ดร.เสนีย์ สุวรรณดี รองอธิการบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต เปิดเผยว่าจากการที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้วันที่ 16 ธ.ค.ของทุกปี เป็นวันกีฬาแห่งชาติและด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดไม่ได้ของพระมหากษัตริย์นักกีฬา มหาวิทยาลัยโดย ศูนย์นวัตกรรมการพัฒนาทุนมนุษย์จึงผนึกเครือข่ายภาครัฐและเอกชนประกอบด้วย สถาบันการจัดการกีฬาเพื่อองค์กรกีฬา (WISDOM), สมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย, บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน), บริษัทไทย เบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) โดยเครื่องดื่มตราช้าง, คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตจักรพงษภูวนารถ และภาคีเครือข่ายทางการกีฬากำหนดจัดโครงการธนาคารกีฬาสัญจร ด้วยการเปิดคลินิกฟุตบอลให้กับเด็กและเยาวชนทั่วไปวัย 8-15 ปี เนื่องในสัปดาห์วันกีฬาแห่งชาติวันเสาร์ที่ 10 ธ.ค.65
สำหรับงานในวันที่ 10 ธ.ค.65 จะมีขึ้นระหว่างเวลา 08.00-13.00 น. ที่สนามฟุตบอลการกีฬาแห่งประเทศไทย (สนามกกท.1) หัวหมาก กรุงเทพมหานคร มีวัตถุประสงค์เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในฐานะพระมหากษัตริย์นักกีฬาตลอดจนร่วมสนับสนุนกิจกรรมวันกีฬาแห่งชาติของการกีฬาแห่งประเทศไทย และวางรากฐานการเล่นฟุตบอลให้กับเด็กและเยาวชน
ในการจัดโครงการดังกล่าวเป็นหนึ่งในมิติที่มหาวิทยาลัยตระหนักและให้ความสำคัญกับการพัฒนาและยกระดับการกีฬาของประเทศและในฐานะที่กีฬาฟุตบอลเป็นสุดยอดของกีฬามหาชนที่เด็กและเยาวชนทั่วไปให้ความสนใจกันเป็นอย่างมากการเปิดคลินิกฟุตบอลผ่านโครงการธนาคารกีฬาสัญจรด้วยการเพาะพันธุ์ต้นกล้ากีฬาลูกหนังในครั้งนี้คาดว่าจะเป็นหนึ่งในโมเดลสำหรับการส่งเสริมและสนับสนุนการกีฬาของประเทศได้ในระดับหนึ่ง
ผศ.ดร.รัฐพงศ์ บุญญานุวัตร ผู้อำนวยการศูนย์นวัตกรรมการพัฒนาทุนมนุษย์ เผยเพิ่มเติมว่าการจัดโครงการธนาคารกีฬาสัญจรด้วยการเปิดคลินิกฟุตบอลเนื่องในวันกีฬาแห่งชาตินั้น ปีนี้นับเป็นปีที่ 3 ที่ศูนย์นวัตกรรมการพัฒนาทุนมนุษย์ ได้ผนึกพลังร่วมกับภาคีเครือข่ายดำเนินการ ประกอบกับในห้วงเวลานี้เด็กและเยาวชนกำลังสนใจติดตามการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 ดังนั้นการเปิดคลินิกฟุตบอลในครั้งนี้จึงเป็นหนึ่งในมิติที่จะได้ร่วมสร้างแรงบันดาลใจตลอดจนวางรากฐานการเล่นกีฬาฟุตบอลที่ถูกต้องให้กับทรัพยากรของชาติที่จะก้าวไปสู่การเป็นนักกีฬาคุณภาพแห่งอนาคต
ผศ.ดร.รัฐพงศ์ เผยอีกว่า เด็กๆที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับการถ่ายทอดทักษะและเทคนิคการเล่นฟุตบอลสมัยใหม่จากอดีตผู้ฝึกสอนและนักกีฬาฟุตบอลทีมชาติไทยภายใต้การนำของ "โค้ชหนุ่ย" เฉลิมวุฒิ สง่าพล, "โค้ชหนึ่ง" ดร.หนึ่งฤทัย สระทองเวียน, "โค้ชโต่ย" ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย, "เสือเตี้ย" พ.ต.ท.ประสงค์ พันธุ์สวัสดิ์, "โค้ชอ๊อด" ร.ท.ธีระพงษ์ ขุนจิตใจ และที่สำคัญโครงการดังกล่าวยังเปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชนส่งคลิปทักษะการเล่นกีฬาฟุตบอลเข้าแข่งขันเพื่อชิงรางวัลทุนการศึกษาด้วย