โป้งเดียวจบ.. ลิเวอร์พูล

โป้งเดียวจบ.. ลิเวอร์พูล
ฟุตบอลมันก็แบบนี้ บางทีเล่นดีแต่แพ้ บางครั้งเล่นแย่.. กลับชนะ

สถิติยิง 2 ต่อ 27.. ยิงตรงกรอบ 1 ต่อ 10 ที่ ปาร์ก เดส์ แพร็งซ์ เมื่อคืนวันพุธก็เป็นอีกครั้งที่บอกกับเราอย่างนั้น

ลิเวอร์พูล มีเกมที่สู้ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ไม่ได้เลย หลังจากเกมครึ่งแรกผ่านไปเพียงไม่ถึง 10 นาที เกมก็ตกเป็นของเจ้าถิ่นทั้งหมดท่ามกลางเสียงเชียร์กดดันจากแฟนบอลเกือบห้าหมื่นชีวิต

ฤดูกาลนี้มีเพียงไม่กี่เกมที่เราเห็นสภาพของ ลิเวอร์พูล เป็นอย่างนี้ คือตั้งเกมไม่ได้ ต่อกันไม่ติด ถูกกดให้ต้องเป็นฝ่ายรับอยู่ข้างเดียว อาจจะหนักยิ่งกว่าครึ่งหลังของเกมบีบหัวใจวันที่พบกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส ด้วยซ้ำ

การเล่นร่วมกันระหว่างกองกลางทั้ง 3 คนของ เปแอสเช ไหลลื่น หนักแน่น เต็มไปด้วยพลัง ชั้นเชิง และการสร้างสรรค์ ฟาเบียน รูอิซ, ชูเอา เนเวส และ วิตินญ่า ควบคุมทุกอย่างเบ็ดเสร็จ แย่งบอล กำกับจังหวะ สร้างเกม ข่มแดนกลางหงส์แดงมิด

เป็นเกมที่ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์, ไรอัน กราเฟนแบร์ก และ โดมินิก โซโบซไล แพ้ในแดนกลาง ปะทะแพ้ จังหวะแพ้ บอลแรกบอลสองเป็นรอง การส่งผ่านบอลติด ๆ ขัด ๆ เสียบอลถี่ยิบทั้งถูกแย่งและส่งกันผิดพลาดไปเอง

บอลไปไม่ถึงแดนหน้าที่ก็เต็มไปด้วยการเสียบอลเช่นกัน ทั้ง หลุยส์ ดิอาซ, ดีโอโก้ โชต้า หรือกระทั่ง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เองก็ไม่เว้น

สถิติการผ่านบอลเข้าเป้าของลิเวอร์พูลต่ำจนน่าตกใจคือราว ๆ 75% หรือทุก ๆ การผ่านบอล 4 ครั้งจะพลาดเป้า 1 ครั้ง การรับส่งบอลน้อยกว่ากันเกินเท่าตัว

บอลสั้นไม่ทำงาน บอลยาวไม่ได้ผล การสร้างเกมมีปัญหา แดนหน้าเก็บบอลไม่ได้ ทำอันตรายใด ๆ ต่อเกมรับเจ้าถิ่นไม่ได้เลย

ยิ่งช่วงท้ายครึ่งแรกนักเตะลิเวอร์พูลถูกกดดันให้ต้องลงมาช่วยเกมรับหน้าเขตโทษทั้ง 11 คน เรื่องคาใครสักคนเอาไว้กลางสนามเพื่อเล่นโต้กลับลืมไปก่อน นาทีนั้นเอาตัวให้รอดจากสถานการณ์วิกฤติให้ได้ก่อน

เป็นเกมที่หนักหนาจริง ๆ และถ้าไม่ได้ความเหนียวหนึบสุดขีดของ อลีสซง เบ็คเกอร์ ช่วยเอาไว้ ทำนบก็พังไปแล้ว โดยเฉพาะจังหวะยิงของ ควารัตสเคเลีย ที่บอลแฉลบ อิบู โกนาเต้ เปลี่ยนทางพุ่งเรียดและแรง แต่ยังรีบล้มตัวปัดมือเดียวได้

เป็นปฏิกิริยาที่รวดเร็วเหลือเชื่อ ยังไม่รวมความนิ่งและเยือกเย็นในจังหวะป้องกันอื่น ๆ อีก จังหวะหลุดเดี่ยวของเดมเบเล่ จังหวะยิงของควารัตสเคเลีย หรือจังหวะสับไกของบาร์กโกล่า

VAR ยังเข้ามาช่วยลิเวอร์พูลไว้จากประตูสุดสวยของควารัตสเคเลียที่ดาวเตะจอร์เจียล้ำหน้าแค่น่องส่วนล่างนิดเดียว ขณะที่จังหวะใช้แขนดันบาร์กโกล่าของโกนาเต้พอจะพูดได้ว่าโชคดีที่เมื่อพิจารณาร่วมกับทีม VAR แล้ว ดาวิเด้ มาสซ่า ยืนยันคำตัดสินเดิมว่าไม่ฟาวล์

เมื่อไม่ฟาวล์ โกนาเต้ก็รอดพ้นจากการถูกไล่ออกจากกฎเกณฑ์ DOGSO - ขัดขวางการทำประตูของฝ่ายตรงข้ามอย่างชัดเจน

ทีมของ หลุยส์ เอนริเก้ แสดงให้เห็นว่าพวกเขาอยู่ในฟอร์มที่ยอดเยี่ยมและน่ากลัวอย่างไร มันสมกับผลงานชนะมาแล้ว 10 เกมติดต่อกันและชนะ 19 เสมอ 1 จาก 20 เกมหลังสุดทุกรายการ กระหน่ำโหดยิง 7 ประตูในเกมเดียว 2 ครั้ง ยิง 5 ประตูในนัดเดียว 1 ครั้ง และถล่ม 4 ประตูในเกมเดียวอีก 6 นัด

เท่ากับว่า เปแอสเช ยิงคู่แข่งไม่ว่าจะหน้าไหนรายการใด 4 ประตูขึ้นไปถึง 9 จาก 20 เกมหลังสุดทุกรายการหรือเกือบครึ่งหนึ่งที่ลงสนาม

เกมรุกของยักษ์ใหญ่แห่งปารีเซียงดูอันตรายจริง ๆ มีชีวิตชีวา ความรู้สึกกดดันจากการถูกข่มขู่คุกคามรุนแรงมาก

แต่ก็นั่นล่ะครับ ฟุตบอลมันก็แบบนี้ ทุกคนต่างเคยมีวันของตัวเอง และเช่นเดียวกัน ไม่เคยมีใครรอดพ้นจากวันแย่ ๆ หรือกระทั่งวันดวงแตก

ผมคิดว่า เปแอสเช ชุดนี้เป็นทีมที่ดี เล่นฟุตบอลละเอียด มีแท็กติกและลูกล่อลูกชนที่ดี เมื่อเห็นนักเตะลิเวอร์พูลถอยร่นลงไปตั้งรับต่ำก็หาช่องยิงไกลขู่บ้าง หรือช่วง 20 กว่านาทีสุดท้ายของครึ่งหลังเมื่อทีมเยือนเริ่มได้บอลมากขึ้น ครองบอลนานขึ้น และพาบอลขึ้นไปได้ระยะไกลกว่าเดิม นักเตะเจ้าถิ่นก็ดึงเกมให้ช้าลง ยึดการครองบอลไว้กับตัว อาจจะทำให้โอกาสยิงน้อยลงแต่ก็ตัดจังหวะเสี่ยงที่เริ่มเพิ่มขึ้นได้

แล้วลิเวอร์พูลก็ขอทีเดียว.. โป้งเดียวจอด ทอดกายหลับสนิท

เป็นอีกครั้งที่การเปลี่ยนตัวของ อาร์เน่อ ได้ผลลัพธ์ที่ดี ดาร์วิน นูนเญซ ตัวสำรองคนแรกพักบอลที่วางยาวมาจาก อลีสซง เบียดปะทะชิงเหลี่ยมใช้ความแข็งแกร่งครองบอลได้ก่อนจะไหลบอลแบบถวายพานให้ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ ตัวสำรองคนสุดท้ายที่เพิ่งลงสนามมา 47 วินาทีวิ่งเข้ายิงแบบไม่จับปลิ้นผ่านมือ จานลุยจิ ดอนนารุมม่า เข้าไป

เป็นการส่งบอลที่สมบูรณ์แบบ น้ำหนักดีงาม ทิศทางเป๊ะ ไหลบอลเข้าเท้าข้างถนัดของเพื่อนด้วยน้ำหนักที่ไม่ต้องเสียเวลาแต่ง วิ่งเข้ามาถึงก็ตะบันได้เลย

เด็ดขาดและเพียงพอต่อการลงโทษเปแอสเช ที่ทั้งไม่เด็ดขาดเอง และยังไปเจอร่างทองของ อลีสซง เบ็คเกอร์ อย่างผิดจังหวะ

ในการยิงครั้งที่สองของเกม และครั้งแรกที่ซัดตรงกรอบ.. เพียงแค่นั้นก็เพียงพอสำหรับชัยชนะของลิเวอร์พูล ถือความได้เปรียบเข้าสู่เกมที่สองที่แอนฟิลด์สัปดาห์หน้า

สถิติยิง 2 ต่อ 27 ครั้ง.. ค่าคำนวนประตูที่ควรได้ 0.27 ประตู ต่อ 1.88 ประตู และรูปเกมที่เป็นรองสุดกู่ ยังคงบอกกับเราอย่างนั้น

มันบอกกับเรามาตลอด นับตั้งแต่วันแรกที่โลกได้รู้จักกับมัน

คุณก็เคย ผมก็เคย พวกเราทุกคนต่างก็เคยลิ้มรสมัน.. ความรู้สึกนี้

อาจไม่เสมอไปหรอกนะครับ แต่ฟุตบอลมันก็เป็นแบบนี้จริง ๆ

-ตังกุย-


ที่มาของภาพ : gettyimages
BY : ตังกุย
ณัฐพล ดำรงโรจน์วัฒนา
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport