นี่นับเป็นครั้งแรกที่ "เจ้าเชค" ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์กีฬาของย่านท้องถิ่น ซึ่งเขาพูดเกี่ยวกับชีวิตค้าแข้งที่ผ่านมารวมไปถึงเป้าหมายของตัวเองในอนาคต และความชื่นชอบที่มีต่อ ซัปโปโร รวมทั้ง ประเทศญี่ปุ่นด้วย
- ตอนนี้ครบ 1 ปีแล้วนะนับตั้งแต่ที่คุณย้ายมาเล่นที่ ซัปโปโร
- "ผมรู้สึกตื่นเต้นในทุกวันที่มาอยู่กับทีมเพราะผมอยู่ระหว่างช่วงเรียนรู้เรื่องต่างๆ ปีแรกมันผ่านไปแล้ว การเล่นฟุตบอลมันไม่ได้ต่างออกไปมากนัก และปีก่อนถือเป็นครั้งแรกที่ผมต้องใช้ชีวิตในต่างแดนด้วย ผมคุ้นเคยกับมันในระดับหนึ่งแต่ยังต้องเรียนรู้อีกหลายเรื่องเช่นกัน"
- ขอถามอีกครั้งว่าตอนที่ออกจากบ้านเกิดน่ะคุณเกิดความลังเลบ้างรึเปล่า ?
- "ผมคิดแค่ว่าฟุตบอลแบบไหนที่รอผมอยู่ที่ ญี่ปุ่น ? ชีวิตของผมจะเป็นยังไง ? ผมคิดเกี่ยวกับหลายเรื่องก่อนที่จะย้ายทีม ผมอยากเลือกทางที่ดีที่สุด"
- ในวงการฟุตบอลสมัยใหม่ที่ต้องไล่กดดันคู่แข่งอย่างหนักนั้นคุณสามารถซึมซับกับสไตล์ของ มิไฮโล เปโตรวิช กุนซือของทีมได้ดีทีเดียว
- "ที่จริงตอนอยู่ที่ประเทศไทยผมไม่ค่อยมีประสบการณ์กับการต้องไล่กดดันสูงมากนัก ดังนั้นตอนแรกผมเลยช็อกอยู่บ้าง แต่ มิช่า สอนผมอย่างละเอียดเพราะผมต้องเริ่มต้นจากศูนย์ แน่นอนว่าสไตล์นี้มันต้องใช้พลังอย่างมากเหมือนกับสไตล์อื่นๆ แต่ผมคิดว่ามันเป็นสไตล์ที่มีประสิทธิภาพมากกว่าและสนุกกว่าด้วย"
- ฤดูกาลก่อนคุณทำได้ 3 แอสซิสต์จากการเล่นในลีก 7 นัด ขณะที่ฤดูกาลนี้ยังไม่ได้เป็นตัวจริงในลีกเลยหลังย้ายมาอยู่กับทีมแบบถาวร แต่ก็ลงเล่นไปแล้ว 6 เกม ซึ่งถึงแม้งานจะยากอยู่บ้างแต่คุณก็ทำไปแล้ว 2 ประตู ในเกมเยือน โทสุ ถ้วย ลูวาน คัพ เมื่อตอนเดือนเมษายน รวมถึงทำลูกแรกในเกมลีกได้ในวันที่เจอกับ โชนัน เมื่อช่วงเดือนพฤษภาคม
- "การทำประตูไม่ได้มันทำให้เกิดความกดดันอยู่บ้าง สำหรับผมแล้วประตูที่ทำให้ทีมชนะมันถือว่าเป็นประตูที่มีความหมายกับผม ผมอยากทำอย่างนั้นให้ได้เช่นกัน"
- คุณเป็นสตาร์ที่เป็นที่รักและถูกเรียกว่า "สมบัติของชาติ" ที่ประเทศไทยมันมีการนำเสนอข่าวเกี่ยวกับคุณเยอะมากๆ จนคุณเหมือนเป็นสะพานเชื่อมระหว่างไทยกับญี่ปุ่นไปแล้ว
- "ผมดีใจนะที่การมาเล่นกับ ซัปโปโร มันทำให้ ฮอกไกโด เป็นที่สนใจมากขึ้น ผมรู้สึกโอเคเลยถ้าตัวเองถือเป็นคนที่เริ่มทำให้เกิดเทรนด์แบบนั้น และผมก็อยากให้คนมาที่นี่เยอะกว่านี้ ถ้าพวกคุณเจอเขาก็สามารถทักทายกับคนไทยเหล่านั้นได้เลย แน่นอนว่ากับคนญี่ปุ่นก็ทำได้เหมือนกัน!"
- มีที่เที่ยวที่ไหนที่คุณอยากแนะนำเป็นพิเศษไหม ?
- "แม้ว่าผมจะเป็นคนที่ชอบเก็บตัวอยู่กับบ้าน แต่ท้องถนนในซัปโปโรมันเหมือนกับช่วยชำระล้างจิตใจให้กับผมได้ ส่วนภูเขาโมอิวะแถวอุทยานอนุสรณ์อาซาฮิยามะก็มีวิวที่สวยมากๆ เช่นกัน ผมมักจะไปเดินขึ้นเขาอยู่บ่อยๆ มันช่วยทำให้ผมรู้สึกสดชื่นเวลาที่เล่นฟุตบอลเป็นเวลานาน"
- คุณดูเข้ากับเพื่อนร่วมทีมได้ดี
- "ทุกคนรู้ว่าผมรู้สึกยังไง และให้กำลังใจผมด้วยการบอกผมว่าตอนไหนที่เป็นเวลาที่ต้องเก็บบอลเอาไว้กับตัว คนที่พูดอยู่บ่อยๆ มีอย่างเช่น (ฟูคาอิ) คาซูกิ ที่รู้ว่าต้องผ่านบอลในจังหวะไหน และมันก็มีคนที่น่าสนใจอย่าง (นาคาจิมะ) ไทกะ ด้วย ที่ประเทศไทยน่ะไม่ค่อยมีคนที่มีบุคลิกแบบเขามากนัก"
- คุณชอบอาหารญี่ปุ่นด้วยนี่
- "ผมชอบซูชิมากๆ จนอยากกินสัก 2 ครั้งต่อสัปดาห์เลย ซูชิหน้าโปรดของผมคือทูน่ากับแซลม่อนโดยที่ต้องใส่วาซาบิด้วย ไม่ว่าจะเป็นที่ทริตอน, คันทาโร่ หรือ นาโกยะคาเทอิมันก็อร่อยหมดเลย!"
- คำไหนในภาษาญี่ปุ่นที่คุณใช้บ่อยๆ
- นี่นับเป็นครั้งแรกที่คุณให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์กีฬาในญี่ปุ่นเลย
- "ที่จริงที่ประเทศไทยก็มีหนังสือพิมพ์กีฬาเหมือนกัน และก็มีสื่อบนโซเชียลเน็คเวิร์ตด้วย ที่ญี่ปุ่นผมไม่เห็นคอมเมนท์ที่รุนแรงมากเท่ากับที่เมืองไทยซึ่งปกติแล้วคอมเมนท์แบบนั้นมันทำให้ผมรู้สึกเจ็บปวด เหล่าผู้อ่านของ โฮชิ ช่วยดูแลผมด้วยความอบอุ่นด้วยนะครับ และก็ขอฝากถึงเรื่องนั้นกับคนเขียนข่าวด้วยนะครับ (หัวเราะ)"
- คำถามสุดท้าย อะไรเป็นสิ่งที่คุณอยากทำให้ได้มากที่สุดในอนาคต
- "เป้าหมายในปีนี้คือการได้แชมป์ร่วมกับ ซัปโปโร ถ้าผมมีโอกาสแล้วล่ะก็ผมก็พอจะมองภาพออกเลยว่าผมจะสามารถช่วยทีมได้ ผมจะทำผลงานให้ดีต่อไปและเป็นส่วนสำคัญต่อเรื่องนั้นให้ได้ ขอบคุณสำหรับกำลังใจที่มีให้อยู่เรื่อยๆ นะครับ!"