ชนาธิป ก็ยังเป็น ชนาธิป

ชนาธิป ก็ยังเป็น ชนาธิป
การกลับมาลงสนามให้ คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ ของ ชนาธิป สรงกระสินธ์ แสดงให้เห็นว่า โทรุ โอนิกิ ยังคงเชื่อมั่นในตัวเพลย์เมเกอร์ชาวนครปฐม คนนี้แน่นอน

แนวรุกวัย 29 ปี ได้รับบาดเจ็บจากการกลับมาเล่นให้ทีมชาติไทย ในช่วง ฟีฟ่า เดย์ เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยตอนนั้นคาดการณ์กันว่าจะต้องพักอย่างน้อย 2 สัปดาห์

ตลอดระยะเวลาที่ฟื้นฟูร่างกาย ชนาธิป พยายามอย่างหนักที่จะทำให้ตนเองฟิตสมบูรณ์ที่สุด 

เขาเป็นผู้เล่นที่มีวินัยสูง มีความเป็นมืออาชีพสูง และที่สำคัญ 'ความมุ่งมั่น' ของกองกลางชาวไทย คนนี้มีไม่แพ้ใครในโลกเลยทีเดียว

ความตั้งใจของ ชนาธิป สะท้อนออกมาจาก 'แววตา' ที่กร้าวแกร่ง เขาไม่เคยย่อท้อต่ออุปสรรคที่กั้นขวาง หากแต่ใช้มันเป็นแรงผลักดันให้ตัวเองทะยานไปไกลกว่าที่เป็นอยู่

บทพิสูจน์ตั้งแต่สมัยยังเป็นผู้เล่นเยาวชนที่ถูกโค้ชปรามาสว่าจะเติบใหญ่ไปเป็นนักฟุตบอลได้เหรอ? ตามต่อด้วยการต่อสู้กับ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ในช่วงไปเล่นที่ญี่ปุ่นใหม่ๆ

ชนาธิป ใช้ความมุ่งมั่นและตั้งใจ ฝ่าฟันขวากหนามเหล่านั้นมาโดยตลอด

แน่นอนว่าการย้ายมาที่ ฟรอนตาเล่ - เขาย่อมต้องเผชิญหน้ากับกำแพงที่สูงขึ้น ด้วยความที่นี่คือสโมสรเบอร์หนึ่งของเมืองซามูไรในปัจจุบัน อีกทั้งยังมีนักเตะชั้นนำอยู่เต็มไปหมด

แต่นั่นไม่ได้ทำให้เจ้าหนุ่มจากอำเภอสามพราน ย่อท้อเลยสักนิด

หยาดเหงื่อจากการฝึกซ้อม แม้จะหนักหน่วงเพียงใด แต่ในใจของ ชนาธิป ยังกระหายต่อชัยชนะ ทั้งชนะตัวเองและชนะการแข่งขัน

เจ้าตัวรู้ดีว่ามี 'ความคาดหวัง' แบกอยู่บนสองบ่า กับการเป็นตัวแทนของนักฟุตบอลไทย ที่ต้องพยายามทำให้ดีที่สุด เพื่อปูทางให้น้องๆ ในรุ่นต่อๆ ไปได้เดินทางมาผจญภัยบนดินแดนอาทิตย์อุทัยในอนาคต

ชนาธิป พร้อมจะ 'สู้' อย่างสุดตัว

ตลอดทั้ง 62 นาที ในเกมที่ ฟรอนตาเล่ ถล่ม เกียวโต ซังงะ ไป 3-1 สิ่งที่เห็นบนฟลอร์หญ้าคือการที่วิ่งช่วยทั้งรับและรุก ซึ่งนั่นหมายความว่ากราฟการปรับตัวของเขากำลังไต่ระดับขึ้นเรื่อยๆ

สถิติหลังเกมบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าเขามีส่วนร่วมกับเกมพอควรทีเดียว

 - ผ่านบอลทั้งหมด 37 ครั้ง (เข้าเป้า 28 ครั้ง) เป็น 1 แอสซิสต์

 - สร้างโอกาส 1 ครั้ง

- ครอสบอล 3 ครั้ง

- แทคเกิ้ล 2 ครั้ง (สำเร็จ 1 ครั้ง)

- เคลียร์บอล 1 ครั้ง

- แย่งบอลคืนสำเร็จ 4 ครั้ง 

- วิ่งระยะทางทั้งหมด 7.7 กิโลเมตร

ตัวเลขเหล่านี้บ่งชี้ได้ชัดเจนว่า ชนาธิป มีส่วนทั้งรับและรุก ซึ่งนั่นคือสัญญาณบ่งบอกว่าเขาเริ่มเข้าระบบของ ฟรอนตาเล่ มากขึ้นกว่าเก่าก่อน

แอสซิสต์งามๆ ที่เปิดบอลจากฟากซ้ายไปเข้าหัว โชโกะ ทานิกูชิ ที่โขกเข้าประตูไป น่าจะเพิ่มความมั่นใจให้กับ ชนาธิป และรวมไปถึงเพื่อนร่วมทีมที่เริ่มให้การยอมรับในตัวมิดฟิลด์ทีมชาติไทย มากขึ้นเรื่อยๆ

หลายๆ จังหวะในเกมกับ เกียวโต ซังงะ เขามีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์โอกาส โดยที่มี ยู โคบายาชิ ศูนย์หน้าของทีมคอยซัพพอร์ตอยู่เสมอ

น่าเสียดายที่ มาร์ซินโญ่ เล่นแบบชายเดี่ยวไปหน่อย ไม่งั้นนัดนี้ ชนาธิป อาจจะมีชื่อบนสกอร์บอร์ดก็เป็นได้

3 คะแนน ที่ ฟรอนตาเล่ ได้จากนัดนี้ บวกกับความพ่ายแพ้ต่อ จูบิโล่ อิวาตะ ของ โยโกฮามะ มะรินอส ทำให้การลุ้นแชมป์ เจลีก 2022 ยังเข้มข้นต่อไปจนถึงเกมสุดท้ายของซีซั่น

ส่วนการเดินทางของ ชนาธิป จะเป็นอย่างไรต่อไป ไม่อาจรู้ได้ 

แต่สิ่งหนึ่งที่เห็นจากแววตา คือแฟนฟุตบอลชาวไทย จงมั่นใจได้เลยว่าเขาจะสู้อย่างสุดความสามารถ โดยไม่มีคำว่ายอมแพ้อย่างแน่นอน

เพราะว่า ชนาธิป ก็ยังเป็น ชนาธิป ชายหนุ่มผู้ไม่เคยย่อท้อต่ออุปสรรคใดๆ


ที่มาของภาพ : getty images
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport