อดีตดาราเอเชียในตำแหน่งมิดฟิลด์ ซึ่งได้ฉายา “เท้าชั่งทอง”อย่าง “โค้ชหนุ่ย”เฉลิมวุฒิ สง่าพล ที่ผันตัวเองมาเป็นโค้ชฟุตบอล และผ่านการทำทีมมาอย่างโชกโชน แต่สถานการณ์ในตอนนี้ของกุนซือรายนี้ ยังอยู่ในช่วงของการรอทำทีม หลังจบภารกิจกับการทำทีมระยะสั้นกับอุดรธานี เอฟซี
ในวัย 64 ปีของ “โค้ชหนุ่ย”เฉลิมวุฒิ สง่าพล เจ้าตัวยืนยันว่า ไม่ใช่กุนซือตกยุคอย่างแน่นอน แม้วันนี้จะยังไม่มีทีมทำ แต่ก็ยังมีการติดตามและชมเกมการแข่งขันทั้งฟุตบอลลีกของไทยและต่างประเทศ เพื่อศึกษาและวิเคราะห์เกม และนำมาเพิ่มพูนทักษะให้กับตัวเองอย่างต่อเนื่องไม่มีวันหยุด
“โค้ชหนุ่ย”เผยว่า หลายคนอาจบอกว่าตนเป็นกุนซือตกยุคแต่ยืนยันว่า ตนยังตามโลกของฟุตบอลทันตลอดเวลา และยังมีไฟพร้อมที่จะทำทีมอย่างแน่นอน โดยที่ผ่านมาโปรไฟล์ของตนนั้นจะหนักไปทางกอบกู้วิกฤติของทีม และสามารถพาทีมต้นสังกัดรอดพ้นการตกชั้นได้หลายต่อหลายครั้ง
“ผมเริ่มงานจากธ.กรุงเทพ และเข้าไปทำทีมพัทยา ยูไนเต็ด ที่ตอนนั้นอยู่อันดับ 17 ก่อนที่จะพาทีมรอดพ้นการตกชั้น และเคยพาทีมพัทยา จบอันดับที่ 4 ของตารางได้ จากนั้นก็ไปทำทีมโอสถสภาที่ผลงานไม่สู้ดีในตอนนั้นจนจบอันดับ 6-7 แล้วก็ไปพาทีมศรีสะเกษ เอฟซี หนีตกชั้นได้สำเร็จ และยังพาทีมเข้าชิงฟุตบอลโตโยต้าลีกคัพกับบุรีรัมย์ได้ด้วย อีกครั้งก็คือการไปทำทีมระหว่างฤดูกาลให้กับสุโขทัย เอฟซี ที่เหลือ 11 แมตช์สุดท้ายและพาทีมหนีจากโซนตกชั้นได้สำเร็จ และทีมล่าสุดที่หนีวิกฤติได้ก็คือ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ที่ไปทำ 5 แมตช์สุดท้ายจนได้อยู่ต่อในลีกสูงสุด”
“โค้ชหนุ่ย”กล่าวติดตลกว่า ดูเหมือนว่าตนจะถนัดกับการคุมทีมหนีตกชั้น ซึ่งการเข้าไปกู้สถานการณ์ก็ต้องใช้ฝีมือในการทำทีมทั้งเรื่องการแก้ไขนักเตะเฉพาะบุคคลและภาพรวมของทีมให้ผ่านพ้นวิกฤติให้ได้ และตอนนี้ตนก็ยังพร้อมที่จะไปต่อในอาชีพโค้ช หากมีทีมไหนสนใจก็พร้อมจะนำทักษะทั้งตอนเป็นนักเตะและการเป็นโค้ชมาใช้อย่างเต็มที่ หรือจะให้ไปทำงานในฐานะผู้อำนวยการสโมสรก็ถนัดและพร้อมดูแลทั้งระบบ ก็ยินดีที่จะเริ่มงานได้ทันที
สำหรับ “โค้ชหนุ่ย”เคยผ่านงานคุมทีม ธ.กรุงเทพ, พนักงานยาสูบ,ไทยฮอนด้า, พัทยา ยูไนเต็ด, โอสถสภา, ศรีสะเกษ เอฟซี, สุโขทัย เอฟซี, นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี, อยุธยา, ราชนาวี, อุดรธานี เอฟซี