ตำแหน่งต่อตำแหน่ง! วิเคราะห์ขุมกำลัง บีจี ปทุม-เมืองทอง ก่อนชิงลีกคัพ

ตำแหน่งต่อตำแหน่ง! วิเคราะห์ขุมกำลัง บีจี ปทุม-เมืองทอง ก่อนชิงลีกคัพ
วันอาทิตย์ที่ 16 มิถุนายน บีจี ปทุม ยูไนเต็ด จะลงสนามห้ำหั่นกับ เมืองทอง ยูไนเต็ด ในนัดชิงชนะเลิศ รีโว่ ลีก คัพ 2023-24 ว่าแล้ว 'SIAMSPORT' จึงขันอาสามาวิเคราะห์ขุมกำลังของทั้งสองสโมสรแบบเจาะลึกกันแบบตำแหน่งต่อตำแหน่ง!!

   *** รีโว่ ลีก คัพ 2023-24 นัดชิงชนะเลิศ ระหว่าง บีจี ปทุม ยูไนเต็ด กับ เมืองทอง ยูไนเต็ด แข่งขันกันวันอาทิตย์ที่ 16 มิถุนายน เวลา 18:00 น. ถ่ายทอดสดทาง AIS PLAY, True visions NOW และ 3BB GIGA TV ***

ผู้รักษาประตู 

บีจี ปทุม ยูไนเต็ด

   ด้วยความที่ พิศาล ดอกไม้แก้ว ติดโทษพักแข้ง ทำให้มือหนึ่งของกระต่ายแก้วจึงเป็น กิตติพงศ์ ภูแถวเชือก ค่อนข้างแน่ และจอมหนึบชาวกาฬสินธุ์ ก็จัดเป็นนายทวารชั้นนำของลีก ด้วยประสบการณ์ รวมถึงฝีมือในการเซฟประตูที่ไม่ปล่อยให้บอลผ่านตนเองไปได้ง่ายๆ เช่นกัน

เมืองทอง ยูไนเต็ด 

   นับตั้งแต่ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ กลับมาลงสนามอีกครั้งในเลกที่สอง แนวรับของกิเลนผยองดูดีมีราศีขึ้นทันตา ด้วยการบัญชาการจากผู้รักษาประตูทีมชาติไทย ที่การันตีความยอดเยี่ยมและมักจะมีช็อตป้องกันแบบมหัศจรรย์ให้เห็นบ่อยครั้ง

เซนเตอร์ฮาล์ฟ

บีจี ปทุม ยูไนเต็ด

   แม้จะจบอันดับ 4 ของ ไทยลีก 2023-24 แต่เมื่อมองถึงเกมรับ ฤดูกาลนี้ บีจี ปทุม มีปัญหาอยู่พอสมควร ซึ่งเป็นเรื่องเหลือเชื่อมากๆ เนื่องจากมีทั้ง วิคตอร์ คาร์โดโซ่, เซย์ดีน เอ็นเดีย, อีร์ฟาน ฟานดี้, จักพัน ไพรสุวรรณ, ชินภัทร ลีเอาะ และ ชนภัช บัวพันธ์ 

   ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากการที่แต่ละรายสลับกันได้รับบาดเจ็บ จนทำให้ความนิ่งในแผงหลังถูกลดถอนประสิทธิภาพ จนส่งผลให้เสียไปถึง 38 ประตู ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่มากพอสมควร เมื่อเทียบกับตัวผู้เล่นที่มีอยู่

   ดังนั้นถ้าแนวรับของเดอะ แรบบิทยังหาจุดลงตัวไม่ได้ บางทีนี่แหละจะเป็นจุดอ่อนที่ทำให้ เมืองทอง ใช้โจมตีในเกมนัดชิงชนะเลิศที่จะพบกัน

เมืองทอง ยูไนเต็ด 

   อดีตแชมป์ ไทยลีก 4 สมัย อาจจะโดนถลุงตาข่ายไปมากถึง 45 ประตู แต่ส่วนใหญ่นั้นเกิดขึ้นในเลกแรกที่คู่ปราการหลังตัวกลางไม่ลงตัว แถมยังไร้ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ในด่านสุดท้าย ทว่าพอถึงเลกที่สอง ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปโดยสิ้นเชิง

   ฌอง-โคล้ด บีลลง กลับมาประจำตำแหน่งได้ดีเยี่ยม ส่วนคู่ขา ไม่ว่าจะเป็น อี แช-ซอง หรือ ทรงวุฒิ ใคร่ครวญ ก็ล้วนแล้วแต่สอดประสานกันได้ลงตัว มันจึงทำให้กิเลนผยองอันดับพุ่งทะยานหลังผ่านปี 2024 เป็นต้นมา

  นี่เป็นอีกหนึ่งจุดแข็งของ เมืองทอง ในปัจจุบัน อาจจะไม่โดดเด่นนัก แต่รับประกันเลยว่าเกมรับของพวกเขานั้นยากแก่การจะเจาะเข้าไปจริงๆ

ฟูลแบ็ก

บีจี ปทุม ยูไนเต็ด

   เดอะ บลู แมชีน มีแบ็กสองฝั่งที่เก่งกันคนละแบบ ฟากขวา สันติภาพ จันทร์หง่อม กับ วาริส ชูทอง เหนียวแน่นและมีระเบียบวินัยสูงในเกมรับ ขณะที่ทางซ้าย อภิสิทธิ์ โสรฎา - วัฒนากรณ์ สวัสดิ์ละคร นั้นครอสบอลจากด้านข้างได้อันตราย

เมืองทอง ยูไนเต็ด

   ฝั่งขวาของ เมืองทอง นั้นคือแบ็กเบอร์ต้นของประเทศ กับมาตรฐานตลอดระยะเวลาเกือบสิบปีที่ ทริสต็อง โด สะสม แม้จะเปิดบอลน้ำล้นไปเยอะ แต่ภาพรวม ยังไงหมอนี่ก็จัดอยู่ในนักเตะเกรดทีมชาติอยู่ดี

   ส่วนฟากซ้าย นับตั้งแต่ได้ สถาพร แดงสี เข้ามา เกมรับของกิเลนผยองแน่นขนัดทันตาเห็น เขาอาจจะไม่โดดเด่น แต่เรื่องความชัวร์นั้นไว้ใจได้เลย ไม่มีพลาดง่ายๆ แม้ว่าอายุอานามกว่า 36 ปี แล้วก็ตาม

กองกลาง

บีจี ปทุม ยูไนเต็ด

   ยอดทีมแห่งรังสิต-ปทุมธานี สะสมกองกลางชั้นนำของประเทศไว้มากมาย ไล่ตั้งแต่ สารัช อยู่เย็น, กฤษดา กาแมน, พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล, เชาว์วัฒน์ วีระชาติ รวมไปถึง กนกพล ปุษปาคม ที่สามารถลงเล่นแทนที่กันได้ทุกราย

   ด้วยความที่อุดมไปด้วยมิดฟิลด์ที่เก่งกาจ มันจึงทำให้ มาโกโตะ เทกูระโมริ ต้องปวดขมับในการจัดทัพ เนื่องจากแต่ละคนต่างก็มีประโยชน์ต่อทีมในรูปแบบที่แตกต่างกันไป

   นอกจากกองกลางที่เก่งกาจ บีจี ปทุม ยังมีเพลย์เมเกอร์อย่าง ชนาธิป สรงกระสินธ์ และ เฟร็ดดี้ อัลวาเรซ ที่สามารถพลิกสถานการณ์ของเกมได้ในเสี้ยววินาที ไม่ว่าจะจ่ายแบบคิลเลอร์พาสหรือสบช่องส่องประตูด้วยตัวเอง

เมืองทอง ยูไนเต็ด

   แผงมิดฟิลด์ของกิเลนผยองค่อนข้างลงตัว เพราะมี พิชา อุทรา เป็นตัวหลัก แม้จะเสีย วีระเทพ ป้อมพันธ์ ไปให้ แบงค็อก ยูไนเต็ด ในเลกที่สอง แต่ก็ได้ ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร คัมแบ็กสู่ฟลอร์หญ้าอีกครั้ง และก็ดูจะทำให้เกมลื่นไหลยิ่งกว่าเก่าเสียด้วย

   นอกจากนี้พวกเขายังมี กานต์นริทร์ ถาวรศักดิ์, ธีระพล เยาะเย้ย และ วงศกร ชัยกุลเทวินทร์ ที่พร้อมลงสนามทุกเมื่อ 

   ขณะที่กองกลางตัวรุก เมืองทอง ก็น่าอิจฉาเหลือเกินกับฟอร์มของ คคนะ คำยก รวมไปถึง ปุรเชษฐ์ ทอดสนิท สองแข้งอนาคตไกลที่ทำผลงานได้ไฉไลในซีซั่น 2023-24 พ่วงด้วย โคทาโระ โอโมิริ นักเตะญี่ปุ่น ผู้มีเซ้นส์ฟุตบอลอันเหลือร้าย 

ปีก

บีจี ปทุม ยูไนเต็ด

   ด้วยความที่ บีจี ปทุม มีกองกลางและศูนย์หน้าระดับทีมชาติไทย เต็มไปหมด ทำให้พวกเขาไม่เน้นผู้เล่นในตำแหน่งนี้เท่าใดนัก แต่ถ้าต้องใช้ระบบ 4-3-3 เดอะ แรบบิทก็ขยับ ชนาธิป สรงกระสินธ์ หรือ เฟร็ดดี้ อัลวาเรซ ออกไปด้านข้างได้เช่นกัน

เมืองทอง ยูไนเต็ด

   กิเลนผยองคือทีมที่เน้นการบุกจากด้านข้าง ดังนั้นนักเตะในตำแหน่งนี้ของพวกเขาจึงศักยภาพสูงลิ่ว ไม่ว่าจะ เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ หรือ วิลเลียน พ็อพพ์ นั้นสามารถสร้างสรรค์โอกาส รวมไปถึงสังหารสกอร์เองได้เฉียบคม

   อย่างไรก็ตาม พ็อพพ์ นั้นติดโทษพักแข้ง ทำให้อดลงสนามในนัดชิงชนะเลิศแน่นอน ซึ่งจุดนี้แหละคือสิ่งที่ อุทัย บุญเหมาะ และ มิลอส ย็อคซิช โค้ชคู่ของพวกเขาต้องเฟ้นหาวิธีแก้ไข เพราะแนวรุกชาวบราซิล นั้นมีความสำคัญต่อทีมมากจริงๆ และการไม่มีแข้งหมายเลข 7 นั้นทำให้ศักยภาพในแดนบนของทีมลดลงไปเกินเลยทีเดียว

กองหน้า

บีจี ปทุม ยูไนเต็ด

   เป็นอีกตำแหน่งที่ บีจี ปทุม สะสมนักเตะไว้มากมาย ไล่ตั้งแต่ ธีรศิลป์ แดงดา, ชนานันท์ ป้อมบุปผา, เจนรบ สำเภาดี และรวมไปถึง อิกอร์ เซอร์เกเยฟ กับ อิ๊กห์ซาน ฟานดี้ วองโควตาต่างชาติ

   ทั้งนี้ เซอร์เกเยฟ นั้นปิดเทอมยาวไปแล้ว เพราะได้รับบาดเจ็บจากการเล่น เอเชียน คัพ 2023 แต่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบใดมากนัก เนื่องจากเดอะ แรบบิทอุดมไปด้วยหัวหอกชั้นนำของเมืองไทย มากมาย

เมืองทอง ยูไนเต็ด 

   ฤดูกาล 2023-24 เมืองทอง สลับใช้ระหว่าง สเตฟาน เชโปวิช กับ ปรเมศย์ อาจวิไล โดยเฉพาะรายหลังที่กำลังก้าวข้ามสู่การเป็นนักเตะระดับทีมชาติแบบเต็มตัว ด้วยฟอร์มที่สม่ำเสมอ และยังรักษามาตรฐานได้ต่อเนื่องจนพัฒนาตัวเองไปไกลแล้ว


ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport
X