ถือเป็นผลการแข่งขันที่น่าผิดหวังสำหรับ อาร์เซน่อล หลังพวกเขาต้องออกจาก เอสตาดิโอ โด ดราเกา พร้อมกับการแพ้ เอฟซี ปอร์โต้ 0-1 ในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก เมื่อวันพุธที่ 21 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
แน่นอนว่าผลต่างแค่ลูกเดียวทำให้ภารกิจการคัมแบ็กในนัดสองมันไม่ถึงขั้นยากจนเข้าขั้นระดับ "เป็นไปไม่ได้" แต่แฟนบอล อาร์เซน่อล หลายคนคาดหวังว่าทีมรักของพวกเขาจะทำผลงานได้ดีกว่านี้กับการเล่นนัดแรก และความพ่ายแพ้นัดล่าสุดก็ทำให้เกิดเกร็ดแย่ๆ เกี่ยวกับ อาร์เซน่อล หลายด้านด้วยกัน
- ประตูนาทีบาป
การมาโดนทีเด็ดของ เวนแดร์ซอน จาเลโน่ เล่นงานในนาทีที่ 4 ของการทดเวลาบาดเจ็บในครึ่งหลังทำให้ อาร์เซน่อล แทบไม่มีโอกาสแก้ตัวเลยจนสุดท้ายพวกเขาก็ต้องแพ้ และหากนับเฉพาะช่วงที่เริ่มมีการบันทึกสถิติต่างๆ ในรายการ แชมเปี้ยนส์ ลีก นับตั้งแต่ฤดูกาล 2003-04 เป็นต้นมาแล้วนั้น นี่ก็ถือเป็นครั้งแรกเลยที่ อาร์เซน่อล เสียประตูที่กลายเป็นประตูชัยของคู่แข่งในนาทีที่ 90 ขึ้นไปกับเกมระดับ แชมเปี้ยนส์ ลีก
- เกมรุกฝืดแบบหาได้ยาก
นอกจากจะชนะในลีกมา 5 เกมติดต่อกันแล้วนั้น ในช่วงเวลาดังกล่าว อาร์เซน่อล ยังทำประตูได้รวมกัน 21 ลูกด้วย ทำให้มันเป็นเรื่องธรรมดาที่ก่อนเกมกับ ปอร์โต้ หลายคนจะคิดว่าแนวรุกอันโหดเหี้ยมของ อาร์เตต้า จะเจาะตาข่ายเจ้าถิ่นได้
อย่างไรก็ตาม มันกลับกลายเป็นว่านัดนี้เกมรุกของ อาร์เซน่อล ขาดประสิทธิภาพที่ดีจนถึงขนาดที่ไม่มีจังหวะยิงตรงกรอบแม้แต่ครั้งเดียว ซึ่งนับตั้งแต่ที่เริ่มมีการบันทึกสถิติในรายการ แชมเปี้ยนส์ ลีก ตั้งแต่ซีซั่น 2003-04 เป็นต้นมา นี่นับเป็นเพียงครั้งที่ 2 เท่านั้นที่ อาร์เซน่อล ไม่มีจังหวะยิงตรงกรอบเลยกับเกมระดับ แชมเปี้ยนส์ ลีก โดยหนแรกเกิดขึ้นในรอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดสอง ที่พวกเขาแพ้ บาร์เซโลน่า 1-3 เมื่อช่วงเดือนมีนาคม ปี 2011 โดยถึงแม้เกมนั้น อาร์เซน่อล จะได้ประตู แต่มันมาจากการทำเข้าประตูตัวเองของ เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ ไม่ได้มาจากการยิงของนักเตะในทีม
นอกจากนี้ อาร์เซน่อล ยังทำประตูในเกมระดับ แชมเปี้ยนส์ ลีก ไม่ได้เป็นหนแรกนับตั้งแต่เมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2016 ด้วย โดยวันนั้นพวกเขาแพ้ บาร์เซโลน่า 0-2 โดยที่จริงก่อนถึงเกมกับ ปอร์โต้ ทีมดังของกรุงลอนดอนทำประตูในถ้วยบิ๊กเอียร์ได้ 15 นัดติดต่อกัน และคิดเป็นจำนวนรวมถึง 37 ลูกเลยทีเดียว
- คำสาปรอบน็อกเอาท์
แม้ว่าจะเป็นทีมใหญ่ทีมหนึ่ง แต่เชื่อหรือไม่ว่าความปราชัยในครั้งนี้ทำให้ อาร์เซน่อล แพ้ในรอบน็อกเอาท์ของศึก แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นจำนวน 5 นัดติดต่อกันเข้าไปแล้ว ซึ่งพวกเขาก็เป็นทีมที่ 5 ที่สร้างผลงานอันย่ำแย่แบบนั้นขึ้นมา ต่อจาก อาแอส โรม่า, ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น, เซลติก และ เรอัล มาดริด
ยิ่งไปกว่านั้น นี่ก็นับเป็นครั้งที่ 7 ติดต่อกันที่ อาร์เซน่อล แพ้ในนัดแรกประจำรอบ 16 ทีมสุดท้ายของศึก แชมเปี้ยนส์ ลีก โดย 6 หนก่อนหน้านี้ประกอบด้วยการแพ้ เอซี มิลาน 0-4 (ฤดูกาล 2011-12), พ่าย บาเยิร์น มิวนิค 1-3 (ฤดูกาล 2012-13), ปราชัยต่อ บาเยิร์น 0-2 (ฤดูกาล 2013-14), แพ้ อาแอส โมนาโก 1-3 (ฤดูกาล 2014-15), เสียท่าให้ บาร์เซโลน่า 0-2 (ฤดูกาล 2015-16) และโดน บาเยิร์น อัดยับ 1-5 (ฤดูกาล 2016-17)
ขณะเดียวกัน นี่ก็เป็นอีกครั้งที่ อาร์เซน่อล แพ้ให้กับ ปอร์โต้ ในการเล่นนัดแรกของรอบน็อกเอาท์ประจำรายการ แชมเปี้ยนส์ ลีก หลังจากคู่นี้เคยเจอกันในรอบ 16 ทีมสุดท้ายของฤดูกาล 2009-10 ซึ่งหนนั้น ปอร์โต้ เปิดบ้านเอาชนะ อาร์เซน่อล ไปก่อน 2-1 แต่ในนัดสอง อาร์เซน่อล ไล่ถล่มทีมจากโปรตุเกสไป 5-0
- เด็กเกร็ดบอล -