อัยมัน ฮุสเซน โหม่งเบิ้ลพา อิรัก สยบเต็งหนึ่ง ญี่ปุ่น 2-1 เก็บ 6 แต้มเต็ม ยึดฝูงกลุ่มดี การันตีทะลุเข้าสู่รอบ 16 ทีม ส่วน "ซามูไรบลูส์" หยุดสถิติชนะรวดติดต่อกันรวมทุกรายการไว้ที่ 11 เกม รั้งรองฝูง มี 3 แต้มเท่าเดิม ในศึกฟุตบอลเอเอฟซี เอเชียน คัพ 2023
ทีมชาติอิรัก 2-1 ทีมชาติญี่ปุ่น
การแข่งขันฟุตบอลเอเอฟซี เอเชียน คัพ 2023 รอบสุดท้าย ที่ประเทศกาตาร์ ประจำวันศุกร์ที่ 19 ม.ค.2567 ที่สนามเอดูเคชั่น ซิตี้ สเตเดี้ยม, เมืองอัล เรย์ยาน เวลา 18.30 น. เป็นเกมในกลุ่ม ดี นัดที่สอง คู่ระหว่าง ทีมชาติอิรัก ทีมอันดับ 63 ของโลก พบกับ ทีมชาติญี่ปุ่น ทีมอันดับ 17 ของโลก โดยเกมนัดแรก อิรัก เอาชนะ อินโดนีเซีย 3-1 ส่วนญี่ปุ่น ชนะ เวียดนาม 4-2
โดยเกมนี้ ฮาจิเมะ โมริยาสุ กุนซือทัพ "ซามูไรบลูส์" มีการปรับทัพ 2 ตำแหน่งจากเกมนัดเปิดสนาม โดยส่ง ทาคุมะ อาซาโนะ ดาวยิงจากโบคุ่ม ในบุนเดสลีกา เยอรมนี และทาเคฟุสะ คุโบ แนวรุกจากเรอัล โซเซียดาด ในลาลีกา สเปน ออกสตาร์ตตัวจริงแทนที่ มาโอะ โฮโซยะ กับ เคอิโตะ นากามูระ
เริ่มครึ่งแรกมาได้เพียงแค่ 5 นาที กลายเป็น อิรัก ขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ อาลี ยาซิม เปิดบอลจากสุดเส้นหลังทางฝั่งซ้ายเข้ามาในเขตโทษ ไซออน ซูซูกิ นายด่านญี่ปุ่น ปัดออกมาไม่ดี บอลมาเข้าศีรษะ อัยมัน ฮุสเซน หัวหอกวัย 27 ปี ขึ้นโหม่งซ้ำส่งบอลเข้าประตูไม่เหลือ
หลังจากนั้นเป็นฝั่งทัพ "ซามูไรบลูส์" ที่โหมบุกเข้าใส่อย่างหนัก แต่ก็ยังไม่สามารถพาบอลเข้าไปจบสกอร์ในพื้นที่สุดท้ายได้มากนัก ทว่าเป็น อิรัก มาได้ประตูนำห่างเป็น 2-0 ช่วงทดเจ็บนาทีที่ 4 จากจังหวะที่ อาเหม็ด อัล ฮัจญ์จาล พาบอลตะลุยขึ้นทางกราบซ้ายจนสุดเส้นหลัง ก่อนตักบอลเข้ากลาง อัยมัน ฮุสเซน โถมตัวโขกเน้น ๆ ส่งบอลเข้าไปตุงตาข่าย และจบครึ่งแรก อิรัก ออกนำ ญี่ปุ่น อยู่ 2-0
เข้าสู่ครึ่งหลังเป็นทางญี่ปุ่น ที่พยายามโหมบุกหนักเข้าใส่อย่างเต็มอัตราศึก แต่จังหวะจบสกอร์ส่วนใหญ่ได้แต่ยิงเฉียดไปเฉียดมาเท่านั้น และสร้างความกดดันให้กับ ญาลัล ฮัสซัน ฮาชิม มือกาวของอิรักได้ไม่มากเท่าที่ควร ส่วนฝั่งอิรักก็มีโอกาสโต้กลับเป็นระลอก
แต่แล้วเกมมาเริ่มมันส์เมื่อช่วงทดเจ็บ น.90+3 ญี่ปุ่น มาได้ประตูตีไข่แตกตามมาเป็น 1-2 จากจังหวะลูกเตะมุมทางฝั่งซ้าย เรโอะ ฮาตาเตะ เปิดบอลโค้ง ๆ เข้ามาก่อนจะเป็น วาตารุ เอ็นโด มิดฟิลด์จากลิเวอร์พูล ขึ้นโขกเน้น ๆ ส่งบอลเข้าประตูไป จุดประกายความหวังในช่วงทดเจ็บ 8 นาทีทันที
ช่วงเวลาที่เหลือญี่ปุ่นไล่ไม่ทัน กระทั่งจบเกม ทีมชาติญี่ปุ่น แพ้ อิรัก 1-2 ส่งผลให้ทัพ "ซามูไรบลูส์" หยุดสถิติชนะรวดติดต่อกันรวมทุกรายการไว้ที่ 11 เกมเท่านั้น และทำให้ญี่ปุ่น ลงเตะ 2 นัด ยังมี 3 แต้มเท่าเดิม ขณะที่อิรัก ชนะสองเกมรวดเก็บ 6 แต้มเต็ม การันตีทะลุผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายแน่นอน แม้ยังเหลือโปรแกรมอีกหนึ่งนัดก็ตาม
สำหรับโปรแกรมนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม ทั้งสองทีมจะลงเตะในวันพุธที่ 24 ม.ค.2567 ญี่ปุ่น พบ อินโดนีเซีย ที่สนามอัล-ทูมามา สเตเดี้ยม, กรุงโดฮา ส่วนอิรัก พบ เวียดนาม ที่สนามยัสซิม บิน ฮาหมัด สเตเดี้ยม, กรุงโดฮา โดยแข่งขันเวลา 18.30 น. พร้อมกัน ถ่ายทอดสดทางช่องยูทูบ AFC Asian Cup
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
ทีมชาติอิรัก : ญาลัล ฮัสซัน ฮาชิม (ผู้รักษาประตู), เรบิน ซูลาก้า, ฮุสเซน อาลี (โมฮานัด อาลี แทน น.46), ซาอัด นาติก, ฟรานส์ ปูโตรส (โอซามา ราชิด แทน น.61), ยุสเซฟ อามิน (อาลี อัดนาน แทน น.66), อิบราฮิม บาเยช, อามีร์ อัล-อัมมารี, อาลี ยาซิม (ซาอิด ทาห์ซิน แทน น.77), อัยมัน ฮุสเซน (เมอร์ชัส โดสกี้ แทน น.46), อาเหม็ด อัล ฮัจญ์จาล
ทีมชาติญี่ปุ่น : ไซออน ซูซูกิ (ผู้รักษาประตู), ยูกินาริ ซูงาวาระ, โค อิตาคุระ, โชโกะ ทานิงุจิ (ทาเคฮิโระ โทมิยาสุ แทน น.46), ฮิโรกิ อิโตะ, ฮิเดมาซะ โมริตะ (เรโอะ ฮาตาเตะ แทน น.74), วาตารุ เอ็นโด, ทาเคฟุสะ คุโบะ (ริตสึ โดอัน แทน น.62), ทาคุมิ มินามิโนะ, จุนยะ อิโตะ (ไดเซน มาเอดะ แทน น.74), ทาคุมะ อาซาโนะ (อายาเซะ อูเอดะ แทน น.61)