เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2022 กำลังจะลงห้ำหั่นนัดชิงชนะเลิศกันในช่วงดึกของวันเสาร์ที่ 29 เมษายน
ว่าแล้ว 'SIAMSPORT' จึงอยากมาแชร์ข้อมูลของคู่แข่งทั้งสองทีม ไปดูกันว่าศึกชิงแชมป์สโมสรเอเชีย หนนี้ ฝ่ายใดจะมีโอกาสชนะมากกว่ากัน!!
[ 1 ] ความสำเร็จในประเทศ
อัล-ฮิลาล
นี่คือสโมสรที่ได้รับการบันทึกว่าสะสมโทรฟี่มากที่สุดในเอเชีย ด้วยจำนวน 65 ถ้วย โดยเป็นแชมป์ลีกสูงสุดของซาอุดีอาระเบีย 18 สมัย (มากที่สุดในประเทศ)
เดอะ ลีเดอร์ส (ฉายาของ อัล-ฮิลาล) คือจ้าวแห่งดินแดนทะเลทรายอย่างแท้จริง กับการคว้าแชมป์ลีกได้ 4 จาก 5 ฤดูกาลหลังสุด และไม่เคยหลุดจากท็อป 4 เลย นับตั้งแต่ซีซั่น 2003-04
โดยล่าสุด (2021-22) พวกเขายังได้ 'ดับเบิ้ลแชมป์' ด้วยการคว้าแชมป์ลีก พ่วงด้วย เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก อีก 1 ใบ
อุราวะ เรดส์
พวกเขาคือหนึ่งในสโมสรเก่าแก่ของญี่ปุ่น และเคยเป็นแชมป์ลีกสูงสุดของญี่ปุ่น มาแล้ว 5 ครั้ง แต่ถ้านับเฉพาะตอนที่เป็น เจลีก - อุราวะ เรดส์ ได้มา 1 สมัยในปี 2006
อย่างไรก็ตาม ในถ้วย เอ็มเพอร์เรอร์ส คัพ - พวกเขาคือเบอร์หนึ่งของประเทศ กับการได้แชมป์มาแล้ว 8 สมัย และรองแชมป์อีก 4 ครั้ง มากที่สุดในดินแดนซามูไร
ส่วนในซีซั่นล่าสุด อุราวะ เรดส์ จบอันดับ 9 ของ เจลีก และไม่มีถ้วยรางวัลใดๆ ติดมือเลยสักรายการ
[ 2 ] ความสำเร็จในทวีปเอเชีย
อัล-ฮิลาล
หากนับรวม เอเชียน คลับ แชมเปี้ยนชิพ กับ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก อัล-ฮิลาล คือสโมสรที่ได้สัมผัสถ้วยใบนี้มากที่สุดในทวีปเอเชีย กับการคว้าแชมป์มาแล้ว 4 ครั้ง แบ่งเป็นตอนใช้ชื่อ เอเชียน คลับ แชมเปี้ยนชิพ 2 หน (1991, 2000) กับ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก อีก 2 หน (2019, 2021)
เท่านั้นไม่พอ เดอะ ลีเดอร์ส ยังได้โทรฟี่ เอเชียน คัพ วินเนอร์ส คัพ อีก 2 ครั้ง (รายการนี้เลิกแข่งขันกันในปี 2002) อีกด้วย
อุราวะ เรดส์
แม้ผลงานในประเทศจะเป็นรองหลายๆ ทีม แต่ในระดับเอเชีย พวกเขาคว้าแชมป์ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก มาแล้ว 2 ครั้ง (2007, 2017) ซึ่งมากที่สุดในสโมสรจากญี่ปุ่น
โดยหนึ่งในนั้นคือการปราบ อัล-ฮิลาล เมื่อปี 2017 ในรอบชิงชนะเลิศอีกต่างหาก
[ 3 ] เฮดโค้ช
อัล-ฮิลาล
รามอน ดีอ๊าซ อดีตศูนย์หน้าทีมชาติอาร์เจนติน่า ยุคปลาย 70' ผู้เคยค้าแข้งกับสโมสรใหญ่ในยุโรปอย่าง นาโปลี, ฟิออเรนติน่า, อินเตอร์ มิลาน และ โมนาโก ก่อนจะมาแขวนสตั๊ดที่ญี่ปุ่น โดยมี โยโกฮามะ มะรินอส เป็นทีมสุดท้าย
พอผันตัวสู่งานโค้ช เขาก็นำ ริเวอร์เพลท ต้นสังกัดแรกในชีวิตนักฟุตบอลพุ่งชนความสำเร็จมากมาย ทั้งในและนอกประเทศ ก่อนจะถูกแต่งตั้งให้เป็นกุนซือทีมชาติปารากวัย ในปี 2014
ดีอ๊าซ หมดสัญญากับ โลส กัวรานีเญส (ฉายาปารากวัย) ในปี 2016 แล้วก็บินมาหากินที่เอเชียตะวันตก โดยมีหมุดหมายแรกคือ อัล-ฮิลาล นี่เอง ซึ่งมาถึงปุ๊บ ก็พาทีมคว้าแชมป์ลีกปั๊บ และก็ย้ายไปอีกหลายแห่ง กระทั่งกลับมาคุม เดอะ ลีเดอร์ส อีกหนเมื่อกุมภาพันธ์ 2022 นี่เอง
อุราวะ เรดส์
มาเชย์ สกอร์ซ่า เทรนเนอร์ผู้ยิ่งใหญ่ชาวโปแลนด์ กับการได้แชมป์ลีกสูงสุดของประเทศ 7 สมัย ร่วมกับ 4 สโมสร ซึ่งถือเป็นสถิติที่น่าทึ่งมากๆ
กุนซือวัย 51 เคยมารับงานในซาอุดีอาระเบีย ระหว่างปี 2021-13 โดยตอนนั้นคุมทัพ เอตติฟาค เอฟซี แต่ก็ไม่มีผลงานเด่นชัดนัก รวมทั้งยังมาเป็นเฮดโค้ชให้ทีมชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี อยู่ช่วงหนึ่งอีกด้วย
จากการที่ ริคาร์โด้ โรดรีเกวซ ซึ่งเป็นผู้พา อุราวะ เรดส์ เข้าชิงชนะเลิศ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2022 แยกทางไป ทำให้ สกอร์ซ่า จึงรับบทแม่ทัพคนใหม่ของทีมแทน โดยเขาเพิ่งเซ็นสัญญากับปีศาจแดงแห่งเอเชียเมื่อเดือนพฤศจิกายนของปีที่ผ่านมานี้เอง
[ 4 ] สตาร์
อัล-ฮิลาล
โอเดียน อิกาโล่ ศูนย์หน้าทีมชาติไนจีเรีย ที่ผ่านประสบการณ์ในยุโรป มาโชกโชน ทั้งยังเคยเล่นให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาแล้วอีกด้วย
ดาวยิงวัย 33 ปี คือผู้ซัดคนเดียว 4 ประตูในรอบรองชนะเลิศที่ถล่ม อัล-ดูฮาอิล (กาตาร์) ไปเละเทะ 7-0 ก่อนจะสะสมตัวเลขใน เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก ไปแล้ว 7 ลูก เป็นรองเพียง เอ็ดมิลสัน จูเนียร์ ของ อัล-ดูฮาอิล คนเดียวเท่านั้น
อุราวะ เรดส์
ฮิโรกิ ซากาอิ แบ็กขวาเบอร์หนึ่งทีมชาติญี่ปุ่น คนปัจจุบัน เป็นอีกคนที่เจนจัดเวทียุโรป เพราะไปค้าแข้งที่เยอรมัน กับฝรั่งเศส เกือบสิบปี กระทั่งย้ายกลับมาบ้านเกิดเมื่อฤดูกาล 2021 นี่เอง
กัปตันทีม อุราวะ เรดส์ คนปัจจุบัน แม้วัยจะมากขึ้น ซึ่งทำให้ความว่องไวถดถอยไปบ้าง แต่เรื่องของมันสมองและความเก๋าของเขาสามารถสร้างประโยชน์ให้กับทีมได้มหาศาล
[ 5 ] จับตา
อัล-ฮิลาล
ซาเล็ม อัล ดาวซารี่ แนวรุกผู้มีจินตนาการในการเล่นสูงลิ่ว แต่ที่สำคัญเขาคือนักเตะที่มักจะทำประตูสำคัญให้กับซาอุดีอาระเบีย ได้บ่อยๆ โดยช็อตที่สร้างชื่อที่สุดคือการเป็นผู้ส่งบอลสู่ก้นตาข่ายอาร์เจนติน่า ในรอบแรกฟุตบอลโลก 2022 ที่ทัพอินทรีแห่งอาหรับพลิกล็อกชนะทีมฟ้า-ขาวไปได้ 2-1
นอกเหนือไปจากนี้ เขายังได้รับเลือกให้เป็น 'ผู้เล่นทรงคุณค่า' ของ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2021 หรือปีที่ผ่านมาอีกต่างหาก
อุราวะ เรดส์
จริงๆ แล้ว อุราวะ เรดส์ ควรต้องมี ยูซูเกะ มะสึรุ ปีกดาวซัลโวของทีมในถ้วยนี้ที่กดไปแล้ว 6 ประตู แต่เขาถูกปล่อยไปเล่นในลีกเบลเยียม เสียก่อน ขณะที่คนที่ยิงได้รองๆ ลงมาอย่าง แคสเปอร์ นังเคอร์ ก็ย้ายสู่ นาโกยะ แกรมปัส เอต เมื่อต้นปี 2023
จากการที่ไม่มีคีย์แมนในรอบที่ผ่านมา ทำให้ต้องมาฝากความหวังไว้กับ ชินโซ โคโรกิ อดีตแนวรุกทีมชาติญี่ปุ่น ผู้โชกโชนไปด้วยประสบการณ์ แม้จะอายุ 36 ไปแล้ว แต่เชื่อได้เลยว่าเหลี่ยมฟุตบอลของเขาจะสามารถพลิกสถานการณ์ให้ทีมได้ในชั่วพริบตา อีกทั้งการยิงไป 8 ประตู จาก 11 เกมหลังสุดในถ้วยนี้ก็น่าจะรับประกันได้ระดับหนึ่งถึงความเฉียบคมในพื้นที่สุดท้ายเช่นกัน
[ 6 ] ตัวละครลับ
อัล-ฮิลาล
โมฮัมเหม็ด คานโน มิดฟิลด์ตัวรับที่อาจจะไม่ได้มีเล่นหวือหวา แต่โค้ชทุกคนในโลกชื่นชอบนักเตะประเภทนี้เหลือเกิน และสถิติสกัดกั้นแนวรุกคู่ต่อสู้ได้มากที่สุดใน เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2022 ก็บ่งชี้ได้เป็นอย่างดีถึงคุณภาพของเขา
อย่างไรก็ตาม กองกลางวัย 28 ปี มีจุดบอดตรงที่การแท็กเกิ้ลที่หนักหน่วง เพราะก่อนหน้านี้ใน ฟีฟ่า คลับ เวิร์ล คัพ พี่แกโดนไล่ออกจากสนามถึง 2 ครั้ง แถมในถ้วยเอเชีย ที่เล่นมา 6 ฤดูกาลก็ได้รับใบเหลืองไปถึง 13 ใบ เลยทีเดียว
อุราวะ เรดส์
เดวิด โมเบิร์ก คาร์ลส์เซ่น เพลย์เมเกอร์ชาวสวีเดน อาจจะไม่เป็นตัวหลักของทีมชุดปัจจุบัน แต่ 5 ประตู ใน เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก ก็ไม่อาจปฏิเสธได้เช่นกันว่าเขาคือนักเตะที่สร้างความแตกต่างให้กับทีมได้ในสถานการณ์คับขัน
แนวรุกวัย 29 ปี มีจุดเด่นที่ลูกตั้งเตะที่หวังผลได้ และเท้าซ้ายของเขาสามารถบันดาลความมหัศจรรย์ได้ทุกวินาที
[ 7 ] ผลงานปัจจุบัน
อัล-ฮิลาล
เวลานี้ ซาอุดี โปร ลีก กำลังเข้าสู่โค้งสุดท้ายของฤดูกาล 2022-23 ทว่า อัล-ฮิลาล ซึ่งเป็นแชมป์เก่า ผลงานไม่ค่อยดีนัก กับการรั้งอันดับ 4 ของตาราง โดยมีแต้มห่างจ่าฝูง อัล-อิตติฮัด ถึง 10 คะแนน แถมแข่งมากกว่า 1 เกม
เดอะ ลีเดอร์ส ฟอร์มลุ่มๆ ดอนๆ กับการแพ้ไป 2 จาก 4 เกม หลังสุดในลีก ทำให้โอกาสป้องกันแชมป์จึงเป็นไปได้ยากมากๆ
อุราวะ เรดส์
ตอนนี้ เจลีก 2023 เพิ่งจะอยู่ในช่วงต้นซีซั่น โดยผ่านพ้นมา 9 เกม อุราวะ เรดส์ รั้งอันดับ 4 ของตาราง โดยมีแต้มห่างจ่าฝูงอย่าง วิสเซิล โกเบ แค่ 2 คะแนน เท่านั้น
ผลงาน ณ ปัจจุบัน ของพวกเขากำลังไปได้สวย เพราะไม่แพ้ใครเลย 11 นัด ในทุกรายการ ซึ่งถ้ารักษามาตรฐานไว้ได้สม่ำเสมอ บวกกับเพิ่มเติมความเฉียบขาดในจังหวะสุดท้ายเข้าไป บางทีอาจจะจบฤดูกาลด้วยการคว้าแชมป์ เจลีก ก็เป็นได้
[ 8 ] เส้นทางสู่นัดชิงชนะเลิศ
อัล-ฮิลาล
พวกเขาจบรอบแบ่งกลุ่มด้วยการเป็นแชมป์กรุ๊ป เอ กับสถิติ ชนะ 4, เสมอ 1 และแพ้ 1
รอบ 16 ทีม สุดท้าย ซึ่งใช้การแข่งขันที่ประเทศกาตาร์ อัล-ฮิลาล ทุบ ชาบ๊าบ อัล-อาห์ลี (ยูเออี) ไป 3-1
รอบ 8 ทีม สุดท้าย ก็ยังแข่งขันที่กาตาร์ ทว่า เดอะ ลีเดอร์ส ผ่าน ฟูล๊าด ทีมแกร่งจากอิหร่าน ได้หวุดหวิดด้วยสกอร์ 1-0 โดยยิงได้ในช่วงท้ายเกม
รอบรองชนะเลิศ อัล-ฮิลาล ถล่ม อัล-ดูฮาอิล ซึ่งเป็นเจ้าภาพไปยับเยิน 7-0 ก่อนจะคว้าตั๋วเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้เป็นซีซั่นที่ 2 ติดต่อกัน
นอกจากนี้ พวกเขายังมีสถิติที่น่าสนใจตรงที่เป็นเจ้าของสถิติ 'เก็บชัยชนะ' ในรอบน็อก-เอาต์ติดต่อกันได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์ถ้วยใบนี้ ด้วยตัวเลข 9 เกม
อุราวะ เรดส์
ปีศาจแดงแห่งเอเชีย จบด้วยการเป็นรองแชมป์กลุ่ม เอฟ พร้อมสถิติ ชนะ 4 เสมอ 1 และแพ้ 1
พอถึงรอบ 16 ทีม สุดท้าย อุราวะ ที่ได้เป็นเจ้าภาพ ก็เริ่มสำแดงเดชด้วยการถล่ม ยะโฮร์ ดารุล ต๊ะซิม (มาเลเซีย) ไปเละเทะ 5-0
รอบ 8 ทีม สุดท้าย ก็ยังเล่นที่ ไซตามะ สเตเดี้ยม และพวกเขาก็ยังยิงยับไม่เลิก โดยคราวนี้ถลุง บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ไป 4-0 เท่ากับว่าชนะทีมจากอาเซียน ได้ 2 นัดติด
รอบรองชนะเลิศ อุราวะ เรดส์ หวิดจะไม่รอดอยู่แล้ว เพราะมาตีเสมอ ชนบุค ฮุนได มอเตอร์ส (เกาหลีใต้) ในวินาทีสุดท้ายของช่วงต่อเวลาพิเศษ ก่อนจะดวลจุดโทษชนะ และทะยานสู่รอบชิงชนะเลิศได้แบบสุดมัน
ส่วนเรื่องของสถิติ พวกเขาคือทีมที่ยิงประตูใน เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2022 ได้มากที่สุด ด้วยตัวเลข 31 ประตู แถมยังเอาชนะสโมสรจากไทย ได้ 2 ทีม คือ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด (รอบแรก) และ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด (รอบก่อนรองชนะเลิศ)
[ 9 ] สไตล์การเล่น
อัล-ฮิลาล
เดอะ ลีเดอร์ส ก็เหมือนสโมสรจากเอเชียตะวันตกที่เน้นเรื่องของเทคนิคเป็นหลัก ตั้งแต่ผู้รักษาประตู ไปจนถึงกองหน้ามีความสามารถเฉพาะตัวค่อนข้างสูง ดังนั้นเรื่องการต่อบอลกับพื้นนั้นหายห่วง เพราะบิวต์-อัพตั้งแต่แดนหลังได้เลย
นอกจากนี้อีกหนึ่งจุดแข็งของ อัล-ฮิลาล คือสามประสานในแนวรุกอย่าง โอเดียน อิกาโล่, มุสซ่า มาเรก้า และ มิกาแอล นั้นจัดจ้านเหลือร้าย
อุราวะ เรดส์
ปีศาจแดงแห่งเอเชีย ค่อนข้างแตกต่างจากสโมสรญี่ปุ่น แม้จะมีเรื่องของวินัยและความฟิตเป็นจุดเด่นเฉกเช่นทีมจากดินแดนซามูไร หากแต่ อุราวะ เหนือกว่าตรงที่ทุกครั้งที่ลงสนาม พวกเขาจะใส่จิตวิญญาณที่กร้าวแกร่งลงไปด้วย
อย่างไรก็ตาม การที่โค้ชเปลี่ยนมาเป็น มาเชย์ สกอร์ซ่า นั้นค่อนข้างชัดเจนว่าเกมรับของพวกเขาดูจะละเอียดมากกว่าเดิม ซึ่งนั่นอาจจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ความหวังการคว้าแชมป์เอเชีย สมัยที่ 3 อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม
[ 10 ] นักวิเคราะห์ชี้ช่อง
'แดนเจอรัส' มนต์ชัย ศุขโข (คอลัมนิสต์และผู้บรรยายกีฬา) : อุราวะ เรดส์ น่าจะไปเอาผลเสมอ อีกอย่างโค้ชของพวกเขาเคยทำทีมในตะวันออกกลาง ดังนั้นก็คงจะรู้ข้อมูลของทีมจากซาอุดีอาระเบีย เป็นอย่างดี ผลการแข่งขันจึงน่าจะออกมาแบบเสมอกันไป 1-1
'ตังกุย' ณัฐพล ดํารงโรจน์วัฒนา (คอลัมนิสต์และผู้บรรยายกีฬา) : ชื่อชั้นของทีมจากญี่ปุ่น อาจจะคุ้นหูแฟนฟุตบอลบ้านเรามากกว่า แต่อย่าลืมว่า อัล-ฮิลาล คือสโมสรใหญ่ของเอเชีย แถมสไตล์การเล่นค่อนข้างจะเขี้ยวลากดิน ดังนั้นเกมนี้เจ้าถิ่นน่าจะชนะไปก่อน 2-1 แล้วไปลุ้นกับ อุราวะ เรดส์ แทนในเลกที่สอง
'กอล์ฟ เบนเทเก้' ปิยะพงษ์ โพธินาค (คอลัมนิสต์และผู้บรรยายกีฬา) : เป็นงานยากของ อุราวะ เรดส์ ที่แม้จะไม่แพ้ใครในลีกมาแล้ว 7 เกมติดต่อกัน แต่การมาเยือนแชมป์เก่า 4 สมัย ถือเป็นเรื่องสาหัสสากรรจ์ ดังนั้นเกมนี้ อัล-ฮิลาล น่าจะชนะไปก่อน 2-0