นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในการแถลงข่าวการจัดการแข่งขันฟุตบอลอาชีพนัดพิเศษเพื่อการกุศลรายการ อาเซียน แชริตี้ ชิลด์ 2023 (ASEAN CHARITY SHIELD 2023) โดยมี นายสิรภพ ดวงสอดศรี ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, นายกองเอกพุทธ กฤชคงพันธุ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา, นายทนุเกียรติ จันทร์ชุม รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย และนายประสงค์ บริรักษ์ นายกสมาคมกีฬาจังหวัดสงขลา ร่วมแถลง ที่โรงแรมบีพี สมิหลา บีช จังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 12 ม.ค. 2566 ที่ผ่านมา
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า โครงการการจัดการแข่งขันฟุตบอลอาชีพนัดพิเศษเพื่อการกุศลรายการนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้เล็งเห็นว่า กิจกรรมกีฬาฟุตบอลในระดับนานาชาติมีกระแสนิยมจากผู้ชมเป็นจำนวนมากมาอย่างต่อเนื่อง จึงได้จัดให้มีการแข่งขันฟุตบอลอาชีพนัดพิเศษเพื่อการกุศลขึ้น ในวันอาทิตย์ที่ 15 ม.ค. 2566 เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและประเทศมาเลเซีย โดยสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จากประเทศไทย จะพบกับสโมสรกลันตัน เอฟซี จากประเทศมาเลเซีย
"ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการแข่งขันฟุตบอลรายการนี้จะได้รับความสนใจจากประชาชนทั้งชาวไทยและ ชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวมาเลเซีย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภาคอุตสาหกรรมกีฬาให้เกิดการหมุนเวียนทางการเงิน การค้า และการพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในท้องถิ่น ได้มีส่วนร่วมในด้านต่างๆ ตลอดจนเป็นการสร้างแรงบันดาลใจและสร้างโอกาสให้กับ เยาวชนและประชาชนในพื้นที่ได้มีส่วนร่วมในการแข่งขันเพื่อเป็นการสร้างความสัมพันธ์ อันดีระหว่างประเทศในภูมิภาคอาเซียน และที่สาคัญจะเป็นการยกระดับมาตรฐานการแข่งขันฟุตบอลอาชีพของไทยจากประเทศต่อยอดสู่ระดับภูมิภาคอาเซียนและก้าวสู่การ เป็นผู้นำทางด้านฟุตบอลของทวีปเอเชียในอนาคต"
ด้าน ทนุเกียรติ จันทร์ชุม รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย กล่าวว่า การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ในฐานะหน่วยงานภาครัฐ ภายใต้สังกัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบในเรื่องการส่งเสริมให้มีกิจกรรมด้านกีฬาของประเทศ ได้เล็งเห็นถึงความสําคัญ และประโยชน์ของประเทศชาติ และให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล จึงมีแนวคิดให้มีการจัดการแข่งขันฟุตบอลอาชีพนัดพิเศษเพื่อการกุศลขึ้นในเดือนม.ค. 2566 เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและประเทศมาเลเซีย ทั้งยังเป็นการ แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมของจังหวัดทางภาคใต้และประเทศมาเลเซีย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ภาคอุตสาหกรรมกีฬา ให้เกิดการหมุนเวียนทางการเงิน การค้า และการพัฒนา อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในท้องถิ่นได้มีส่วนร่วมในด้านต่างๆ ตลอดจนเป็นการสร้างแรงบันดาลใจและสร้างโอกาสให้กับเยาวชนและประชาชนในพื้นที่ ได้มีส่วนร่วมในการแข่งขันเพื่อเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศในภูมิภาคอาเซียนต่อไป