เจลีก x เซลติก - มาตรฐานที่สูงขึ้นของเอเชีย

   เรื่องของทีมม้าลายเขียว-ขาวจึงถูกมองข้ามไป

   แต่ความสำเร็จครั้งนี้มีคุณค่ามากกว่าถ้วยรางวัลธรรมดาใบหนึ่งที่แวะเวียนมาโชว์ในตู้ ณ สนาม เซลติก พาร์ค เพราะมันสามารถโยงเข้ากับฟุตบอลภาคพื้นเอเชีย ที่พิสูจน์ให้เห็นถึงมาตรฐานที่ขยับไปอีกระดับแล้ว

   โดยเฉพาะ เจลีก - ลีกอันดับหนึ่งของดินแดนตะวันออกของแผนที่โลก

   นับตั้งแต่ อังเก้ ปอสเตโคกลู กุนซือชาวออสเตรเลีย ย้ายจาก โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส เพื่อเข้ามาเป็นเฮดโค้ชให้กับ เซลติก ในเดือนกรกฎาคม 2021 - ตอนนั้นแทบไม่มีใครคาดคิดว่าเขาจะพาทีมพุ่งชนเป้าหมายได้

   ฤดูกาลก่อนหน้าการมาของเทรนเนอร์วัย 57 ปี (2020-21) เซลติก คว้าอันดับ 2 ของลีก โดยมีแต้มตามหลัง เรนเจอร์ส อยู่ถึง 25 คะแนน 

   ทว่าซีซั่นถัดมา (2021-22) โปสเตโคกลู พาทีมม้าลาย-เขียวขาวกลับมาคว้าแชมป์ สกอตติช พรีเมียร์ลีก พ่วงด้วย สกอตติช ลีก คัพ ได้อย่างยิ่งใหญ่ โดยมีขุนพลจาก เจลีก อิมพอร์ตเข้ามา 4 ราย

   คนแรกคือ เคียวโกะ ฟูรุฮาชิ แนวรุกของ วิสเซิ่ล โกเบ ที่ย้ายมาในเวลาไล่เลี่ยกับตัวกุนซือชาวออสเตรเลีย และก็สร้างความแตกต่างอย่างแท้จริงกับการซัดไป 20 ประตู ในทุกรายการ

   พอถึงปลายปี 2021 ซึ่งเป็นห้วงเวลาที่ เจลีก ปิดฤดูกาลพอดี - โปสเตโคกลู ไปดึงอีก 3 คน อย่าง โยซูเกะ อิเดกูชิ (กองกลาง, กัมบะ โอซาะกะ), เรโอะ ฮาตะเตะ (กองกลาง, คาวาซากิ ฟรอนตาเล่) และ ไดเซน มาเอดะ ศูนย์หน้า อดีตลูกน้องที่ มะรินอส มาเสริมทัพ

   แต่ละรายได้ลงสนามมาก-น้อยสลับกันไปในแต่ละเกม แต่โดยรวมแล้วทั้ง 4 แข้งญี่ปุ่น คือฟันเฟืองชิ้นสำคัญของการผงาดสู่การเป็น 'ดับเบิ้ลแชมป์' ของซีซั่น 2021-22

   โปสเตโคกลู กลายเป็นเฮดโค้ชชาวออสเตรเลีย คนแรกในประวัติศาสตร์ที่พาทีมในลีกใหญ่ของยุโรป คว้าแชมป์ได้สำเร็จ

   เมื่อมีใบเบิกทางอย่างถ้วยแชมป์การันตี - อดีตบิ๊กบอสของ มะรินอส จึงไปคว้าแข้งญี่ปุ่น มาเพิ่มอีก 2 ราย ในฤดูกาล 2022-23

   ยูกิ โคบายาชิ เซนเตอร์ฮาล์ฟจาก วิสเซิ่ล โกเบ และ โทโมะอากิ อิวาตะ แนวรับสารพัดประโยชน์ ซึ่งเป็นอดีตลูกทีมเก่าคือผู้มาใหม่ในรั้ว เซลติก พาร์ค พ่วงด้วยกองหน้าดาวรุ่งชาวเกาหลีใต้ อย่าง โอ เฮือน-กิว 

   ขณะที่กลุ่มเดิมก็ยังอยู่ครบ มีเพียงแค่ อิเดกูชิ ที่ถูกปล่อยให้ อาวิสป้า ฟูกูโอกะ ยืมตัว

   เท่ากับว่าซีซั่น 2022-23 เซลติก มีผู้เล่นสัญชาติญี่ปุ่น อยู่ในทีมถึง 5 คน บวกกับเกาหลีใต้อีก 1 ราย

   พวกเขาอาจจะตกรอบแรกในถ้วย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เพราะต้องอยู่ในกลุ่มที่โหดเอาการ เนื่องจากมีทั้ง เรอัล มาดริด, อาร์แบ ไลป์ซิก และ ชัคตาร์ โดเน็ตสค์ 

   ทว่าผลงานการต่อกรกับอดีตแชมป์ยุโรป 14 สมัย ที่ เซลติก พาร์ค นั้นทำชนะใจแฟนๆ มากมาย เพราะว่าม้าลายเขียว-ขาวเล่นแบบไม่เกรงกลัวศักดิ์ศรีของราชันชุดขาวเลยแม้แต่น้อย

   แน่นอนว่า 'เจปแนิส แกงสเตอร์' ก็มีส่วนร่วมในเกมดังกล่าวด้วยเช่นกัน

   พอกลับมาในลีก เซลติก ก็ยังรักษามาตรฐานไว้ได้กับการนำโด่งเป็นจ่าฝูง โดยมีแต้มหนีห่าง เรนเจอร์ส มากถึง 9 คะแนน กับโปรแกรมการแข่งขันอีก 7 นัด ที่เหลือของฤดูกาล

   ขณะที่ สกอตติช คัพ พวกเขาก็ยังคงอยู่ในเส้นทาง เพราะทะลุถึงรอบ 8 ทีม สุดท้ายตามเป้าหมาย

   แต่ที่ได้มาแล้วแน่ๆ คือ สกอตติช ลีก คัพ กับชัยชนะเหนือ เรนเจอร์ส 2-1 โดยได้ประตูจาก ฟูรุฮาชิ ทั้งสองลูก

   เท่ากับว่าเวลานี้ โปสเตโคกลู ได้ไปแล้ว 3 ถ้วย จากระยะเวลาเกือบๆ 2 ปี ที่เข้ามารับงานในรั้ว เซลติก พาร์ค โดยที่มีกลุ่มผู้เล่นจากญี่ปุ่น เป็นฟันเฟืองชิ้นใหญ่ของทีม

   แม้ว่าจะมีเพียง ฮาตาเตะ, มาเอดะ และ ฟูรุฮาชิ ที่ลงสนามอย่างสม่ำเสมอ แต่ก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่านักเตะเลือดซามูไรคือส่วนสำคัญของทีมม้าลายเขียว-ขาวเช่นกัน

   ความสำเร็จที่สกอตแลนด์ จึงมีความเกี่ยวโยงกับ เจลีก แบบชัดเจน

   เฮดโค้ชก็เป็นคนที่เคยพา มะรินอส คว้าแชมป์ เจลีก 2019 รวมไปถึงกลุ่มนักเตะอีก 6 คน ก็เป็นญี่ปุ่น แท้ๆ ทั้งนั้น

   จาก คาซูโยชิ มิอูระ ที่บุกเบิกตลาดยุโรป กับ เจนัว เมื่อปี 1994 

   ตามต่อด้วย ฮิเดโตชิ นากาตะ, ชุซูเกะ นากามูระ, เคซึเกะ ฮอนดะ, ชินจิ คากาวะ และคนอื่นๆ อีกมากมาย

   ทุกวันนี้มีนักเตะจากแดนปลาดิบค้าแข้งในยุโรป ไม่ต่ำกว่า 50 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นตัวหลักให้กับต้นสังกัดอีกต่างหาก

   เอาแค่ เซลติก ชุดปัจจุบันก็มีมากถึง 5 คน และก็ได้แชมป์ฟุตบอลถ้วยไปแล้ว 1 ใบ พร้อมกับกำลังเดินหน้าสร้างความสำเร็จที่สกอตแลนด์ อย่างต่อเนื่องในอนาคตอันใกล้

   จากผลงานของ โปสเตโคกลู ที่ฝากไว้ในยุโรป พวกกับผลงานของทัพ เดอะ บลู ซามูไร ที่ไฉไลใน เวิร์ล คัพ 2022 ที่ผ่านมา น่าจะทำให้ผู้เล่นญี่ปุ่น ได้เฉิดฉายในเวทีลูกหนังโลกมากขึ้นแน่ๆ

   จาก เจลีก ถึง เซลติก คือสิ่งสะท้อนให้เห็นว่ามาตรฐานฟุตบอลของเอเชีย กำลังรุดหน้าขึ้นอย่างรวดเร็วจริงๆ