"บุ๊ค" เอกนิษฐ์ ปัญญา เด็กหนุ่มวัย 23 ปี จาก อ.พญาเม็งราย จ.เชียงราย แข้งทีมชาติไทยของสโมสรเมืองทอง ยูไนเต็ด สานฝันตัวเองด้วยการออกไปค้าแข้งต่างแดนได้สำเร็จ หลังจากถูกปล่อยยืมให้ไปท้าอนาคตกับสโมสรอุราวะ เรดส์ ยอดทีมแห่งศึกเจลีกของญี่ปุ่น เรื่องราวของเด็กหนุ่มเมืองเหนือ จากลูกโทนคนเดียวในบ้านพ่อแม่ยอมทิ้งอาชีพขายก๋วยเตี๋ยวหันมาดูแลฝันด้านฟุตบอลของลูกอย่างเต็มเปี่ยม นี่คือหลากหลายเรื่องราวของเด็กหนุ่มรายนี้ก่อนออกไปต่อสู้บนถนนสายอาชีพต่างแดน
"ฟุตบอลพ่อ" สอนชีวิต
การเติบโตขึ้นมาใน อ.พญาเม็งราย จ.เชียงราย ของเด็กชายที่เป็นลูกคนเดียวในครอบครัว ได้ผสมผสานความสงบเงียบของเมืองที่เต็มไปด้วยโอโซนชั้นดี พร้อมกับเริ่มผูกมัดตัวเองเข้ากับเกมลูกหนังจากคุณพ่อ เสกสรร ปัญญา ที่ชื่นชอบทัศนาความสนุกสนานของเกมฟุตบอลพร้อมกับแรงขับของคุณแม่อนงค์ ปัญญา ที่คอยต่อเติมเสริมฝันให้ฟุตบอลที่ "บุ๊ค" เอกนิษฐ์ ปัญญา มุ่งมั่นทะยานไปสู่ความจริง ตั้งแต่เริ่มเตะฟุตบอลแบบเตาะแตะเป็น การต่อฝันให้สุดของลูกคือเป้าหมายที่จะได้แชร์ความสุขกันในอนาคต จุดเริ่มต้นแรกแรงบันดาลใจฟุตบอลของแข้งทีมชาติไทยรายนี้คือ "พ่อ" ผู้ที่เป็นแบบอย่างในเส้นทางของฟุตบอล
"ครูยก" ตกทอดลูกหนัง
"บุ๊ค" เริ่มเล่นฟุตบอลตั้งแต่สมัยอนุบาลในโรงเรียนที่ตั้งอยู่ใน อ.พญาเม็งราย พัฒนาฝีเท้าตัวเองมาเรื่อยๆ จนต่อยอดสู่การเป็นตัวแทนของสถานศึกษาลงแข่งขันรายการต่างๆในพื้นที่ จ.เชียงราย ชั้นเชิงฟุตบอลถูกแสดงออกมาส่งต่อความสุขให้กับผู้ชมที่เกาะติดความสามารถของแข้งจิ๋วรายนี้ ด้วยลีลาที่แสดงออกอย่างโดดเด่นตั้งแต่เยาว์วัยฉายความเก่งกาจแบบไม่หยุดหย่อน ครูบอลคนสำคัญนอกจากความมุ่งมั่นของตัวเขาเองและครอบครอบครัว "บุ๊ค" บอกว่า "ครูยก" ที่ไม่มีไลเซ่นส์คือโค้ชฟุตบอลที่แต่งเติมทักษะขั้นพื้นให้กับเขาจนติดตัวมาถึงทุกวันนี้ ในการฝึกซ้อมทุกๆวันครูยก จะพกบทเรียนด้านทักษะมาปั้นเติมเสริมแต่งนักกีฬาทุกคนเสมอ โดยเฉพาะการเดาะบอล ,เลี้ยงบอล "บุ๊ค" ถูกครูสั่งให้ทำทุกวันจนเกิดเป็นความชำนาญ และเข้าใจจังหวะของฟุตบอลมากขึ้นในทุกๆสถานการณ์ สุดท้ายเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการรังสรรค์ความฝันยาวเหยียดมาจนถึงปัจจุบัน
คอมฯบ้านป้าสร้างมุมมองลูกหนัง
แข้งเกมรุกวัย 23 ปี ย้อนความสมัยอดีตให้ฟังว่า เมื่อก่อนช่วงเรียนชั้นประถมตัวเขาเองนอกจากต้องฝึกฝนฟุตบอลในสนามฟุตบอลแล้ว "บุ๊ค" เอกนิษฐ์ ปัญญา บอกว่า บ้านเขาอยู่ใกล้ๆกับบ้านป้าที่บ้านป้ามีคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะเขาก็มักจะไปขอใช้คอมพิวเตอร์เป็นประจำหลายคนก็คงสงสัยว่าติดการเล่นเกมตามประสาเด็กทั่วไปแต่ทุกอย่างมันไม่ใช่อย่างที่ทุกคนคิด หากย้อนเวลากลับไปเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้วตัวเขาเองเริ่มศึกษาเทคนิคการเล่นรวมไปถึงทักษะต่างๆจากนักฟุตบอลระดับโลกเพื่อจดจำวิธีมาประยุกต์ใช้กับการฝึกฝนฟุตบอลที่ตัวเองรัก แม้ว่าจะทำได้บ้างไม่ได้บ้างแต่มันคือการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ แน่นอนว่าในยุค 10 กว่าปีที่แล้วเรื่องของศาสตร์ฟุตบอลจากยูทูปยังไม่ค่อยมีใครสนใจมากนักแต่ "บุ๊ค" เอกนิษฐ์ ปัญญา บอกว่าดูแล้วเพลินดีแถมได้ประโยชน์หลายอย่าง
แฟนพันธุ์แท้เชียงรายตั้งแต่ ด.2
ช่วงใกล้จบประถมศึกษาโหมดความต้องการยกระดับตัวเองของ "บุ๊ค" เอกนิษฐ์ ปัญญา คือการพาตัวเองไปสู่รั้วโรงเรียนกีฬา อบจ.เชียงราย จากความสามารถที่มีบวกความตั้งใจที่พามา สุดท้ายได้เป็นหนึ่งในนักเรียนหัวเกรียนของโรงเรียนกีฬา อบจ.เชียงราย นอกจากฟุตบอลที่รักอย่างเหนียวแน่นแทบจะเคาะแป้นความรู้สึกออกมาเป็นลูกหนัง อีกเรื่องที่ชอบมากๆคือการดูกีฬา "บุ๊ค" ชอบดูการถ่ายทอดสดกีฬาโดยเฉพาะฟุตบอล ช่วงที่ลีกไทยบูมๆตั้งแต่ปี 2009 เป็นต้นมาเขาคือหนึ่งในแฟนพันธุ์แท้สโมสรฟุตบอลเชียงราย ยูไนเต็ด ตั้งแต่ฉายา "ดิออเรนจ์" มักชวนครอบครัวตามเชียร์ตั้งแต่ทีมเล่นอยู่ระดับดิวิชั่น 2 ช่วงนั้นยังใช้สนามกีฬา อบจ.เชียงราย เป็นรังเหย้า นอกจากทีมเชียงรายแล้วสิ่งหนึ่งที่อยากไปเห็นกับตาคือชื่อของนักเตะที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ที่เชียงราย อย่าง วสันต์ นาทะสันต์,วัชรากร ไกลถิ่น คืออีกหนึ่งแรงดึงดูดที่พาเข้าสนามฟุตบอล จนช่วงขึ้น ม.2 จากแฟนบอลตัวจริงเสียงจริงขยับตัวเองสู่เยาวชนของอะคาเดมี่ เชียงราย ยูไนเต็ด สมัยนั้นก็ได้เริ่มเล่นเคียงบ่ากับ โชติภัทร พุ่มแก้ว ซึ่งปัจจุบันลูกหม้อสโมสรเชียงรายทั้งคู่ ย้ายออกไปหาความท้าทายทั้งหมด
ไทยลีกนัดแรก,ประตูแรก ของชีวิต
ใครจะเชื่อว่าเส้นทางของ "บุ๊ค" เอกนิษฐ์ ปัญญา จะเติบโตก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว จากเด็กน้อยที่ฝันแล้วฝันอีกว่าอยากเป็นนักเตะอาชีพจะมีโอกาสวิ่งเข้ามาชนตั้งแต่ปี 2015 ซึ่งตอนนั้นอายุเพียง 15 ปี เศษ เท่านั้น ฤดูกาลแรกบนลีกสูงสุดมาเร็วกว่าที่คิดที่สำคัญอายุก็ยังอยู่ในวัยแข้งขาสั้น "โค้ชโจ" ธีรศักดิ์ โพธิ์อ้น กุนซือเชียงรายยุคนั้น ใส่ชื่อของ "บุ๊ค" เข้าไปอยู่ในทีมหลังเห็นแวว แค่มีชื่อติดทีมก็ดีใจแล้ว แต่มีโอกาสได้นั่งเครื่องไปเตะฟุตบอลอาชีพมันยิ่งปลื้มปริ่มยิ่งนัก เชียงราย ยุคนั้นเต็มไปด้วยนักเตะอาวุโสชั้นดีมากมาย พี่ๆสอนอะไรก็จำ พี่ๆอำก็อมยิ้มตามประสาน้องนุชสุดท้อง
26 ก.ย.2015 คือวันที่แข้งหนุ่มวัย 15 ปี 11 เดือน 5 วัน จำไม่มีวันลืม เพราะถูก "โค้ชโจ" ส่งลงสนามนาทีที่ 87 ไปแทนที่ ณัทธภณ วรทญา (รัตตพล ปิยวุฒิสกุล) ช่วงเวลานั้นหัวใจมันเต้นรุนแรงตูมตามอยากจะหาอะไรมาดามหัวใจที่กระโดกเดกคิดอย่างเดียวว่าอย่าจ่ายบอลเสีย จ่ายให้พี่ๆในทีมตรงตัวก็พอ เกมแรกบนลีกสูงสุดผ่านไปด้วยดีแม้ว่าบทบาทจะไม่มากแต่รอบประสบการณ์ถูกกำหนดขึ้น เกมนั้น เชียงราย เปิดบ้านถล่มเอาชนะ ศรีสะเกษ เอฟซี 3-0 หลังจากนั้น 3 สัปดาห์เศษ "บุ๊ค" สร้างปรากฎการณ์ใหม่ให้กับวงการฟุตบอลไทยด้วยการถูกส่งเล่นเป็นตัวสำรองเหมือนเคยแต่ครั้งนี้ประตูแรกของเขาในชีวิตการเล่นไทยลีกเกิดขึ้นที่สนาม เอสซีจี สเตเดี้ยม แข้งรายนี้ส่งบอลเข้าสู่ก้นตาข่ายให้ทีมแม้ว่าจะพ่ายเจ้าถิ่นไป 1-4 แต่ประตูนี้ก็จดสถิติแข้งอายุน้อยสุดในตอนนั้นที่สามารถทำประตูได้ในวัย 15 ปี 11 เดือน 28 วัน ประตูนั้นทำให้เขาโด่งดังขึ้นมาทันตาทันใจเพราะหน้าที่ในสนามในเวลาที่จำกัดเขาทำมันได้อย่างสมบูรณ์
เงินเดือน 3 พันฝากฝันไว้กับครอบครัว
ปีแรกในการลงเล่นไทยลีกให้กับเชียงราย ยูไนเต็ด ช่วงปี 2015 เด็กวัย 15ปีเศษ ได้รับเงินเดือนๆละ 3,000 บาท บวกกับเบี้ยเลี้ยงซ้อมตกอยู่ประมาณเดือนละ 7,000 บาท "บุ๊ค" นำเงินทุกบาททุกสตางค์เข้าบัญชีพ่อแม่เพื่อให้ท่านเก็บไว้ใช้จ่ายและช่วงนั้นอาศัยในอะคาเดมี่เชียงราย จึงไม่มีเรื่องอะไรต้องใช้จ่าย ข้าวก็กินในแคมป์ หากขาดเหลือก็ขอพ่อแม่บ้างเล็กน้อยตามประสาเด็กแต่ไม่ฟุ่มเฟือยเงินก้อนดังกล่าวเหมือนเงินขวัญถุงที่สร้างความหวังทางความคิดจะพัฒนาฝีเท้าไปแลกกับการเล่นฟุตบอลอาชีพที่ยั่งยืนชัดเจนจนสุดท้ายพัฒนาสู่นักเตะรายได้ต่อเดือนด้วยผลตอบแทนด้านการเงินระดับหลักหมื่นขยับไปจนถึงระดับสูงสุดต่อเดือน ฟุตบอลตอบแทนความตั้งใจของ "บุ๊ค" และครอบครัวอย่างเต็มเปี่ยมทั้งเรื่องของรายได้และชื่อเสียง
เคยท้อแต่ไม่เคยถอย
ตลอดช่วงเวลาการค้าแข้ง "บุ๊ค" เอกนิษฐ์ ปัญญา ต้องย้ายเล่นลีกระดับต่างๆมากมาย แม้ว่าจะแจ้งเกิดจากลีกสูงสุดในปี 2015 กับ เชียงราย ยูไนเต็ด แต่ปี 2017 ต้องลงไปเล่นทีมเชียงราย ซิตี้ เพื่อสร้างกระดูกสร้างประสบการณ์ร่วมงานกับ "โค้ชยิ่ง"นันทวัฒน์ แทนโสภา ในระดับลีกภูมิภาคจนสามารถพาทีมเลื่อนชั้นสู่ไทยลีก 3 พร้อมกับการยกระดับพัฒนาฝีเท้าอย่างต่อเนื่องจากเกมการแข่งขันที่มากขึ้น เส้นทางการส่งต่อปล่อยยืมไปเสริมกระดูกยังไม่จบแค่นั้นยังต้องโยกไปเล่นให้กับ เชียงใหม่ เอฟซี ในระดับไทยลีก 2 "บุ๊ค" ลงเล่น 27 เกม ยิงไป 6 ประตู พาทีมเลื่อนชั้นสู่ไทยลีกในฐานะทีมอันดับ 3 จากที่คิดว่าโอกาสตัวเองน่าจะมีบ้างในทีมเชียงราย ยูไนเต็ด แต่ทุกอย่างกลับกลายเป็นความสุขจากการเล่นฟุตบอลต่อยอดความสามารถตัวเอง เลกแรกปี 2019 เอกนิษฐ์ ยังโลดแล่นกับ เชียงใหม่ เอฟซี บนลีกสูงสุดแถมโชว์ฟอร์มการเล่นได้แบบยอดเยี่ยมลงรับใช้เชียงใหม่ทุกรายการปีนั้น 17 เกม ยิงไป 5 ประตู สุดท้ายการระเห็จไปเติมกระดูกผูกประสบการณ์กลายเป็นสิ่งที่ทำให้นักเตะรายนี้ฉายแววความเก่งกาจฉลาดเล่นจนสุดท้ายเชียงราย ยูไนเต็ด ทนไม่ไหวต้องดึงกลับมาร่วมทีมในเลกที่สองพร้อมกับเจ้าตัวร่วมคว้าแชมป์ลีกสูงสุดกับทีมได้แบบสมบูรณ์เมื่อกลับมาสู่ถิ่นเก่าที่เป็นบ้านเกิด
"พี่แป๊ะ" ไอดอลเล่นโคตรเนียน
เอกนิษฐ์ ปัญญา ออกมายอมรับว่าตลอดชีวิตการค้าแข้งที่ผ่านมาแม้ว่าจะติดตามสไตล์การเล่นของนักเตะจากต่างแดนมากมายก่ายกองหลายคน แต่นักเตะที่เขาชื่นชอบสไตล์และวิธีการเล่นมาที่สุดคือ "แป๊ะ" พิชิตพงษ์ เฉยฉิว เขยเชียงราย ที่ย้ายมาจาก เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ซึ่งมีโอกาสได้ลงเล่นด้วยกันทั้งในทีมเชียงรายและเชียงใหม่ เอฟซี เต็มๆ "บุ๊ค" ยอมรับว่า พิชิตพงษ์ เป็นผู้เล่นที่ทักษะดีความสามารถสูง มักมีมุมมองดีๆด้านฟุตบอลเสมอให้เจริญรอยตาม จุดเด่นของรุ่นพี่นอกจากจะเล่นฟุตบอลครบเครื่องแล้วทุกจังหวะที่แสดงออกในสนามแข่งขัน "บุ๊ค" บอกว่า "พี่เขาเล่นโคตรเนียน"
พาบ้านเกิดคว้าแชมป์ลีกหนแรก
แม้ว่าจะระเห็จไป 7 ย่านน้ำด้วยการส่งตัวไปให้สโมสรต่างๆได้ยืมตัวเพื่อสั่งสมชั่วโมงบินลูกหนัง ทั้งการเล่นให้กับ เชียงราย ซิตี้,เชียงใหม่ เอฟซี แต่เมื่อหวนกลับมาสู่การเป็นสมาชิกเชียงราย ยูไนเต็ด บนลีกสูงสุดอีกครั้งในช่วงเลกสอง ฤดูกาล 2019 แม้ว่าโอกาสในสนามแข่งขันจะไม่มากลงช่วยทีม 2 นัดก็กดไป 2 ประตู พาทีมบ้านเกิดคว้าแชมป์ลีกได้เป็นครั้งแรกและการหวนกลับมาหนนี้ทำให้แข้งจาก อ.พญาเม็งราย มีความสุขสุดๆ ที่ร่วมดื่มด่ำขย้ำความสำเร็จประกาศให้คนทั้งประเทศรู้ว่าเชียงราย ยูไนเต็ด คือทีมแชมป์ลีกสูงสุดทีมแรกของภาคเหนือ และการกลับมาครั้งนี้กำลังจะเป็นหมุดหมายที่สำคัญย่างก้าวสู่นักเตะระดับตำนานของสโมสรในอนาคต
ทีมชาติชุดใหญ่ เกมแรกใจเต้นไม่เป็นจังหวะ
ทีมชาติชุดแรกที่นำพาความสามารถไปเป็นตัวเลือก "บุ๊ค" เอกนิษฐ์ ปัญญา ก้าวไปติดทีมเยาวชน 18ปี ทีมชาติไทยในรายการพิเศษที่ฮ่องกง ปี 2017 หลังจากนั้นก็พาตัวเองไปคว้าแชมป์อาเซียน ที่ประเทศเมียนมา ในปีเดียวกัน การติดทีมชาติมันคือความสุขความภูมิใจสูงสุดของนักกีฬาทุกคน แต่เรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นในช่วงติดทีมชาติย่อมมีหลายสิ่งให้จดจำ ช่วงที่ติดทีมไปแข่งขันรายการ 19 ปี ชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก ทัวร์นาเมนต์นั้นเรื่องที่จำไม่ลืมลงเล่นท่ามกลางอากาศที่หนาวสุดๆหิมะตกท่วมสนามจะก้าวขาจะทำอะไรในสนามก็ลำบากเพราะความหนาวมันสกัดจินตนาการและการลงเล่นกับ ยู-19 ญี่ปุ่น ยอมรับว่าฟุตบอลของญี่ปุ่นไปไกลมากผู้เล่นทักษะสูงและมีความเข้าใจเกม
แต่การก้าวมาติดทีมชาติไทยชุดใหญ่ในยุคของ อากิระ นิชิโนะ กลับเป็นสิ่งที่เขาคิดว่ามันมาเร็วเกินคาดจนกลั้นเสียงหัวใจที่เต้นตูมตามไม่อยู่ ที่สำคัญเกมการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย เกมที่ 2 (10 ก.ย.62) นัดเยือนอินโดนีเซีย ถูกจับออกสตาร์ทเป็นตัวจริงเกมนั้นยอมรับว่ากดดันในเรื่องของโอกาสที่ได้รับและค่อยปรับๆตัวรู้สึกผ่อนคลายอีกครั้งก็ตอนที่ทีมชาติไทยได้ประตูออกนำ หลังจากนั้นมาก็สลัดความกลัวความหวาดระแวงสู่การเป็นผู้เล่นระดับคุณภาพเกมที่ไทยเอาชนะ ยูเออี ในบ้าน นอกจากยิงประตูชัยให้ทีมชาติไทยแล้ว ยังต่อกรกับแข้งระดับโลกของยูเออี อย่าง โอมาร์ อับดุลระห์มาน ได้อย่างแข็งแรง
สะดุ้ง! ข่าวซื้อตัว 55 ล้านบาท
ช่วงไวรัสโควิด-19 ระบาดหนักเป็นช่วงที่กำลังฟื้นฟูอาการบาดเจ็บที่ได้รับการผ่าตัด แต่ช่วงเดือน มิ.ย.63 ฟุตบอลไม่ๆได้ทำการแข่งขันเนื่องจากมหันตภัยไวรัสที่เล่นงานทั่วโลก แต่ช่วงเวลาดังกล่าว เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ยื่นสัญญามูลค่า 55 ล้านให้สโมสรเชียงราย ยูไนเต็ด พิจารณา เนื่องจากชื่นชอบมาอย่างยาวนาน แม้ว่าดีลนั้นจะถูกปฏิเสธแต่หลายคนเริ่มมองเห็นมูลค่าฝีเท้าของ "บุ๊ค" เอกนิษฐ์ ปัญญา ที่ขยับขึ้น มูลค่าค่าตัว 55 ล้านบาทในมุมมองของแข้งรายนี้บอกว่าช่วงนั้นเจ็บอยู่และตกใจพอควรกับข่าวที่ออกมาพร้อมกับตั้งคำถามกับตัวเองว่า "เมืองทองจะซื้อเราในสภาพที่ไม่สมบูรณ์จริงๆหรือ" สุดท้ายด้วยการตามหากันและกันของทั้งสองฝั่งก็กลายเป็นสมาชิกเมืองทอง ยูไนเต็ดในปัจจุบันพร้อมกับเตรียมตัวออกเดินทางไปล่าความฝันเจลีก
ค้าแข้งต่างแดนใครก็อยากไป
"บุ๊ค" เอกนิษฐ์ ปัญญา เป็นนักเตะที่เติบโตในวงการฟุตบอลอย่างรวดเร็ว ใช้ความสามารถตัวเองไต่ระดับจนก้าวขึ้นมาติดทีมชาติชุดใหญ่ยิ่งการถูกส่งไปเล่นกับทีมเล็กแล้วทำได้ดี หลายคนมองว่านักเตะรายนี้จุดแข็งคือทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีเป็นพิเศษในทุกคุณภาพทีม อนาคตกับการไปเล่นต่างประเทศย่อมเกิดขึ้นในใจนักฟุตบอลทุกคนเพราะนอกจากประสบการณ์ชื่อเสียงเงินทองแล้ว ยังเป็นโปรไฟล์ชีวิตลูกหนัง ซึ่งเจ้าตัวบอกว่าถ้ามีโอกาสก็จะไปยิ่งไปได้เร็วยิ่งดีเพราะหากไปในช่วงอายุยังน้อยจะสามารถปรับตัวต่อสู้ได้ในอนาคต คาดการณ์อนาคตตัวเองไว้ว่าไม่เกิน 23 ปี อยากทำฝันของตัวเองให้เป็นจริง เป้าหมายหลักๆคือลีกเอเชียอย่างเจลีก คงไม่มองไกลถึงยุโรปเพราะว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายต้องพยายามพิสูจน์ตัวเองทีละสเต็ปและยืนบนพื้นฐานความจริงที่เป็น สุดท้ายก็ได้ไปหาความท้าทายที่ อุราวะ เรดส์
เจ็บหนักมันก็แค่ช่วงหนึ่งของนักกีฬา
อาการบาดเจ็บหนักที่หมอนรองกระดูกหัวเข่าขวา ตั้งแต่เดือน พ.ย.62 ที่ผ่านมาคือสิ่งที่ทำให้วงรอบการเล่นฟุตบอลของ "บุ๊ค" หยุดลง นักเตะทุกคนล้วนกลัวสิ่งเหล่านี้เพราะมันคือการปิดเส้นทางการทำมาหากินบนถนนสายอาชีพ แต่สำหรับ "บุ๊ค" เอกนิษฐ์ ปัญญา แล้ว เขาคิดมุมบวกว่าอาการบาดเจ็บไม่มีใครต้องการจะตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ แต่ฟุตบอลคือกีฬาที่ปะทะแล้วเสี่ยงเจ็บสูง เมื่อเจ็บต้องดูแลตัวเองอย่างจริงจัง แถมทีมแพทย์สมัยนี้เก่งๆมากมายไม่กลัวว่าเจ็บหนักแล้วจะเล่นไม่ได้ "เจ็บได้ก็หายได้"
ลูกหนังคืนสุขซื้อบ้านให้พ่อ-แม่ ราคา 3 ล้านเศษ
ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่เด็กจนตบเท้าเข้าสู่เส้นทางฟุตบอลอาชีพ รวมถึงทีมชาติไทยชุดใหญ่ ครอบครัวเป็นตัวแปรสำคัญในการดูแลทั้งพ่อและแม่สร้างโอกาสมากมายด้วยการผลักดันเติมฝันปั้นแต่ง ยอมทิ้งอะไรบางอย่างเพื่อแลกกับโอกาสของ "บุ๊ค" เอกนิษฐ์ ปัญญา วันนี้ฟุตบอลของเขาเติบโตได้อย่างต่อเนื่องอาจจะยังไม่ถึงขีดสุดแต่ก็ก้าวเดินในทิศทางที่เป็นบวกมากกว่าลบ รายได้จากฟุตบอลที่เริ่มเก็บเล็กผสมน้อยมาตั้งแต่ช่วงแรกๆ จนขยับสู่การมีรายได้ที่สูงขึ้นและยังมีช่วงเวลาการเดินทางบนเวทีฟุตบอลอาชีพอีกยาวนาน "บุ๊ค" ตัดสินใจซื้อบ้านใน อ.เมือง จ.เชียงราย ตอบแทนบุญคุณบุพการีที่อุ้มชูดูแลเขาเป็นอย่างดีด้วยมูลค่า 3 ล้านบาทเศษ