"ช้างศึก" งานไม่ง่ายบุก "เสนายัน" นรกของทีมเยือน โดย "มาโน่" จะขาดแค่ "ฉัตรมงคล" ที่ไม่ได้เดินทางมาด้วยหลังต้องผ่าตัดจมูก พร้อมรอเช็คฟิต "กัปตันธีราทร" นอกนั้นพร้อมจัดชุดที่แกร่งสุดลงบู๊ "ธีรศิลป์" ฟอร์มกำลังกระฉูดจับคู่ "อดิศักดิ์" ที่ซัดเม็ดแรกในเกมล่าสุดลงซัลโวตาข่ายเช่นเดิม ด้านเจ้าถิ่นอินโดนีเซีย ที่โรเตชั่นพักแข้งหลักเกมบุกถล่มบรูไร 7-0 เตรียมกลับมาใช้ชุดใหญ่ไฟกระพริบอีกครั้ง นำทัพโดยดาวซัลโวของทีมอย่าง เอกี้ ฟิกรี้, วิตัน ซูเลมาน, รัคมัต อีร์ยานโต ขณะที่สถิติชี้ชัดดวลกันเวทีอาเซียนคัพ 14 นัด ไทยข่มมิดชนะถึง 9 นัด ปราชัยให้อิเหนาแค่ 2 เกมเท่านั้น โดยคู่นี้จะเตะที่สังเวียนแข้งเสนายัน 4 โมงครึ่ง ยิงสดช่อง MCOT HD กับช่อง T-Sport 7
การแข่งขันฟุตบอลเอเอฟเอฟ มิตซูบิชิ อิเล็คทริก คัพ 2022 ประจำวันพฤหัสบดีที่ 29 ธ.ค.65 ที่สนามเกโลรา บุง การ์โน สเตเดียม (เสนายัน) เวลา 16.30 น. เป็นเกมรอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอ คู่ระหว่าง อินโดนีเซีย รองจ่าฝูงที่มี 6 แต้ม จาก 2 นัด เปิดรังรับมือ ทีมชาติไทย จ่าฝูงที่ลงเตะ 2 นัด มี 6 แต้ม แต่ผลต่างประตูได้-เสียทีมเยือนดีกว่าถ่ายทอดสดทางช่อง MCOT HD หมายเลข 30 และช่อง T-Sport 7
ความพร้อมของเจ้าถิ่นอินโดนีเซีย ที่มี "ชิน แท-ยง" คุมทัพ ประเดิม 2 เกมแรกด้วยการซิว 6 แต้มเต็มทั้งเปิดบ้านเฉือน กัมพูชา 2-1 และเกมล่าสุดบุกถล่ม บรูไน 7-0 ซึ่งเกมนี้มีการพักผู้เล่นตัวหลักไปหลายคน เพื่อเก็บไว้ใช้งานในเกมที่จะพบกับทัพ "ช้างศึก" เพื่อหวังล้างแค้นต่อหน้าแฟนบอลที่จะเข้าไปเชียร์เต็มความจุของเสนายันแน่นอน
โดยเกมนี้เฮดโค้ชชาวเกาหลีใต้ พร้อมจัดขุมกำลังของ "อิเหนา" ชุดที่ดีที่สุดลงสนามแน่ ไม่ว่าจะเป็น เอกี้ ฟิกรี้ ที่ซัดไปแล้ว 2 ตุง, วิตัน ซูเลมาน, รัคมัต อีร์ยานโต, ฟัครูดิน อาร์ยันโต ฯลฯ นอกจากนี้ยังมี ปราตามา อาร์ฮาน แบ็คซ้ายวัย 21 ปีที่ค้าแข้งกับโตเกียว เวอร์ดี้ ทีมในศึกเจลีก 2 ประเทศญี่ปุ่น ก็พร้อมลงเล่นเช่นเดียวกัน
ขณะเดียวกันเจ้าบ้านยังมีบรรดาตัวทีเด็ดจากนัดเตะโอนสัญชาติ ที่มาเล่นให้อินโดนีเซียอย่าง อิลิยา สปาโซเยวิช หัวหอกมอนเตเนโกร, มาร์ค คล็อค กองกลางเนเธอร์แลนด์ รวมไปถึง ฆอร์ดี อามัต แนวรับสเปน อีกด้วย
ด้านทีมเยือนทัพ "ช้างศึก" ที่มี "มาโน่ โพลกิ้ง" คุมทัพ โดยมี "มาดามแป้ง" นวลพรรณ ล่ำซำ เป็นผู้จัดการทีม ออกสตาร์ต 2 เกมได้ดีไม่แพ้กันหลังบุกเอาชนะ บรูไน 5-0 และเกมล่าสุดเปิดบ้านทุบ ฟิลิปปินส์ 4-0 และเป็นทีมเดียวในกลุ่ม เอ ที่ยังไม่เสียประตูแม้แต่ลูกเดียว
โดยเกมนี้ทีมเยือนจะหมดสิทธิ์ใช้งาน ฉัตรมงคล เรืองฐนโรจน์ แบ็กซ้ายวัย 20 ปี ที่ไม่ได้เดินทางมาด้วยหลังต้องเข้ารับการผ่าตัดจมูก ขณะที่ "กัปตันอุ้ม" ธีราทร บุญมาทัน ที่เป็นตะคริวและลูกเปลี่ยนตัวออกช่วงท้ายเกมไม่บาดเจ็บอะไรมาก และพร้อมลงสนามนำทัพเหมือนเดิม
ในส่วนของ 11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนามยังคงมาในระบบ 4-4-2 และอาจไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก กิตติพงษ์ ภูแถวเชือก ลงเฝ้าเสาต่อเนื่อง เช่นเดียวกับแผงแบ็กโฟว์ที่ไม่น่าเปลี่ยนทั้งคู่เซ็นเตอร์เป็น พรรษา เหมวิบูลย์ กับ กฤษดา กาแมน แบ็กสองฝั่งใช้ ศุภนันท์ บุรีรัตน์ ฝั่งขวา ศศลักษณ์ ไหประโคน ยืนฝั่งซ้าย
ขณะที่แผนกองกลางหาก "กัปตันอุ้ม" ธีราทร บุญมาทัน เช็คความฟิตไม่เต็มร้อยจริงๆก็ยังมี วีระเทพ ป้อมพันธุ์ รวมถึง พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี ที่พร้อมลงทำการประสานงานกับ สารัช อยู่เย็น ส่วนฝั่งซ้าย บดินทร์ ผาลา จองพื้นที่อยู่แล้ว
ส่วนฝั่งขวาหากจะดร็อป เอกนิษฐ์ ปัญญา ที่ลงตัวจริงมา 2 เกมติดดูล้าๆ ก็ยังมีตัวสำรองอย่าง เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ รวมทั้ง ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว ที่พร้อมเป็นตัวเลือกเช่นกัน และคู่กองหน้ายังเป็น ธีรศิลป์ แดงดา ที่ฟอร์มกำลังฮอตซัด 2 ประตูในเกมที่แล้ว ยังพร้อมยืนจับคู่กับ อดิศักดิ์ ไกรษร ลงล่าตาข่ายเช่นเดิม
สำหรับสถิติการพบกันในเวลา 90 นาทีเวทีชิงแชมป์อาเซียนนับตั้งแต่จัดการแข่งขันขึ้นมาเมื่อปี 1996 ปรากฏว่า เจอกัน 14 นัด ไทย ชนะ 9 นัด เสมอ 3 นัด และแพ้ อินโดนีเซีย 2 นัด โดยทัพ "ช้างศึก" ยิงไป 35 ลูก ส่วน "อิเหนา" ยิงไป 19 ประตู