อ.สกล เกลี้ยงประเสริฐ ตำนานโค้ชระดับโรงเรียน ผู้เคยพา สุรศักดิ์มนตรี เข้าชิงฟุตบอล 7 สี 5 ปีติด คว้าแชมป์ 3 สมัย ล่าสุดพา หมอนทองวิทยา ทะลุชิงอีกครั้ง ด้วยแนวคิดสร้างเด็ก พัฒนาใกล้ชิด และดูแลนักเตะด้วยตัวเองตั้งแต่ในห้องเรียนจนถึงข้างสนาม
ฟุตบอลนักเรียนไทย ไม่ได้เติบโตขึ้นเพียงจากระบบการแข่งขัน แต่เกิดขึ้นจาก “ครู” ที่มอบโอกาสให้เด็กจำนวนมากได้เดินบนเส้นทางลูกหนัง อ.สกล เกลี้ยงประเสริฐ คือหนึ่งในบุคคลที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุดในยุค 10 ปีหลังของวงการฟุตบอลระดับมัธยมศึกษา หลังสร้างผลงานเป็นรูปธรรมกับหลายโรงเรียน และส่งนักเตะสู่สโมสรอาชีพจำนวนมาก
อ.สกล เติบโตจากรั้ว เทพศิรินทร์ โรงเรียนที่มีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมฟุตบอลเข้มข้น ความผูกพันกับลูกหนังจึงเริ่มตั้งแต่วัยเรียน และกลายเป็นส่วนหนึ่งของตัวตน รวมถึงมุมมองเรื่อง “กีฬา = ชีวิตที่สร้างได้ด้วยวินัยและโอกาส”
เส้นทางโค้ชเริ่มจาก โรงเรียนศูนย์รวมน้ำใจ คลองเตย ก่อนถูกทาบทามสู่การคุมทีม ราชวินิตบางแก้ว ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ
ที่นี่ อ.สกล ใช้หลักการฝึกเพื่อพัฒนาตัวนักเตะ ไม่ใช่เพื่อแข่งขันเพียงอย่างเดียว
ผลงานเริ่มส่งผลจนมีนักฟุตบอลจำนวนมากถูกดึงเข้าสู่ สโมสรอาชีพ เช่น
ธนาคารกรุงเทพ
ราชนาวี
สโมสรในระดับไทยลีกต่าง ๆ
ความสำเร็จในเวลานั้นทำให้ชื่อของราชวินิตบางแก้ว กลายเป็นสถาบันฟุตบอลระดับประเทศ และนำไปสู่การสนับสนุน งบประมาณกว่า 15 ล้านบาท เพื่อสร้าง สนามฟุตบอลมาตรฐาน สำหรับพัฒนาระบบเยาวชน ซึ่งถือเป็นนโยบายสำคัญในการยกระดับเด็กไปสู่เส้นทางอาชีพ
ต่อมา อ.สกล ย้ายมาสูง โรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี
ที่นี่ ไม่ใช่การเริ่มจากศูนย์
แต่คือการวางระบบ ตั้งราก ของทีมให้มั่นคง
สุรศักดิ์มนตรี กลายเป็นสถาบันลูกหนังที่มีเอกลักษณ์–วินัยสูง–เป้าหมายชัดเจน
อ.สกล และทีมงาน ลงพื้นที่คัดเด็กถึงต่างจังหวัด แม้กระทั่งบนภูเขา เพื่อมอบ “โอกาสแรกในชีวิต” ให้เยาวชนที่ไม่มีเส้นทาง
ผลงานเด่นที่สุดคือ ฟุตบอล 7 สี
เข้าชิง 5 ปีติดต่อกัน: 2014, 2015, 2016, 2017, 2018
และ คว้าแชมป์ 3 ครั้ง: 2015, 2017, 2018
พร้อมส่งนักเตะสู่ระดับอาชีพและทีมชาติ เช่น
ศศลักษณ์ ไหประโคน
ณัฐวุฒิ สุขสุ่ม
ธีรศักดิ์ เผยพิมาย
สุรศักดิ์มนตรี ในเวลานั้น เป็นโรงเรียนที่รับหน้าที่ ป้อนเยาวชนเข้าสู่ระบบอคาเดมี่ของ แบงค็อก ยูไนเต็ด และหลายสโมสรอาชีพอีกด้วย
ฟุตบอลถูกใช้เป็น เครื่องสร้างคน ไม่ใช่เครื่องสร้างชื่อเสียง
หลังใกล้เกษียณ อ.สกล ย้ายไปช่วย ราชประชานุเคราะห์ 46 จังหวัดชัยนาท
เป็นงานที่มี “คุณค่ามากกว่ารางวัล” เพราะคือการ ช่วยเด็กกลับมายืนในสังคมด้วยฟุตบอล แม้ทำงานได้ดีแต่ภายหลังผู้บริหารย้าย ทำให้โครงการต้องหยุดกลางทาง
อ.สกล เดินทางสู่ หมอนทองวิทยา
โรงเรียนที่ไม่มีชื่อในวงการฟุตบอลนักเรียนมาก่อน
และที่นี่…ไม่ใช่การเริ่มจากศูนย์
แต่คือการเริ่มจาก “ติดลบ”
อ.สกล ลงมือ ขับรถรับ-ส่งนักบอลไปแข่งขันเอง
ดูเรื่องตารางเรียน
จัดโภชนาการ
สร้างวินัย
สอนวิธีใช้ฟุตบอลเป็นทางเดินชีวิต
ผลลัพธ์คือ เข้าชิงฟุตบอล 7 สี ปีล่าสุด
เทียบชั้นสถาบันลูกหนังระดับประเทศ
สิ่งที่ อ.สกล ทำมาตลอดชีวิตไม่ใช่ “โค้ชฟุตบอล”
แต่คือ ครูผู้สร้างอนาคต
ฟุตบอลที่เขาสอน…คือการ ให้เด็กเห็นว่าตัวเองมีค่า
สนามฟุตบอล…กลายเป็น พื้นที่เริ่มต้นชีวิตใหม่
ชัยชนะที่แท้จริง…ไม่ใช่ถ้วย
แต่คือ เด็กที่ยืนได้ด้วยตัวเอง