เลิกฝันแล้ว! อังเก้ ปอสเตโคกลู ชี้วงการฟุตบอลออสเตรเลียไม่มีวันรุ่ง

เลิกฝันแล้ว! อังเก้ ปอสเตโคกลู ชี้วงการฟุตบอลออสเตรเลียไม่มีวันรุ่ง
อังเก้ ปอสเตโคกลู ระบุ ฟุตบอลของออสเตรเลียจะไม่มีวันพัฒนาไปได้ไกล เพราะส่วนใหญ่แล้วคนให้ความสำคัญกับกีฬาชนิดอื่นมากกว่า รวมถึงไม่มีการลงทุนกับการพัฒนาอย่างจริงจัง โดยยกตัวอย่างด้วยว่ามันต่างกับ ญี่ปุ่น อย่างชัดเจน พร้อมบอกว่าตนเคยมีความฝันที่จะพัฒนาวงการลูกหนังของบ้านเกิดให้ได้ แต่ก็ยกธงขาวไปแล้ว

อังเก้ ปอสเตโคกลู ผู้จัดการทีมชาวออสเตรเลียของ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ กล่าวว่าวงการฟุตบอลออสเตรเลียจะไม่มีทางพัฒนาไปในทางที่ยอดเยี่ยมเหมือนกับชาติอื่นๆ ได้

ออสเตรเลีย เป็นชาติที่ได้เล่นศึก ฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย อย่างต่อเนื่องจนถึงขนาดที่ได้สิทธิ์นั้นมา 5 รายการติดต่อกันแล้ว แต่โดยรวมแล้วในเวทีระดับนานาชาติพวกเขากลับมีผลงานไม่ดีอย่างที่ควรจะเป็น

ปอสเตโคกลู ให้สัมภาษณ์ก่อนหน้าที่ ออสเตรเลีย จะเจอกับ อังกฤษ ในเกมอุ่นเครื่อง วันศุกร์ที่ 13 ตุลาคมนี้ว่า "มันมีบางประเด็นที่เป็นปัญหา อย่างหนึ่งเลยคือเรื่องมุมมองด้านกีฬา ที่นั่นมีกฎที่เข้มงวดมากๆ ที่ครอบครองวงการกีฬาโดยรวมของประเทศเอาไว้ มันมีกีฬาที่เรียกว่า ออสซี่ รูลส์ หรือก็คือกีฬาท้องถิ่นของ ออสเตรเลีย มันเป็นกีฬาที่พิเศษกับพวกเขามากๆ และพวกเขาก็มุ่งมั่นในการปกป้องกฎระเบียบของพวกเขาอย่างสุดชีวิต"

"รักบี้ เองก็ครองวงการกีฬาของที่นั่นเอาไว้เช่นกัน มันเป็นเรื่องยากมากๆ ที่ ฟุตบอล จะสร้างผลกระทบในพื้นที่แบบนั้นได้ สถานการณ์ของที่นั่นต่างกับวงการฟุตบอลทั่วโลกแบบหน้ามือเป็นหลังมือ ถ้าคุณอยากจะแทรกเข้าไปให้ได้แล้วน่ะคุณก็ต้องสู้กับทุกๆ อุปสรรค มันมีจำนวนเยอะเกินกว่าที่จะเอาชนะได้ คุณไม่สามารถทำขั้นตอนที่จำเป็นได้เลย"

"ถ้าจะให้ผมเปรียบเทียบก็คงเป็นกับ ญี่ปุ่น ที่นั่นมีความเป็นชาตินิยมสูงเหมือนกัน และเบสบอลก็เป็นกีฬาที่มีความนิยมสูงมากๆ ด้วย แต่พวกเขาก็ลงทุนทรัพยากรไปกับฟุตบอลเยอะมากๆ และสร้างผลกระทบได้ ซึ่งผมมองไม่เห็นภาพเลยว่า ออสเตรเลีย จะเป็นแบบเดียวกันได้"

พอถูกถามว่าเขาคิดว่าผลงานในการคุม สเปอร์ส ที่ดีของเขาอาจช่วยทำให้กีฬาฟุตบอลใน ออสเตรเลีย เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นได้หรือไม่แล้วนั้น เจ้าตัวก็ตอบว่า "ผมไม่คิดว่ามันจะเป็นอย่างนั้น มันอาจจะเป็นมุมมองของผมแค่คนเดียวก็ได้น่ะนะ แต่ผมน่ะยอมแพ้ไปแล้ว"

"สำหรับผมแล้วมันเป็นเรื่องง่ายกว่าที่จะปล่อยให้มันเป็นแบบนั้น เพราะผมหงุดหงิดกับสถานการณ์ต่างๆ มานานมาก หนึ่งในแรงผลักดันหลักของผม (กับการทำงานกุนซือ) คือการที่จะเปลี่ยนวงการฟุตบอลใน ออสเตรเลีย ให้ได้ แต่สุดท้ายผมก็ตัดใจจากเรื่องนั้นเพราะผมไม่รู้สึกว่าตัวเองสร้างผลกระทบได้เลย สำหรับผมแล้วการยอมรับกับเรื่องนั้นมันทำใจง่ายกว่าที่จะมาคิดว่า -บางทีสิ่งที่ฉันทำอยู่ในตอนนี้อาจจะยังทำให้ฉันพอที่จะเปลี่ยนมันได้-"

 "ผมอยากจะคิดว่ามันคงไม่มีทางเกิดขึ้นแล้ว ลองดูสิ่งที่ มาทิลดาส (ฉายาของทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติออสเตรเลีย) ทำได้ในศึก ฟุตบอลโลก รอบล่าสุดสิ (ได้อันดับ 4) มันเป็นผลงานที่น่าเหลือเชื่อมากๆ แต่คุณจะไม่มีวันได้เห็นประเทศทำการลงทุนทรัพยากรแบบยกใหญ่ไปกับวงการฟุตบอล ผมรับระกันได้เลย พวกเขาจะสร้างสนามขึ้นมาแต่สุดท้ายกีฬาชนิดอื่นก็จะได้ใช้สนามเหล่านั้น"

ทั้งนี้ ปอสเตโคกลู ถึงขั้นเคยลงจากตำแหน่งกุนซือทีมชาติออสเตรเลียแบบดื้อๆ มาแล้ว ทั้งที่เขาเพิ่งพาทีมได้สิทธิ์ลงเล่น ฟุตบอลโลก 2018 รอบสุดท้าย ได้เพียงแค่ราว 2 สัปดาห์ ซึ่งเขาเปิดใจถึงเรื่องนั้นว่ามันเป็นเพราะเขาหมดแรงจูงใจที่จะทำงานกับทีมชาติ พร้อมมองว่ามันเป็นการตัดสินใจที่ส่งผลดีกับอาชีพของตัวเอง "ผมบอกลา ฟุตบอลโลก เอง เราเข้ารอบได้แล้วแต่ผมตัดสินใจถอยออกมา สาเหตุที่ผมถอยออกมาเพราะผมไม่รู้สึกสนุกกับสิ่งที่ตัวเองกำลังทำอยู่"

"ผมไม่ได้มีเป้าหมายแค่มาทำงานแล้วเอาชนะให้ได้ เป้าหมายที่สูงกว่าของผมในการคุม ออสเตรเลีย คือการเปลี่ยนวงการฟุตบอลของที่นั่นให้ได้ แต่สุดท้ายแล้วผมก็ไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นได้ มันไม่ใช่การตัดสินใจที่ทำได้ง่ายๆ เลย แต่ผมรู้ดีว่ามันเป็นการเลือกที่ถูกต้องเมื่อพิจารณาถึงสิ่งที่เกิดขึ้นต่อมาในอาชีพการคุมทีมของผม ถ้าผมยังรอจนถึงจบ ฟุตบอลโลก แล้วล่ะก็ ผมก็มั่นใจว่าตัวเองคงจะไม่ได้เป็นผู้จัดการทีม สเปอร์ส อย่างในทุกวันนี้หรอก"


ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport
X