เทพศิรินทร์ คว้าแชมป์จตุรมิตร ครั้งที่ 31 หลังชนะ กรุงเทพคริสเตียน 2-0 ผงาดสมัยที่ 7

การแข่งขัน ฟุตบอลจตุรมิตรสามัคคี ครั้งที่ 31 เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2568 เดินทางมาถึงรอบชิงชนะเลิศ ณ สนามศุภชลาศัย โดยเป็นการพบกันระหว่าง เทพศิรินทร์ ที่ชนะ 3 นัดรวดในรอบแรก ดวลกับ กรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย แชมป์ร่วมจากครั้งก่อน

เกมนี้ทั้งสองทีมจัดผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามเต็มอัตรา โดยฝั่งเทพศิรินทร์ได้ ปราชญ์ แสงสว่าง กองหลังตัวหลักที่เจ็บจากเกมแรกกลับมาช่วยทีม ส่วนแนวรุกมี ปวริศ บุญมาเลิศ, รุสกี กาเดร์ และ อนุชา สะแกคุ้ม เป็นตัวทีเด็ด

ด้านกรุงเทพคริสเตียนส่ง วิชั่น อินอร่าม กองหลังทีมชาติชุดซีเกมส์ลงเล่นแม้มีอาการเจ็บข้อเท้า รวมถึงได้ ณัฐกิตต์ โพธิ์ศรี ปีกซ้ายตัวเก่งที่ได้รับไฟเขียวจากสโมสรการท่าเรือ กลับมาช่วยทีมในนัดชิง

เทพศิรินทร์ขึ้นนำ 1-0 ตั้งแต่ครึ่งแรก

นาทีที่ 25 เทพศิรินทร์ขึงเกมรุกจากฝั่งซ้าย ก่อนที่อนุชา สะแกคุ้มจะเปิดบอลให้ปวริศ บุญมาเลิศขึ้นโหม่งไปติดเซฟ พงศพัศ ศุขเกษม แต่บอลยังเด้งมาเข้าทาง ปวริศ ซ้ำดาบสองไม่พลาด ส่งทีมออกนำ 1-0

นาทีที่ 33 พิชญะ คงศรี ของกรุงเทพคริสเตียน ลองยิงไกลเกือบ 30 หลา แต่ พิพรรธ ประคองพันธุ์ ยังป้องกันไว้ได้ ทำให้จบครึ่งแรก เทพศิรินทร์นำ 1-0

ครึ่งหลังย้ำชัย 2-0 ผงาดแชมป์สมัยที่ 7

ครึ่งหลังรูปเกมยังสูสี กระทั่งเทพศิรินทร์มาได้ประตูตอกย้ำชัยชนะจากจังหวะฟรีคิกของปวริศ บุญมาเลิศ ยิงไปเสาแรก พงศพัศปัดไม่ขาด บอลลอยมาเข้าทาง ศิรณัฏฐ์ ศีวลักษณ์ ซ้ำจ่อ ๆ เข้าไป ทำให้ทีมออกนำ 2-0

จบเกม เทพศิรินทร์เอาชนะไป 2-0 คว้าแชมป์แบบสมศักดิ์ศรี พร้อมทำสถิติ แชมป์สมัยที่ 7 ของสโมสร แบ่งเป็นแชมป์เดี่ยว 3 ครั้ง และแชมป์ร่วม 4 ครั้ง อีกทั้งยืดสถิติ ไม่เคยแพ้กรุงเทพคริสเตียนในนัดชิง เป็นครั้งที่ 6 ติดต่อกัน

ส่วนทางด้านกรุงเทพคริสเตียนยังคงถือสถิติแชมป์รวมสูงสุดร่วมกับสวนกุหลาบที่ 14 สมัย

ผลนัดชิงอันดับ 3

อัสสัมชัญ เจ้าภาพ เอาชนะ สวนกุหลาบวิทยาลัย 2-0 จากผลงานของ ยงศิลป์ ขวัญทอง และ ณัฐวัตร หนาดทอง ในนาทีที่ 8 และ 84

กำหนดเจ้าภาพครั้งต่อไป

ฟุตบอลจตุรมิตรสามัคคี ครั้งที่ 32 จะจัดขึ้นในปี 2570 โดย กรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย รับหน้าที่เป็นเจ้าภาพ