแมน แล้วซัดด้วยซ้ายเข้าไปไม่เหลือ 

น.90 ทีมชาติไทย ได้ประตูหนีห่าง 3-1 จากจังหวะที่ พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี แตะบอลต่อให้ ธีรศิลป์ แดงดา จับหนึ่งจังหวะแล้วพลิกตัวซัดด้วยขวา บริเวณหน้ากรอบเขตโทษ บอลพุ่งหนีมือนายด่าน กัมพูชา ตุงตาข่ายเข้าไปอย่างสวยงาม

จากนั้นในเวลาที่เหลือ ทั้งคู่ไม่สามารถทำประตูเพิ่มได้ ทำให้จบการแข่งขัน ทีมชาติไทย เอาชนะ ทีมชาติกัมพูชา 3-1 ทีมชาติไทยเข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่ม เอ โดยมีแต้มเท่ากับ อินโดนีเซีย ที่ 10 แต้ม แต่ลูกได้เสียดีกว่า โดยจะเข้าไปรอพบรองแชมป์กลุ่ม บี ในวันที่ 7 ม.ค. 66

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

ทีมชาติไทย : กิตติพงษ์ ภูแถวเชือก (ผู้รักษาประตู), พรรษา เหมวิบูลย์, กฤษดา กาแมน, ศุภนันท์ บุรีรัตน์, ศศลักษณ์ ไหประโคน(สุมัญญา ปุริสาย แทน น.45) , ธีราทร บุญมาทัน (กัปตัน), สารัช อยู่เย็น, เอกนิษฐ์ ปัญญา(พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี แทน น.45) , บดินทร์ ผาลา(ปรเมศย์ อาจวิไล แทน น.87), อดิศักดิ์ ไกรษร(ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว แทน น.45) , ธีรศิลป์ แดงดา

ทีมชาติกัมพูชา : แก้ว สกเสลา(ผู้รักษาประตู) , ชอน ชานเชฟ , เทส สัมบัต(เธียร์รี่ จันทา บิน แทน น.77) , เสือย วิสาล , ลิม พิโสธ , ออน จันโพลิน (บอริส ก็อก แทน น.77), เซียง จันเธีย , โสส สุฮะนา , เรือง บุนเหียง(ซา ตี้ แทน น.45) , ยือ มุสลิม , เสือธ บาเรียง

แมน ออฟ เดอะ แมตช์ : ธีรศิลป์ แดงดา (ทีมชาติไทย)