ปทุมคงคาเข่นท่าเรือไม่ลงเสมอ 3-3,อัสสัมชัญ ธนบุรี เจ๊าโปลิศไร้สกอร์

คู่แรกเป็นการพบกันระหว่างสโมสรโปลิศเทโร และ โรงเรียนอัสสัมชัญ ธนบุรี นัดนี้โปลิศเทโรหนักหน่อยเพราะนัดแรกแพ้การท่าเรือมาต้องมีแต้มสถานเดียวไม่งั้นตกรอบ ส่วนอัสสัมชัญ ธนบุรี มี 3 แต้มจากการที่ชนะปทุมคงคามาในนัดแรก นัดนี้ขอแค่แต้มเดียวแทบการันตีเข้ารอบต่อไปแล้ว เกมส่วนใหญ่เลยเล่นกันอยู่กลางสนาม ไม่ค่อยมีลูกหวาดเสียวมากนัด สุดท้ายต่างทำอะไรกันไม่ได้เสมอกันไป 0 - 0 แบ่งกันไปทีมละ 1 แต้ม

คู่ที่ 2 เป็นการพบกันระหว่างโรงเรียนปทุมคงคา และสโมสรการท่าเรือ เอฟซี สถานการณ์เหมือนกับคู่แรกปทุมคงคาต้องมีแต้มสถานเดียวเพื่อไม่ตกรอบ ส่วนท่าเรือต้องการแต้มเดียวก็แทบเข้ารอบแล้ว เกมคู่นี้ต่างกับคู่แรกดังฟ้ากับเหว เริ่มเกมมาก็ใส่กันเต็มที่ และแค่ในนาทีที่ 7 มีประตูแรกโดยณัฐพงศ์ ใจสกุลเลิศ ของปทุมคงคาได้บอลบริเวณกรอบเขตโทษฝั่งขวาเลี้ยงตัดเข้ากลางแล้วซัดด้วยซ้ายทันทีบอลพุ่งเข้ากลางประตู สิรภพ ใจมั่น ประตูก้มรับเข้าซอง แต่บอลแฉลบลอดซองเข้าไปตูไปแบบงงกันทั้งสนาม ปทุมคงคาขึ้นนำ 1-0

ประตูที่ 2 ของเกมเกิดขึ้นในนาทีที่ 29 นวการ ผาอาจ ของการท่าเรือวิ่งไปรับบอลจากการโยนยาวของเพื่อนได้ที่เส้นหลังประตู ตบย้อนกลับมาให้ธนกฤต ดวงตะวัน รับบอลแล้วเลี้ยงหลบกองหลังของปทุมคงคาเข้าไปยิงแสกหน้าเนติพล โกศลประตูของปทุมคงคาเข้าไปสุดสวย การท่าเรือไล่ตีเสมอ 1-1

ปทุมคงคาขึ้นนำอีกครั้งเมื่อธนุรวัฒน์ ไทยน้อย ของปทุมคงคาผ่านบอลจากฝั่งขวามาหน้าประตู ปธานิน ครุฑดำวิ่งแบเข้ามาซัดบอลผ่านมือสิรภพ ใจมั่น ในนาทีที่ 41 ปทุมคงคากลับขึ้นมานำ 2 -1 

แต่ช่วงทดเวลาเจ็บของครึ่งแรกก็มีประตูที่ 4 เกิดขึ้นเมื่อการท่าเรือได้ลูกเตะมุมทางฝั่งขวาธนกฤต ดวงตะวัน เปิดลูกเตะมุมเข้ามากลางประตู บอลขลุกขลิกปลิ้นมาเข้าทางกอบชัย เจิมประดิษฐ์วงศ์ วอลเลย์ตูมเดียวเสียบเสาเข้าประตูสุดปัญญาที่เนติพล โกศล จะป้องกันได้ การท่าเรือไล่ตามตีเสมออีกครั้ง จบครึ่งแรกเสมอกันไป 2-2

ครึ่งหลังมาทั้ง 2 ฝ่ายก็ยังใส่กันเต็มที่เหมือนเดิม และก็เป็นปทุมคงคาที่ได้ประตูขึ้นนำอีกครั้งในนาทีที่ 58  ณัฐพงศ์ ใจสุกลเลิศของปทุมคงคาพลิกบอลหลบกองหลังของการท่าเรือก่อนเปิดบอลจากฝั่งขวาเข้ากลางประตู สุกฤต ฝ่ายรีย์ ยืนอยู่คนเดียวขึ้นโขกเหน่งๆ ให้ปทุมคงคาขึ้นนำ 3-2

ในนาทีที่ 64 นวการ ผาอาจ ของการท่าเรือได้บอลทางฝั่งขวาลากๆ พลิกๆ แล้วเปิดเข้ากลางกองหลังของปทุมคงคาสกัดพลาด บอลมาเข้าทางพุทธิพงศ์ อุปการะโคตรจับบอล 1 จังหวะก่อนกดด้วยซ้ายบอลพุ่งเข้าประตูเป็นประตูตีเสมอให้การท่าเรืออีกครั้ง สุดท้ายจบลงด้วยเสมอกันไปสุดมันส์ 3-3 แบ่งกันไปทีมละแต้ม

นัดสุดท้ายจะแข่งกันในวันที่ 27 ตุลาคม 2566 โดยคู่แรกจะแข่งกันในเวลา 16.00 น. เป็นการพบกันระหว่างสโมสรการท่าเรือ เอฟซี และโรงเรียนอัสสัมชัญ ธนบุรี ทั้งคู่ต่างมีทีมละ 4 แต้ม ขอแค่แต้มเดียวจะเข้ารอบแน่นอน ส่วนคู่ที่ 2 จะแข่งกันในเวลา 18.00 น. เป็นการพบกันระหว่างสโมสร โปลิศ เทโร และโรงเรียนปทุมคงคา ต่างมีทีมละแต้ม ผลเสมอคงไม่พอกับการเป็นที่ 3 ที่ดีที่สุด เพราะฉะนั้นถ้าต้องการลุ้นเข้ารอบต้องชนะสถานเดียว