คาดการณ์ 6 สถานีต่อไปของ "ปาร์ค ฮัง-ซอ" !?

คาดการณ์ 6 สถานีต่อไปของ "ปาร์ค ฮัง-ซอ" !?
โทษฐานที่สหพันธ์ฟุตบอลเวียดนาม ได้ออกมาประกาศว่า ปาร์คฮัง-ซอ จะไม่ได้เป็นเฮดโค้ชของทีม หลังจบทัวร์นาเมนต์ อาเซียน คัพ ในเดือนมกราคมปี 2023 ว่าแล้ว 'SIAMSPORT' จึงคัด 'สถานี' ที่มีโอกาสจะเป็นปลายทางของกุนซือชาวเกาหลีใต้ มาให้คุณผู้อ่านได้รับทราบโดยทั่วกัน!!

[ 1 ] ประธานเทคนิคสหพันธ์ฟุตบอลเวียดนาม 

    โทษฐานที่อยู่โยงในเวียดนาม มานานกว่า 5 ปี แถมยังเป็นบุคคลระดับ 'ขึ้นหิ้ง' ของประเทศ กับการมีส่วนที่ทำให้ทัพดาวทองเดินหน้าสู่ความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง ว่าแล้วการขยับไปนั่งเป็น 'ประธานเทคนิค' ก็น่าสนใจไม่น้อย

    หน้าที่ของตำแหน่งนี้นั้นสำคัญมากๆ เพราะจะเป็นผู้ชี้นำในการ 'พัฒนา' ระบบฟุตบอลในแดนเหงียนให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน

    การที่เทรนเนอร์ชาวเกาหลีใต้ รู้จักลึกตื้นหนาบางของวงการลูกหนังเวียดนาม เป็นอย่างดี บวกกับปัจจุบันที่อายุ 65 ปี เข้าไปแล้ว จะมายืนโหวกเหวกอยู่ข้างสนามคงจะไม่มีพลังเหมือนเก่า หากขยับไปนั่งเป็นคนช่วยงานโครงสร้าง น่าจะดูเหมาะสมกว่า

    ดังนั้นในเมื่อ ฮัง-ซอ ก้าวลงจากการเป็นกุนซือ บางทีเขาอาจจะคุยกับสหพันธ์ฟุตบอลเวียดนาม ไว้ก่อนแล้ว และพอสัญญาโค้ชสิ้นสุดลง การโยกไปอยู่ในตำแหน่งที่ต้องมองภาพรวม น่าจะเป็นทางออกที่ดีทีเดียว

[ 2 ] เมืองทอง ยูไนเต็ด

    เวลานี้สถานการณ์ของอดีตแชมป์ ไทยลีก 4 สมัย กำลังอยู่ในห้วงวิกฤติอย่างแท้จริง กับการมีเพียง 7 คะแนน จากการลงสนาม 9 นัด อยู่เหนือโซนสีแดงเพียง 2 แต้ม เท่านั้น

    มันไม่ใช่เรื่องปกติสำหรับสโมสรใหญ่อย่าง เมืองทอง ซึ่งเวลานี้บอร์ดบริหารของพวกเขาอาจจะกำลังเมียงมองตัวเลือกใหม่ๆ หากว่าผลงานของ มาริโอ ยูรอฟสกี้ ยังไม่กระเตื้องขึ้น

    แถมล่าสุด กุนซือหนุ่มชาวมาซิโดเนีย ก็เปรยๆ หลังจบเกมที่บุกไปแพ้ โปลิศ เทโร เอฟซี 1-2 ว่าเวลาของเขาในรั้ว ธันเดอร์โดม ใกล้จะหมดลงแล้ว ซึ่งมันคือการส่งสัญญาณกลายๆ เช่นกันถึงอนาคตข้างหน้า

    แม้ว่าผู้บริหารของกิเลนผยองจะออกมายืนยันว่าจะให้เฮดโค้ชวัย 36 ปี ทำหน้าที่ต่อ แต่ในโลกของฟุตบอล ทุกอย่างสามารถเกิดขึ้นได้เสมอ

    ยิ่งกับการที่ ฮัง-ซอ ระบุชัดเจนแล้วว่าหลังจบทัวร์นาเมนต์ อาเซียน คัพ จะโบกมือลาจากเวียดนาม แน่ๆ 

    เคมีของบิ๊กบอสชาวเกาหลีใต้ น่าจะเข้ากับ เมืองทอง ได้ดี เพราะแคแรกเตอร์ความเป็นคนดุดัน อีกทั้งยังมีเรื่องของ 'วินัย' และ 'ความฟิต' ที่พิสูจน์ให้เห็นในการนำทัพดาวทองผงาดสู่เบอร์หนึ่งในภูมิภาคนี้ ทั้งๆ ที่ตัวผู้เล่นก็ไม่ได้มีซูเปอร์สตาร์ 

    บางทีอาจจะมี บิ๊กเซอร์ไพรส์ ในช่วงต้นปี 2023 ก็เป็นได้

[ 3 ] การท่าเรือ เอฟซี

    สกอตต์ คูเปอร์ เป็นอีกหนึ่งกุนซือ ที่เทรนเนอร์อุ่นๆ เพราะปัจจุบันยังไม่สามารถนำ การท่าเรือ ไปในทิศทางที่ควรจะเป็น

    การรั้งอันดับ 7 ของตาราง ไทยลีก และมีแต้มตามหลัง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นจ่าฝูงอยู่ถึง 9 คะแนน นั้นถือเป็นผลงานที่สวนทางกับงบประมาณที่ลงทุนไปมหาศาล

    หากฟอร์มการเล่นยังไม่คงเส้นคงวา น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในถิ่น แพท สเตเดี้ม แน่ๆ และการที่ ฮัง-ซอ กำลังจะกลายเป็นกุนซือว่างงาน ซึ่งชื่อของเขานั้นการันตีคุณภาพในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อยู่แล้ว

    สไตล์การทำทีมของเฮดโค้ชเกาหลีใต้ อาจจะไม่ได้เป็นฟุตบอลที่สวยงาม หากแต่จุดเด่นคือเรื่องของคุณภาพ ซึ่งนั่นอาจจะถึงเวลาแล้วที่สิงห์เจ้าท่าจะต้องปรับลุคใหม่ ที่เน้นเรื่องผลการแข่งขัน เพื่อจะเกินหน้าคว้าถ้วยรางวัลให้ได้

[ 4 ] เอฟซี โซล

    สมัยเป็นนักเตะ ฮัง-ซอ เคยเป็นกองกลางตัวหลักให้กับ ลัคกี้ โกลด์ สตาร์ ชุดที่มี ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน เป็นศูนย์หน้าตัวเป้า พร้อมกับคว้าแชมป์ เคลีก ร่วมกันในปี 1985

    วันเวลาผันผ่าน ลัคกี้ โกลด์ สตาร์ ได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น เอฟซี โซล และก็ได้แชมป์ลีกสูงสุดเกาหลีใต้ รวมทั้งหมด 6 สมัย อีกทั้งยังเคยผ่านสู่รอบชิงชนะเลิศ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้ถึง 2 หนอีกต่างหาก 

    ผลงานระดับนี้ เอฟซี โซล จึงจัดว่าเป็นสโมสรชั้นนำของประเทศอย่างไม่มีใครกล้าปฏิเสธ

    อย่างไรก็ตาม ฤดูกาล 2022 พวกเขาตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเมื่อต้องดิ้นรนหนีตกชั้น เคลีก ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ควรจะเป็น

    ดังนั้น การที่ ฮัง-ซอ ไม่ยอมต่อสัญญาการคุมทีมชาติเวียดนาม ออกไป อาจจะทำให้เขากลับมารับงานกับ เอฟซี โซล ก็เป็นได้ เพื่อกอบกู้อดีตต้นสังกัดของตนเองที่กำลังย่ำแย่ในขณะนี้

[ 5 ] แดกู เอฟซี

    นับตั้งแต่แยกทางกับ อเล็กซานเดร กามา ไปในช่วงกลางเดือนสิงหาคม  เวลานี้ แดกู ยังใช้บริการ ชอย วอน-ควอน เป็นกุนซือรักษาการอยู่ บางทีพวกเขาอาจจะรอ ฮัง-ซอ กลับไปคุมทัพได้เช่นกัน

    หากมา แดกู ดูจะเป็นไปได้มากกว่า เอฟซี โซล ด้วยซ้ำ เนื่องจากไม่ใช่สโมสรระดับท็อปที่มีความคาดหวังสูง ซึ่งน่าจะเหมาะกับ ฮัง-ซอ มากกว่า โดยเฉพาะเรื่องความกดดัน

    ด้วยอายุ 65 ปี เขาน่าจะไม่อยากเครียดไปมากกว่านี้แล้วล่ะ ดังนั้นการเข้ามาประคับประคอง แดกู ถือว่าเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจไม่เบาเลยทีเดียว

[ 6 ] เกาหลีใต้ยู-23 

    การกลับไปมารับงานโค้ชรุ่นอายุ 23 ปี อาจจะดูห่างไกลความเป็นจริงไปหน่อย แต่ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้เลย เนื่องจาก ฮัง-ซอ เองก็เคยเป็นกุนซือของทีมชุดนี้มาแล้วเมื่อปี 2002 พร้อมกับผลงานเหรียญทองแดง เอเชียน เกมส์ ในปีนั้นเอง (ชนะไทย ในนัดชิงอันดับ 3)

    อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่เกาหลีใต้ชุดยู-23 มี ฮวาง ซุน-ฮง ตำนานศูนย์หน้าทีมชาติเป็นเทรนเนอร์คนปัจจุบัน มันจึงทำให้โอกาสที่ ฮัง-ซอ จะได้รับงานนี้ดูจะยากไปนิด เพราะเก้าอี้ค่อนข้างแข็งแรงอยู่

    ทว่าผลงานชนะ 5, เสมอ 2 และแพ้ 1 เกม ของกุนซือคนปัจจุบันอาจจะไม่โดนใจฝ่ายบริหารของวงการฟุตบอลแดนโสมนัก ดังนั้นหากว่าฟอร์มของ นักรบ แทกึก ชุดนี้ยังไม่ดีขึ้น อาจจะถึงคราวเปลี่ยนแปลงเช่นกัน

    และเมื่อถึงเวลานี้ ฮัง-ซอ ก็ถือเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมด้วยประการทั้งปวง กับตำแหน่งกุนซือทีมชาติรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี


ที่มาของภาพ : gettyimages
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport