อุราวะ เรดส์ ทีมพันธมิตร "กิเลนผยอง" แถลงข่าวเปิดตัว เอกนิษฐ์ ปัญญา ร่วมทัพ "ปีศาจแดงแห่งเอเชีย" ทางการ โดยผู้สื่อข่าวญี่ปุ่น ยิงคำถาม 15 ข้อเจาะเป้าหมายสำคัญในการออกจากแผ่นดินสยามมาผจญภัยลีกฟุตบอลที่แดนอาทิตย์อุทัย แย้มอยากลงสนามดวลรุ่นพี่ สุภโชค สารชาติ ในแมตช์ "ไทยดาร์บี้"
เมื่อวันอังคารที่ 29 ส.ค.2566 เวลา 13.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น (เร็วกว่าไทย 2 ชั่วโมง) สโมสรอุราวะ เรดส์ ยอดทีมแห่งศึกเจลีก ประเทศญี่ปุ่น จัดแถลงข่าวเปิดตัว "บุ๊ค" เอกนิษฐ์ ปัญญา แนวรุกดีกรีทีมชาติไทย เข้ามาร่วมทัพอย่างเป็นทางการ หลังยืมตัวมาจากสโมสรเมืองทอง ยูไนเต็ด ทีมพันธมิตรลูกหนังด้วยสัญญายืมตัว 6 เดือน พร้อมอ็อปชันขยายต่อ
ดาวเตะวัย 23 ปี ให้สัมภาษณ์โดยมี "มิวซัง" นริศ จำปาลี ล่ามคู่ใจรับหน้าที่ช่วยแปลเป็นภาษาญี่ปุ่น โดย "เจ้าบุ๊ค" กล่าวเริ่มว่า "สวัสดีครับ ผม เอกนิษฐ์ ปัญญา ครับ ชื่อเล่นชื่อบุ๊คครับ ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ"
ตั้งแต่เข้ามาร่วมทีมอุราวะ สองอาทิตย์กว่าๆ เรารู้สึกยังไงบ้างกับการเข้ามาร่วมซ้อม? " การได้มาเล่นที่ญี่ปุ่น มาเล่นที่นี่ คือ ความฝันของผมอยู่แล้วครับ การได้มาเล่นที่อุราวะ เรดส์ ครั้งนี้ก็ต้องขอขอบคุณสโมสรเมืองทอง และทางสโมสรอุราวะ เรดส์ ที่ได้ทำให้ดีลนี้เกิดขึ้นครับ ก็รู้สึกดีใจและรู้สึกเป็นเกียรติมากครับที่ได้มาอยู่ที่นี่"
ชื่อเรานั้นมีทั้ง "เอกนิษฐ์" มีทั้ง "ปัญญา" มีทั้ง "บุ๊ค" ซึ่งพวกเราสามารถเรียกได้มากมาย แล้วสำหรับคุณอยากให้พวกเราเรียกว่าอะไรดี? "เรียกชื่อเล่นก็ได้ครับ บุ๊ค"
ในการย้ายมาครั้งนี้เรามีเป้าหมายอะไรบ้าง เรามีความฝันอะไรที่อยากจะแสดงให้ทุกคนได้เห็นบ้าง? "การได้มาเล่นในเจลีก คือ เป้าหมายและความฝันของผมอยู่แล้วครับ และก็การได้มาอยู่ในทีมอุราวะ เรดส์ อย่างที่ทุกคนรู้ครับ คือ อุราวะ เรดส์ เป็นทีมที่ยิ่งใหญ่อยู่แล้ว และมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน รวมถึงการประสบความสำเร็จมาอย่างยาวนาน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ผมเองก็ต้องแสดงการฝึกซ้อมให้สต๊าฟฟ์โค้ชเห็นและเพื่อนร่วมทีมได้เห็นเพื่อโอกาสในการลงไปเล่นครับ"
ที่เราเข้ามาร่วมทีมอุราวะ เรดส์ เราอยากแสดงการเล่นยังไงให้แฟนๆ อุราวะ เรดส์ และทุกคนได้เห็น และการเข้ามาครั้งนี้เราอยากจะโฟกัสที่จุดไหนบ้างและต้องปรับปรุงจุดไหนบ้าง? "ผมเข้ามาในตำแหน่งเกมรุก ผมจึงต้องแสดงให้เห็นถึงเกมรุกและการสร้างสรรค์เกมหรือไม่ก็การผ่านบอลเข้าไปในพื้นที่สุดท้ายเพื่อทำประตูที่ผมทำได้ให้ทุกคนได้เห็น และโฟกัสกับเกมรับของทีมเป็นหลัก เพราะว่าเกมรับของผมยังไม่ค่อยดี และก็ต้องพยายามฝึกซ้อมให้ดีเพื่อที่จะได้รับโอกาสลงสนามครับ"
ในตำแหน่งเกมรุกก็ถือว่าเรามีคู่แข่งในการแย่งตำแหน่งมากมายอยู่ คิดว่าเราต้องแสดงจุดไหนออกมาให้เห็นบ้างเพื่อที่จะแย่งตำแหน่งลงสนามให้ได้? "ฟุตบอลมันไม่ง่ายครับ ผมคิดว่าตำแหน่งการเล่นเราก็ต้องแข่งขันกับเพื่อนร่วมทีมอยู่แล้ว ซึ่งผมก็พยายามปรับตัวเองให้เข้ากับแทคติกที่ทีมเล่นในตอนนี้ และก็พยายามแสดงศักยภาพให้โค้ชรวมถึงเพื่อนร่วมทีมเห็นครับ เพื่อที่จะได้รับโอกาสลงสนาม"
ตอนที่ซ้อมเมื่อวานนี้เราได้มีการขอพักก่อนแล้วตอนนี้เรารู้สึกยังไงบ้าง? "เมื่อวาน (28 ส.ค.2566) ก็รู้สึกมีอาการปวดเท้านิดหน่อย แต่วันนี้ก็ฝึกซ้อมได้ตามปกติครับ"
ในการมาครั้งนี้ก็ถือว่าเป็นโอกาสของเราแล้ว ซึ่งคุณตัดสินใจยังไงบ้างในการย้ายมาค้าแข้งที่นี่? "ตัดสินใจไม่ยากครับ ผมอยากจะมาเล่นเจลีกอยู่แล้ว และทางอุราวะ เรดส์ ยื่นขอเสนอมา ต้องขอบคุณทีมอุราวะ เรดส์ ครับ ที่ให้โอกาสผมได้มาที่นี่ และผมต้องฝึกซ้อมให้ดีก่อนครับเพื่อโอกาสลงสนาม ซึ่งผมเองต้องปรับตัวด้วยทั้งในสนามและนอกสนาม เช่น อาหารการกิน การอยู่ การนอน ต้องค่อยๆ ปรับตัวไปครับ"
ในเจลีกตอนนี้มีรุ่นพี่หลายๆ คนที่เคยมาค้าแข้ง ไม่ว่าจะเป็น ชนาธิป สรงกระสินธ์, ธีรศิลป์ แดงดา, ธีราทร บุญมาทัน เมื่อเราได้เห็นพวกเขาลงเล่นในเจลีกไปแล้ว คิดว่าเราจะเล่นที่นี่ได้ไหมและเราจะทำยังไงให้ประสบความสำเร็จตาม พวกเขาเหล่านั้น? "ผมได้ติดตามพี่เจ พี่มุ้ย พี่อุ้ม อยู่ตลอดครับ และการมาเล่นที่เจลีก คือ ความฝันของผมอยู่แล้ว พยามนำมาปรับตัวให้ได้ครับในเจลีก"
ครั้งก่อนคุณถ่ายรูปกับ ยูตะ มิยาโมโตะ เห็นเขาบอกว่าหน้าเหมือนกัน นอกจากยูตะแล้ว คุณได้คุย หรือสนิทกับคนอื่นๆ ในทีมบ้างหรือไม่? "ที่คุยเป็นพิเศษก็มีโยตะ (โฮริอุจิ) เพราะผมอยู่หอที่อุราวะ เรดส์ และก็มีพี่ๆ ในทีมก็มีชวนคุยบ้างครับ"
ที่บอกว่าเราอยากแสดงศักยภาพของเราให้ดีที่สุด แล้วเราคิดว่าเราเล่นคล้ายใครในทีมของอุราวะ เรดส์บ้างไหม? เราอยากจะเอาจุดเด่นของใครบ้างไหม? หรือเราอยากเลียนแบบหรืออยากเล่นตามเขาอย่างไรบ้าง? "เล่นคล้ายใคร สำหรับตัวผมไม่มีครับ แต่คิดว่าอยู่ที่สไตล์การเล่นของแต่ละคนมากกว่าครับ เพราะแต่ละคนสไตล์ไม่เหมือนกัน อย่างที่บอกในทีมก็ต้องแข่งขันกันอยู่แล้ว แต่ละตำแหน่งก็ต้องแข่งขันกันอยู่แล้ว ก็ต้องโฟกัสกับการฝึกซ้อมให้ดีในแต่ละวันเพื่อที่จะให้โค้ชได้เห็น เพื่อการถูกส่งลงไปสนามครับ"
น่าจะได้ดูบรรยากาศการเชียร์ที่สนามไซตามะ สเตเดี้ยม 2002 แล้วก็น่าจะได้ชมการเล่นของทีมอุราวะ เรดส์ มาบ้างแล้ว ซึ่งเรากำลังจะได้มาสัมผัสจริงแล้วเรารู้สึกอย่างไรบ้าง? "ครับผม อย่างแรกเลย คือ ที่ผ่านมาได้มาฝึกซ้อมที่นี่ และที่เจลีกก็ถือว่ามาตรฐานสูงกว่าที่ไทยซึ่งผมเคยอยู่มา การมาที่นี่ก็ต้องปรับตัวทั้งในการฝึกซ้อม ทั้งเรื่องในสนามและนอกสนาม ซึ่งทีมอุราวะ เรดส์ ทุกคนน่าจะทราบดีอยู่แล้วครับว่าเขาเล่นในบ้านได้น่ากลัว และแฟนบอลทำให้ข่มขวัญทีมฝ่ายตรงข้ามได้ครับ"
ชื่อเล่นชื่อ "บุ๊ค" นั้นมาจากไหน หรือเราชอบอ่านหนังสือหรือเปล่าเลยได้ชื่อนี้มา? "ผมยังไม่ได้ถามพ่อแม่เหมือนกันครับ ว่าทำไมถึงตั้งชื่อว่า บุ๊ค ครับ"
ได้คุยกับเช็ค (สุภโชค สารชาติ) ว่าบุ๊คได้มาเล่นที่เจลีกนั้นเป็นเรื่องที่ดี และเขาก็อยากเจอบุ๊คเหมือนกันในสนาม ซึ่งสำหรับตัวบุ๊คเองคิดอย่างไรบ้างว่าการที่เรามาที่นี่จะพัฒนาตัวเองอย่างไรและเราจะได้ดวลกับเช็ค (สโมสรคอนซาโดเล่ ซัปโปโร) หรือเปล่าในสนาม? "ก็หวังว่าได้เจอพี่เช็คในสนามที่ญี่ปุ่นถ้าทีมเราได้เจอกัน การมาที่นี่เหมือนความท้าทายของผมเพราะนี่คือการมาเล่นเจลีกครั้งแรก ก็ทำให้ผมได้พัฒนาตัวเองไปด้วยและได้ยกระดับฝีเท้าตัวเองไปด้วยครับ"
พวกเราได้คุยกับเช็คมา โดยการมาที่นี่นั้นเป็นสิ่งที่ดีสำหรับตัวบุ๊คเองและทีมชาติไทยด้วย แล้วเราคิดว่าเราสามารถกลับไปยกระดับทีมชาติไทยได้อย่างไรบ้าง? "อย่างแรกเลยคือผมได้พัฒนาตัวเองแน่ๆ อย่างที่สอง คือ ถ้าผมทำผลงานได้ดีก็จะต่อยอดได้และทำให้รุ่นน้องจากไทยได้มีโอกาสมากยิ่งขึ้นในเจลีก และสำหรับทีมชาติ ถ้าผมทำผลงานที่นี่ได้ดีก็จะกลับไปพัฒนาทีมชาติไทยได้เยอะพอสมควรครับ"
คำถามสุดท้ายในฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 2023/24 ของอุราวะ เรดส์ เชื่อว่าสโมสรน่าจะต้องการกำลังของบุ๊คในการสู้ศึกชิงแชมป์เอเชียในครั้งนี้ด้วย แม้รอบแบ่งกลุ่มจะจับสลากมาแล้วไม่มีทีมจากไทยร่วมสายอยู่ก็ตาม แต่หากสามารถผ่านรอบแบ่งกลุ่มไปได้ก็อาจจะได้เจอกับสโมสรจากไทยในอนาคต ซึ่งเรามีความรู้สึกอย่างไรบ้าง? "ตัวผมเองก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับเกมให้เร็วที่สุดเพื่อที่จะได้ลงสนาม และในการแข่ง AFC Champions League ก็มีเป้าหมายอยากมีชื่อก่อนและลงไปทำผลงานให้ดีให้ได้ครับ"