หนักเบาแค่ไหน!ลุ้นจับสลาก 4 ยอดกุมารแห่งพรีเมียร์ลีก ใน แชมเปี้ยนส์ ลีก

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ , เชลซี และ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ สามารถจบรอบแบ่งกลุ่มในฐานะแชมป์กลุ่ม ขณะที่ ลิเวอร์พูล ทำได้เพียงอันดับ 2 เท่านั้น แต่ "หงส์แดง" เป็นรองแชมป์กลุ่มที่สามารถเก็บได้ถึง 15 คะแนนมีแค่ บาเยิร์น มิวนิค ทีมเดียวเท่านั้นมีมีคะแนนมากกว่าพวกเขา

สำหรับการจับสลากในรอบน็อกเอาต์ แน่นอนว่าสโมสรที่เคยเจอกันในรอบแบ่งกลุ่มจะหมดสิทธิ์ดวลกันในรอบ 16 ทีมสุดท้าย รวมทั้งทีมจากประเทศเดียวกันก็ไม่สามารถเจอกันได้ในรอบนี้ 

งานนี้บรรดาคอลูกหนังที่หลงใหลเกมฟุตบอลในเมืองผู้ดี คงลุ้นระทึกผลการจับสลากที่จะมีขึ้นในวันจันทร์ที่ 7 พฤศจิกายนนี้ บอกเลยว่าทั้ง 4 ทีมมีโอกาสที่จะได้เจอของแข็งสุดโหด และของโปรดสุดอร่อย 

ลิเวอร์พูล 

แน่นอนว่าการที่พวกเขาจบรองแชมป์กลุ่ม เอ กอปรกับกฎที่ห้ามดวลกับทีมในรอบแบ่งกลุ่ม และชาติเดียวกัน ส่งผลให้ตัวเลือกที่ "เดอะ เร้ดส์" จะต้องปะทะด้วยมีเพียงแค่ 4 ทีมเท่านั้นได้แก่ เอฟซี ปอร์โต้, บาเยิร์น มิวนิค, เบนฟิก้า และ เรอัล มาดริด

สาวก "เดอะ ค็อป" คงอยากเห็นทีมรักจับสลากพบกับ 2 ทีมดังจากประเทศโปรตุเกส เพราะพวกเขามักจะทำผลงานได้ดีเวลาที่เจอกับทีมในลีกฝอยทอง แต่ในซีซั่นนี้ผลงานของ ยอดทีมแห่งถิ่นแอนฟิลด์ ออกแนวลุ่มๆ ดอนๆ ทำให้ตอนนี้หากมาเจอกันอีก บอกเลยว่าไม่หมูอย่างที่คิดชัวร์

ขณะเดียวกันถ้าดวงแตกสุดๆ ต้องปะทะกับ บาเยิร์น ขอบอกเลยว่าเหนื่อยรากเลือดแน่นอน เพราะ "เสือใต้" อยู่ในกลุ่ม "กรุ๊ป ออฟ เดธ" แต่จัดการปราบคู่แข่งราบคาบโดยชนะรวดทุกเกม แต่หากสวรรค์ลิขิตอาจได้ดวล เรอัล มาดริด คู่อริเก่าที่เพิ่งทำช้ำใจในเกมนัดชิง "บิ๊กเอียร์" เมื่อซีซั่นที่ผ่านมา จะได้เป็นการแก้แค้นซะเลย 

แมนเชสเตอร์ ซิตี้

ทีมของกุนซือเป๊ป กวาร์ดิโอล่า โชว์ฟอร์มได้ร้อนแรงทั้งในเกมลีกสูงสุดเมืองผู้ดี และแชมเปี้ยนส์ ลีก แน่นอนว่าพวกเขาเป็นทีมที่แข็งแกร่งซึ่งคู่แข่งไม่อยากต่อกรด้วยในช่วงเวลานี้ 

ผลงานในถ้วยใบโตยุโรปรอบแบ่งกลุ่มของ "เรือใบสีฟ้า" ถือว่าไม่ธรรมดาเพราะพวกเขาไม่แพ้ทีมใดเลย และยึดตำแหน่งแชมป์กลุ่ม โดยเก็บได้ถึง 14 คะแนน อย่างไรก็ตามการเป็นแชมป์กลุ่มก็ใช่ว่าจะดีเสมอไป !

คู่แข่งที่ แมนฯ ซิตี้ มีสิทธิ์ได้เจอได้แก่ คลับ บรูช, ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต, อินเตอร์ มิลาน, ปารีส แซงต์-แชร์กแมง, แอร์เบ ไลป์ซิก และ เอซี มิลาน เป็นไงละใครบอกว่าได้แชมป์กลุ่มจะทำให้เจอคู่แข่งที่อ่อนกว่า  

ถ้าหากสาวก "เรือใบสีฟ้า" เลือกได้ฟันธงแบบไม่ต้องคิดว่าพวกเขาคงอยากเห็นทีมจับสลากพบ คลับ บรูช หรือ แฟร้งค์เฟิร์ต แต่ถ้าชีวิตโดนทำร้ายงานนี้คงได้เหนื่อยรากเลือดในการปะทะกับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ซึ่งเป็นทีมเต็มไปด้วยสตาร์ดังทั้งนั้น 

 เชลซี

"สิงโตน้ำเงินคราม" เริ่มต้นอย่างกระท่อนกระแท่นด้วยการแพ้ ดินาโม ซาเกร็บ จนเป็นเหตุให้ โธมัส ทูเคิ่ล โดนปลด หลังจากนั้นพวกเขาแต่งตั้ง แกรม พ็อตเตอร์ เข้ามาคุมทีมก็เปิดฉากด้วยการเสมอ ซัลซ์บวร์ก ก่อนที่จะเร่งเครื่องเข้าป้ายในฐานะแชมป์กลุ่ม อี

แม้ว่า เชลซี ในยุค พ็อตเตอร์ อาจจะยังเล่นไม่ปะติดปะต่อมากนัก แต่ด้วยขุมกำลังที่มีอยู่ในเวลานี้ พวกเขาถือว่าเป็นสโมสรที่ยังคงอันตราย และสามารถที่จะปราบได้ทุกทีมหากวันไหนเล่นได้เข้าฝัก

สำหรับคู่แข่งที่ "สิงห์บลูส์" มีโอกาสจะต้องปะทะในรอบน็อกเอาต์ได้แก่ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์, คลับ บรูช, ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต, อินเตอร์ มิลาน, ปารีส แซงต์-แชร์กแมง และ แอร์เบ ไลป์ซิก

ด้วยสถานการณ์แบบนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับ แมนฯ ซิตี้ เพราะหากทีมเลือกได้ก็คงอยากเจอกับ คลับ บรูช หรือ แฟร้งค์เฟิร์ต แต่ถ้าโชคร้ายจริงๆ ก็คือจับไปพบกับ "เปแอสเช" หรือถ้าโชคร้ายเบาๆ ก็ดวล อินเตอร์ มิลาน 

ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์

สเปอร์ส เป็นทีมที่มีบารมีน้อยที่สุดจากตัวแทนของอังกฤษทั้งหมด เพราะดีกรีที่สุดยอดของเขาในรายการนี้ก็คือการเข้ารอบชิงชนะเลิศเมื่อปี 2019 แต่ต้องจบด้วยน้ำตานองหน้าเพราะแพ้ยอดทีมอย่าง ลิเวอร์พูล !

ผลงานในรอบแบ่งกลุ่ม ก็ต้องบอกว่าไม่ได้สวยหรูอะไรมากนัก เพราะต้องอาศัยเกมสุดท้ายในการลุ้นเข้ารอบน็อกเอาต์ และบทสรุปก็คือพวกเขาสามารถคว้าแชมป์กลุ่ม ดี แบบหวุดหวิดเสียวท้องน้อย

ทีมของกุนซืออันโตนิโอ คอนเต้ ต้องเจอกับคู่แข่งอย่าง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์, คลับ บรูช, อินเตอร์ มิลาน, ปารีส แซงต์-แชร์กแมง, แอร์เบ ไลป์ซิก และ "ปีศาจแดงดำ" เอซี มิลาน 

จากสถานการณ์แบบนี้ สเปอร์ส คงอยากชี้นิ้วไปที่ คลับ บรูช ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย หรือเอาแบบไม่หนักมากก็ต้องเป็น ไลป์ซิก แต่ถ้าโชคชะตาฟ้าลิขิตให้ชีวิตต้องดับแดดิ้นมีสิทธิ์ได้เจอกับ แซงต์-แชร์กแมง, อินเตอร์ และ เอซี มิลาน 

ทอมเม้ง