"บาส" ฐิติภัส เอกอรัญพงศ์ แข้งไทยคนใหม่ความหวังเอสลีก

"บาส" ฐิติภัส เอกอรัญพงศ์ แข้งไทยคนใหม่ความหวังเอสลีก
กลายเป็นนักเตะวัยใสที่น่าจับตามองเพราะด้วยอายุและฝีเท้ายังมีโอกาสยกระดับพัฒนาตัวเองอีกมาก สำหรับ "บาส" ฐิติภัส เอกอรัญพงศ์ ไอ้หนูวัย 19 ปีที่ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ปล่อยยืมตัวไปโลดแล่นฟุตบอลอาชีพต่างแดนให้กับสโมสรแทมปิเนส โรเวอร์ ยอดทีมในศึกสิงคโปร์พรีเมียร์ลีก

เส้นเรื่องการเจริญเติบโตของแข้งวัยรุ่นรายนี้มีเรื่องราวต่างๆมากมายในการต่อสู้ทั้งในแง่มุมส่วนตัวและครอบครัวที่คอยสนับสนุนจนเส้นทางฟุตบอลอาชีพมาเยือนในวัยไม่ถึง 20 ปีอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่จรดปากกากับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ในวัยเพียง 18 ปีและให้หลังไม่นานขยับออกไปค้าแข้งต่างแดนด้วยวัย 19 ปี

จุดหักเหของชีวิต "บาส" ฐิติภัส เอกอรัญพงศ์ ที่น่าสนใจคือการตั้งปณิธานกับตัวเองว่าจะเล่นกองหน้าให้ได้เพราะที่ผ่านมาวัฒนธรรมฟุตบอลวัยเด็กถูกมองว่าเป็นนักเตะที่มีสรีระสูงใหญ่ตำแหน่งที่ใช่โค้ชส่วนใหญ่จึงจิ้มไปเล่นกองหลัง  ในมุมของความเชื่อมั่นตัวเขาเองเชื่อว่าสามารถเป็น กองหน้า ที่ดีได้

กราฟการเติบโตท่ามกลางความหมั่นเพียรต่อสู้เผชิญทุกปัญหาฝ่าฟันด้วยการฝึกฝนอย่างหนักทำให้ฝีเท้าของเด็กหนุ่มหน้าใสรายนี้ไปเข้าตาทีมงานแมวมองของ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด จนต้องรีบส่งต่อรายละเอียดความโดดเด่นให้ "โค้ชง้วน"สุรชัย จตุภัทรพงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคสโมสรยักษ์ใหญ่เมืองไทย บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ถึงขั้นตามดูฟอร์มในการแข่งขันฟุตบอลยูธลีก สมัยโลดแล่นให้กับคลองโคน อะคาเดมี่

นี่คือบทบัญญัตินักสู้ของนักเตะหน้าหล่อ "บาส" ฐิติภัส เอกอรัญพงศ์ ที่ใช้ความสามารถของตัวเองทุกอย่างในการปูทางเข้าสู่เส้นทางฟุตบอลอาชีพอย่างเต็มตัวและพร้อมที่จะสานฝันตัวเองต่อไปสำหรับอนาคตนั่นคือโอกาสไล่ล่าธงไตรรงค์มาติดหน้าอกในการรับใช้ทีมชาติไทย

คุณพ่อ,พี่ชาย จุดกำเนิดฝัน

"บาส"ฐิติภัส เอกอรัญพงศ์ เกิดในอำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี คุณพ่อประวิทย์ เอกอรัญพงศ์ และคุณแม่พรรณี ตั้งกิจกชกร คือแรงขับชั้นดีที่ทำให้ บาส พุ่งตรงเข้าสู่วงการลูกหนังตั้งแต่เด็กโดยมีพี่ชาย 2 คนที่มีความบ้าในฟุตบอลไม่แตกต่างกัน พยายามต่อเติมฝันซึ่งกันและกันมาเรื่อยๆทั้งการฝึกซ้อมและแข่งขัน

เมื่อลูกมีความฝันอยากเป็นนักฟุตบอลอาชีพบวกกับพ่อที่หลงใหลคลั่งไคล้ในกีฬาฟุตบอลไม่แพ้กันจึงเลือกจัดสรรเวลาหาโอกาสให้ลูกชายคนเล็กของวงศ์ตระกูลได้เรียนรู้ศาสตร์ลูกหนังอย่างเต็มที่กับ อ.เด่น  พิศาล ร่ำไร อดีตกองหลังทีมชาติไทยและสโมสรธนาคารกสิกรไทย ,โอสถสภา ด้วยฐานะปานกลางของครอบครัวทุกคนจะต้องแสดงออกถึงวินัยในเรื่องของเวลาคุณพ่อประวิทย์ที่ทำงานเป็นผู้จัดการบริษัทเฟอร์นิเจอร์ชื่อดังแห่งหนึ่งย่านพระราม 2 จะต้องแจกแจงตารางการฝึกซ้อมการเดินทางให้กับ "บาส"ฐิติภัส เอกอรัญพงศ์ อย่างละเอียด นั่นคือจุดเริ่มของชีวิตลูกหนังอย่างจริงจัง

โค้ชเห็นตัวใหญ่ไล่ไปเล่นกองหลัง

การเป็นเด็กที่มีรูปร่างสูงใหญ่ทำให้ตัวเลือกในตำแหน่งที่โค้ชเล็งไว้ก่อนลงสนามคือตำแหน่งกองหลัง ซึ่ง "บาส" ยืนในตำแหน่ง เซนเตอร์แบ๊ค และ แบ๊คขวา ตั้งแต่สมัยเรียนที่โรงเรียนพระแม่สกลสงเคราะห์ พร้อมกับโอกาสในการเป็นหัวหน้าชุดหรือกัปตันทีมอย่างสม่ำเสมอจนหลายคนคิดว่าเส้นทางฟุตบอลจะคิดเอาดีในตำแหน่ง กองหลัง ที่ทำได้เป็นอย่างดี

ร้องไห้หนักมากไม่ติด อสช.ธนบุรี

"เจ้าสัวน้อย"อสช.ธนบุรี สถานศึกษาในฝันสำหรับการก้าวเดินในระดับมัธยมศึกษาตอนต้นเพื่อปูทางสู่ฟุตบอลอาชีพและการสร้างโอกาสตัวเองในการไปติดทีมชาติรุ่นใดรุ่นหนึ่ง "บาส" ฐิติภัส เอกอรัญพงศ์ และพ่อตัดสินใจหอบรองเท้าสตั๊ดไปต่อสู้สู้จนหลุดเข้าไปรอบสุดท้ายในการคัดเลือกนักเตะรุ่น พ.ศ 2547 ซึ่งเป็นการแบกอายุหนึ่งปี แต่ในโค้งสุดท้ายกับสถานศึกษาในฝันกลับไม่เป็นดั่งใจ ต้องพบกับความผิดหวังและเจ็บปวดบนคราบน้ำตา เพราะที่นี่ "บาส" หมายมั่นปั้นมือเป็นอย่างยิ่งที่จะเดินตามรอยเท้านักเตะดังๆของประเทศไทยที่ส่วนใหญ่ก็ผุดกำเนิดเกิดจากสถานศึกษาแห่งนี้แทบทั้งสิ้น

คำสั่งเด็ดขาดจากพ่อเรื่อง เบสิค

ความเสียใจที่เกิดขึ้นกลายเป็นจุดเริ่มต้นจริงจังของการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ "บาส" ฐิติภัส เอกอรัญพงศ์ หมั่นเพียรฝึกฝนตนเองอย่างหนักทั้งเข้าร่วมคอร์สการเรียนของสถานศึกษาลูกหนังรวมไปถึงการเล่นฟุตบอลให้กับพิชญบัณฑิตศึกษา ปากเกร็ด ภายใต้การดูแลของโค้ช ภูวนัย วงศ์คำภา ที่ยกทีมพากันไปเล่นฟุตบอลยูธลีกให้กับอาร์มี่ ยูไนเต็ด แต่สิ่งสำคัญที่คุณพ่อกำชับหนักแน่นกับ บาส คือเรื่องของการพัฒนาเบสิคฟุตบอลรวมไปถึงความแข็งแกร่งของร่างกายให้เติบโตควบคู่กันไปนอกจากฝึกฝนเป็นปกติแล้วพ่อจะหาเวลาว่างมาดูแล บาส ทั้งพาวิ่งและติวเข้มเรื่องศาสตร์ลูกหนังเพิ่มเติมโดยเฉพาะ เลี้ยง,ส่ง,โหม่ง,ยิง

ปฏิเสธ สวนกุหลาบฯ เพราะมีเป้าหมายชัดเจน

ช่วงอายุ 14-15 ปี "บาส" ฐิติภัส เอกอรัญพงศ์ ได้ถูกชักชวนให้ไปทดสอบฝีเท้าพิเศษนอกรอบให้กับสถาบันการศึกษาใหญ่ อย่างสวนกุหลาบวิทยาลัย เพื่อดึงตัวไว้สำหรับศึกฟุตบอลจตุรมิตร การทดสอบครั้งนั้นเป็นไปได้ด้วยดี แต่สิ่งสำคัญที่ทำให้เจ้าตัวไม่เลือกไปต่อกับทีมทางเนื่องจากอยากเล่นในตำแหน่งกองหน้ามากกว่ากองหลังและพ่อก็เสียดายเวลาในการฝึกฝนมาอย่างหนักก่อนหน้านี้พื่อการเล่นตำแหน่งกองหน้าหลังจึงคิดถึงเส้นทางใหม่ต่อไป

คลองโคนอะคาเดมี่ เลือกเพราะเป้าสำคัญ

ชีวิตการศึกษาถือว่าเป็นสิ่งสำคัญสำหรับสังคมไทย แต่การเลือกทำในสิ่งที่รักควบคู่กันไปจำเป็นต้องหาสถานศึกษาที่เหมาะสม "บาส" ฐิติภัส เอกอรัญพงศ์ กับพ่อตัดสินใจเลือกโรงเรียนอัมพวันวิทยาลัย จังหวัดสมุทรสงคราม เพราะเมื่อไล่ดูรายละเอียดแล้วสถานศึกษาแห่งนี้ที่ผูกติดกับคลองโคน อะคาเดมี่ มีการพัฒนาศักยภาพทั้งฝีเท้าและร่างกายให้เติบโตไปพร้อมๆกันในวัยก่อนเข้าประตูลูกหนังอาชีพ

ชีวิตที่จังหวัดสมุทรสงครามต้องปรับตัวในการเป็นนักเรียนประจำวางระเบียบวินัยให้กับตัวเองทั้งเรื่องของการพักผ่อน,ฝึกซ้อม,เล่าเรียนทุกอย่างเป็นขั้นตอน อีกทั้งยังเสริมสร้างความอดทนของสภาพจิตใจเพื่อพุ่งสู่เป้าหมายหลักในอนาคตนั่นคือฟุตบอลอาชีพ

บินฝึกลูกหนังแดนกิมจิรับสภาพกินยาแก้ปวดทุกวัน

"บาส" ฐิติภัส เอกอรัญพงศ์ เคยเป็น 1 ใน 5 ของขุนพลคลองโคน อะคาเดมี่ ซึ่งเป็นพันธมิตรกับสโมสรโปลิศ เทโรฯ ผ่านการคัดเลือกไปฝึกฝนฟุตบอลกับมหาวิทยาลัยแตกู ประเทศเกาหลีใต้ในช่วงสั้นๆประมาณ 2 สัปดาห์ การได้เปิดโลกฟุตบอลในครั้งนั้น บาส ยอมรับว่าการฝึกซ้อมที่เกาหลีใต้หนักหน่วงโหดเอาเรื่องเป็นอย่างมาก เพราะทุกอย่างเต็มไปด้วยความเข้มข้น ซึ่งการซ้อมเช้า-เย็น วันละ 2 มื้อ มีทั้งการฝึกร่างกายให้แข็งแกร่งและเรื่องของฟุตบอลส่งผลให้ต้องกินยาแก้ปวดทุกวันแต่ก็ได้รับประโยชน์จากการฝึกซ้อมมากมาย

ลาเทโรฯ ซบ บีจี ตามฝัน

คลองโคน อะคาเดมี่ ที่ผูกปิ่นโตกับสโมสรโปลิศ เทโรฯ ทีมดังในศึกฟุตบอลไทยลีก "บาส" ฐิติภัส เอกอรัญพงศ์ ได้โอกาสลงเล่นให้กับรุ่นอายุ 18 ปี ในศึกเอฟเอ ไทยแลนด์ ยูธลีก 2022/23   ด้วยฟอร์มการเล่นที่โดดเด่นส่งผลให้แมวมองของ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ติดตามสเก๊าท์ฟอร์มการเล่นอย่างต่อเนื่องจนสุดท้าย "โค้ชง๊วน" สุรชัย จตุภัทรพงศ์ ต้องไปตามดูฟอร์มบทสรุปเมื่อผ่านสายตาถูกทาบทามให้เซ็นสัญญาทันที

ขณะเดียวกันสโมสรโปลิศ เทโรฯ ก็เลือก 3 นักเตะจากคลองโคน อะคาเดมี่ ขึ้นชุดใหญ่ "บาส" ฐิติภัส เอกอรัญพงศ์ เป็น 1ใน 3 ที่ถูกเลือก แต่ด้วยความท้าทายและมองถึงการต่อสู้จากช่วงอายุเวลานี้การไปเริ่มต้นกับทีมใหญ่อย่าง บีจี ปทุม ยูไนเต็ด คืองานท้าทายที่ฝันมาตลอด ส่วนเพื่อนอีก 2 คนเลือกเดินหน้ากับเทโรฯ ต่อไป โดยรายของ ณัฐภัทร มากท้วม ตอนนี้มีบทบาทสำคัญในการเป็นผู้รักษาประตูให้กับโปลิศ เทโรฯ

แค่ซ้อมก็ใจเต้นร่วมทัพสตาร์ดัง

แม้ว่าการเลือกสโมสร บีจี ปทุม ยูไนเต็ด จะเป็นความตั้งใจอย่างแรงกล้า แต่ในใจของ "บาส" ฐิติภัส เอกอรัญพงศ์ วางเป้าหมายชัดเจนไว้แล้วว่าการมาสโมสรใหญ่แห่งนี้ทุกอย่างจะต้องต่อสู้อย่างหนักเพื่อโอกาสในสนามแข่งขัน พร้อมกับภาพจำอดีตที่ลอยขึ้นมาสมัยเคยไปเชียร์เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่ธันเดอร์โดม สเตเดียม ในยุคปี 2016 ที่ในทีมตอนนั้นเต็มไปด้วย สตาร์ดังมากมายปัจจุบันทั้ง ชนาธิป สรงกระสินธ์, ธีรศิลป์ แดงดา, สารัช อยู่เย็น คือนักเตะรุ่นพี่ในทีม แค่ได้โอกาสซ้อมกับทีมชุดใหญ่วันแรกทำเอาหัวใจพองโตตื่นเต้นจนแทบทำอะไรไม่ถูก มิหนำซ้ำยังถูกเคี่ยวการยิงประตูจากยอดกองหน้าทีมชาติไทย อัลเฟรด เนติพงษ์ ศรีทองอินทร์

ไทยลีกเกมแรก ในวัย 18 ปีเศษ

ใครจะเชื่อว่าเส้นบางๆของการตัดสินใจในการขยับมาสู่สโมสรยักษ์ใหญ่เมืองไทยยุคนี้จะได้รับโอกาสลงสนามบนเวทีลีกสูงสุดระดับเกมยักษ์ใหญ่ "บาส" ฐิติภัส เอกอรัญพงศ์ ถูกเปลี่ยนลงสนามแทนที่ของสตาร์ดังเบอร์ 1 เมืองไทย ชนาธิป สรงกระสินธ์ ในเกมไทยลีกนัดบิ๊กแมตช์ที่ บีจี ปทุมยูไนเต็ด บุกเยือน แบงค็อก  ยูไนเต็ด เมื่อวันที่ 25 กันยายน 6 6 เวลา 14 นาทีในสนามแข่งขันของเด็กวัย 18 ปี 8 เดือน 20 วันนั้น มันเป็นเกมแรกในชีวิตทำให้หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะด้วยความดีใจกับการเริ่มต้นทำตามฝันของตัวเองหลังจากฝึกฝนมาตลอดชีวิต แต่ข่มใจตัวเองว่านี่คือจุดเริ่มต้น

"ผมรู้สึกดีใจมากที่ได้โอกาสลงเล่นครั้งแรกให้ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ขอบคุณที่ให้โอกาสผม ผมจะพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น รู้สึกกดดันเล็กน้อยที่ต้องลงไปแทน "พี่เจ" ชนาธิป แต่ก่อนลงสนามทีมงานบอกกับผมให้ทำเต็มที่ ให้ตั้งใจลงไปสู้อย่างเดียว การได้รับโอกาสลงสนามทำให้ผมมีกำลังใจมากขึ้น"

เพื่ออนาคต ตัดสินใจลุยลีกต่างแดน

ช่วงต้นปี 2567 บีจี ปทุม ยูไนเต็ด แถลงปล่อยยืมตัว "บาส" ฐิติภัส เอกอรัญพงศ์ กองหน้าดาวรุ่งของทีม และ ธเนศ สุขเนตร กองหลังดาวรุ่งของทีมให้กับสโมสรแทมปิเนส โรเวอร์ ในศึกสิงคโปร์พรีเมียร์ลีก หรือ เอสลีก ยืมตัวด้วยสัญญา 1 ปี การไปเริ่มต้นในลีกต่างแดนด้วยวัยไม่ถึง 20 ปีและลีกที่มีมาตรฐานเป็นรองไทยลีกกองหน้าดาวรุ่งแห่งทุ่งรังสิตเปิดใจว่า

"การตัดสินใจมาเล่นฟุตบอลที่สิงคโปร์ให้กับแทมปิเนส โรเวอร์ เพื่อมาสร้างประสบการณ์การเล่นฟุตบอลอาชีพให้กับตัวเองรวมไปถึงการพัฒนาการเล่นฟุตบอลให้เกิดมิติหลากหลายมากขึ้น ซึ่งอายุของผมตอนนี้ยังไม่มากสามารถเดินหน้าต่อสู้เรียนรู้ฟุตบอลได้อีกมากมายและตั้งเป้าว่าจะทำให้ดีที่สุดในการออกมาค้าแข้งต่างแดน มันเป็นสิ่งที่รวดเร็วมากๆและเป็นการตัดสินใจที่ไม่ยากสำหรับการเดินทางมาที่ประเทศสิงคโปร์ ผมจะพยายามทำให้ดีที่สุด"

มิตรภาพ เพื่อนร่วมทีมต่างแดน

สำหรับการแข่งขันฟุตบอลสิงคโปร์พรีเมียร์ลีกหรือลีกสูงสุดของประเทศสิงคโปร์จะเริ่มเปิดฤดูกาลในวันที่ 11 พฤษภาคม 67 ซึ่งตอนนี้"บาส" ฐิติภัส เอกอรัญพงศ์ ที่เดินทางไปตั้งแต่เดือนมกราคมกำลังเดินหน้าเข้มข้นกับการปรับตัวฝึกซ้อมให้เข้ากับระบบของแทมปิเนส โรเวอร์ ซึ่งเจ้าตัวพูดถึงการต่อสู้ที่สิงคโปร์ว่า  การฝึกซ้อม จะมีการลงทีมช่วงปรีซีซั่นทุกๆสัปดาห์ มีความเข้มข้นในการฝึกซ้อม ที่สิงคโปร์มีความเป็นระเบียบในการซ้อม  เวลาเเข่งขันทุกคนช่วยกันเล่น ช่วยสอนและแนะนำในการซ้อมทุกๆวันให้กับผม ทำให้ผมสนุกและมีความสุขกับการที่ได้อยู่ที่นี่ การปรับตัวไม่อยากครับ แต่ต้องปรับเรื่องภาษา เรื่องอาหารนิดหน่อย

"บาส" ฐิติภัส เอกอรัญพงศ์

  • อายุ : 19 ปี
  • ส่วนสูง : 183 ซม.
  • ภูมิลำเนา : นนทบุรี
  • เท้าข้างถนัด : ซ้าย
  • ตำแหน่ง : กองหน้า
  • สังกัดสโมสร : แทมปิเนส โรเวอร์(สิงคโปร์) / บีจี ปทุม ยูไนเต็ด

นักเตะไทยที่เคยค้าแข้งสโมสรแทมปิเนส โรเวอร์

  • วรวรรณ ชิตะวานิช(โค้ช) : 2004-10 แชมป์เอสลีก 2004,2005 แชมป์สิงคโปร์ คัพ 2005,2006 แชมป์สโมสรฮาเซียน 2005
  • โชคทวี พรมรัตน์ : 2004,2006
  • สันติ ไชยเผือก : 2004-08
  • สุธี สุขสมกิจ : 2007-09
  • อรรถพงษ์ หนูพรหม : 2007-08
  • สรรวัชญ์ เดชมิตร : 2008-09

ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport