แมนฯ ยูไนเต็ด หนีไม่พ้นตกรอบแบ่งกลุ่มถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก ตามความคาดหมายเมื่อเปิดบ้านพ่ายต่อ บาเยิร์น มิวนิค ด้วยสกอร์ 1-0 จากการลงบู๊เกมหูใหญ่รอบแบ่งกลุ่มนัดสุดท้ายของกลุ่มเอที่สนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด เมื่อวันอังคารที่ 12 ธ.ค.
นอกจากจะเอาชนะ เสือใต้ ไม่สำเร็จเนื่องจากเสียประตูให้กับ คิงส์ลีย์ โกมัน ในนาทีที่ 71 แล้ว เกมอีกคู่ในกลุ่มเดียวกันก็ไม่เป็นใจให้กับ อสูรแดง ด้วยเนื่องจาก โคเปนเฮเก้น เฝ้าบ้านสยบ กาลาตาซาราย ได้ 1-0 ส่งผลให้ทีมจากเดนมาร์คผ่านเข้ารอบเป็นอันดับสองของกลุ่ม ขณะที่ ผีแดง รั้งอันดับบ๊วยไม่ได้สิทธิ์แม้กระทั่งลดเกรดลงไปเล่นถ้วย ยูโรปาลีก รอบเพลย์ออฟ
1. วาราน คืนตัวจริงผีแดง
เอริค เทน ฮาก กุนซือ แมนฯ ยูไนเต็ด วางหมากให้ ราฟาแอล วาราน เซ็นเตอร์ฮาล์ฟเลือดน้ำหอมกลับมาลงสนามเป็นตัวจริงนัดแรกในรอบเกินกว่าหนึ่งเดือนนับตั้งแต่เกมเปิดบ้านชนะ โคเปนเฮเก้น 1-0 ในรอบแบ่งกลุ่มถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก วันที่ 24 ต.ค.
รวมแล้ว ผีแดง ปรับทัพสองตำแหน่งจากเกมลีกนัดแพ้ บอร์นมัธ คารัง 3-0 เมื่อวันเสาร์โดยนอกจาก วาราน ที่ได้เสียบแทน เซร์คิโอ เรกีลอน แล้ว ราสมุส ฮอยลุนด์ ก็ได้เสียบแทน อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ที่ป่วยเช่นเดียวกับ มาร์คัส แรชฟอร์ด และไม่มีเอี่ยวในเกมนี้ด้วยกันทั้งคู่
ต่อการดร็อป เรกีลอน ไปนั่งข้างสนาม ลุค ชอว์ จึงได้สวมบทแบ็คซ้ายตามถนัดเนื่องจาก วาราน ได้รับบทเป็นคู่ขาของ แฮร์รี่ แม็กไกวร์
2. เสือใต้ เต็มถังแม้ลอยลำ
บาเยิร์น มิวนิค ของกุนซือ โธมัส ทูเคิ่ล ยังเลือกส่งทีมชุดที่ดีที่สุดของสโมสรลงเล่นแม้พวกเขาจะผ่านเข้ารอบ 16 ทีมในฐานะแชมป์กลุ่มแล้ว
หลังออกไปแพ้ แฟร้งค์เฟิร์ต ยับเยิน 5-1 ในเกม บุนเดสลีกา เมื่อวันเสาร์ เสือใต้ เปลี่ยนโผตัวจริงแค่รายเดียวโดย จามาล มูเซียล่า ได้ลงเล่นก่อนหน้า เอริค มักซิม ชูโป โมติง
ด้วยเหตุนี้ เท่ากับว่าสตาร์วัย 20 ปีได้ลงสนามเป็นตัวจริงเกมแรกนับตั้งแต่เจ็บกล้ามเนื้อต้นขาด้านหลังจากแมตช์ต่อกรกับ กาลาตาซาราย ซึ่งทำให้เขาร้างสนามไปร่วมเดือน
ด้าน มานูเอล นอยเออร์ นายทวารจอมเก๋าลงสนามเกมนี้เป็นนัดที่ 700 ในอาชีพพ่อค้าแข้งของเขากับทุกสโมสร
3.ผีดวงแตก แม็กไกวร์ เดี้ยง
จากที่เคยหล่นไปเป็นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟตัวเลือกสุดท้าย และถูกปักป้ายขายทิ้ง แม็กไกวร์ แสดงความเป็นมืออาชีพที่น่ายกย่องกระทั่งผงาดกลับมายึดตำแหน่ง 11 คนแรกของ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้อย่างถาวรอีกครั้ง และที่สำคัญเจ้าตัวไม่ได้ก่อความผิดพลาดแบบโฉ่งฉ่างเหมือนเดิมอีกจึงชัดเจนว่าอดีตกัปตัน ปีศาจแดง กลับมาเป็นกำลังสำคัญในแผงหลังของทีมอย่างเต็มตัวแล้ว
สำหรับเกมบู๊กับ บาเยิร์น แม็กไกวร์ ยังเล่นได้ตามมาตรฐานและช่วยให้ทีมรักษาสกอร์เสมอ 0-0 กับ เสือใต้ ได้กระทั่งเหลืออีกห้านาทีของครึ่งแรก ปราการหลังหมายเลขหนึ่งของทีมชาติ อังกฤษ เจ็บขาหนีบ และเล่นต่อไม่ไหว ต้องเดินออกไปให้ จอนนี่ อีแวนส์ ลงสนามแทน
จากปัญหาดังกล่าว ปฏิเสธไม่ได้ว่าส่งผลเสียต่อ แมนฯ ยูไนเต็ด โดยไม่อาจหลีกเลี่ยงได้เนื่องจาก แม็กไกวร์ กำลังอยู่ในช่วงที่เล่นได้อย่างโดดเด่นถึงขนาดคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของ พรีเมียร์ลีก ประจำเดือนพ.ย. และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผีแดง กำลังจะต้องทำศึกหนักในช่วงโปรแกรมชุกโดยเริ่มจากเกมแดงเดือดออกไปเยือน ลิเวอร์พูล จ่าฝูง พรีเมียร์ลีก วันอาทิตย์นี้ซึ่งดูแล้วดาวเตะวัย 30 ปีไม่น่าจะหายเจ็บทันเวลาอันส่งผลให้ หงส์แดง รอลุ้นเก็บสามแต้มเหนือทีมคู่แค้นอีกวาระอย่างที่พวกเขาทำได้เมื่อซีซั่นก่อนด้วยการกำชัยไปแบบมโหฬาร 7-0
4. สถิติชี้ผีแดงไม่สมควรชนะ
หลังจบ 90 นาที เป็นอันว่า แมนฯ ยูไนเต็ด พ่าย บาเยิร์น ด้วยสกอร์ 1-0 และลางบอกเหตุมันออกตั้งแต่ก่อนออกสตาร์ตครึ่งหลังแล้วเนื่องจาก ลุค ชอว์ กำลังหลักในแผงหลังของทีมเจ้าบ้านเดี้ยงไปอีกคนจนต้องเปลี่ยนให้ อารอน วาน บิสซาก้า ลงสนาม
จนในที่สุด ขุนพล ผีแดง น่าจะรู้ข่าวจากอีกสนามว่ามีสกอร์เกิดขึ้นจนได้เนื่องจาก โคเปนเฮเก้น ออกนำซึ่งทำให้งานของทีมเจ้าบ้านที่หนักหนาอยู่แล้วทวีความยากเย็นประดุจงมเข็มในมหาสมุทรก็ไม่ปาน และมันส่งสัญญาณชี้ให้เห็นว่าพวกเขาเริ่มถอดใจจนกระทั่งเสียประตูให้ทีมแชมป์ลีกเมืองไส้กรอกจนได้
นับจากจุดนั้น สถานการณ์ของ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็เลวร้ายลงตามลำดับเนื่องจากไม่มีวี่แววว่าจะบุกไปสร้างปัญหาให้กับทีมเยือนด้วยการซัดประตูคืนได้เลยดังจะเห็นว่าทีมของ เทน ฮาก มีไอเดียในการทำเกมรุกที่เลวร้ายอย่างยิ่งกระทั่งไม่อาจหาช่องทางถ่ายเทบอลทะลุเข้าไปในแดนสุดท้ายของฝ่ายตรงข้ามได้เลยจนทำให้ถุงมือของ นอยเออร์ แทบไม่เปื้อนเนื่องจากเขาได้ออกแรงเซฟบอลเข้ากรอบแค่หนเดียวเท่านั้นจากจังหวะกระทุ้งระยะ 25 หลาของ ชอว์ ซึ่งมือกาวด๊อยทช์ชกพ้นกรอบได้
แน่นอนว่าแม้ บาเยิร์น จะเฉือนชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ด้วยสกอร์เดียว แต่ในทางกลับกัน ทีมดังแห่ง โอลด์ แทรฟฟอร์ด ก็ไม่คู่ควรที่จะมีชัยเหนืออาคันตุกะเพราะในเมื่อพวกเขาจำเป็นต้องคว้าสามแต้มในเกมชี้ชะตาแบบนี้ แต่หลังจบ 90 นาที สถิติฟ้องว่า เร้ด เดวิลส์ ซัดบอลเข้ากรอบแค่หนเดียวจากโอกาส 5 ครั้ง ขณะที่ บาเยิร์น ได้ง้างยิง 10 ครั้ง และเข้ากรอบ 3 ครั้ง อีกทั้งครองบอลเหนือกว่าเจ้าบ้ายด้วยในสัดส่วน 59:41%
จากความพ่ายแพ้ในเกมนี้ ทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด เสียประตูในถ้วยหูใหญ่ซีซั่นนี้มากถึง 15 ประตูซึ่งเป็นสถิติที่เลวร้ายที่สุดในบรรดาทีมจาก พรีเมียร์ลีก ที่ลงเล่นเกมรอบแบ่งกลุ่มถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก ซึ่งเป็นหลักฐานชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนอีกชิ้นว่าพวกเขาสมควรตกรอบรายการนี้หลังลงบู๊ 6 นัด แต่ชนะแค่เกมเดียว และแพ้มากถึง 4 เกมซึ่งแม้พวกเขาจะคลำเป้าได้ 12 ประตู แต่มีผลต่างติดลบ 3 ประตูเท่ากับผลงานใน พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้พอดี (เล่น 16 นัดยิงได้ 18 ประตูเสีย 21 ประตู) ซึ่งหากขืนยังเป็นอย่างนี้ต่อไปก็เป็นเรื่องยากที่พวกเขาจะเอาชนะทีมคู่แข่งได้แบบสะดวกโยธินไม่ว่าจะต้องดวลกับทีมไหน
ขณะเดียวกัน แมนฯ ยูไนเต็ด กระเด็นตกรอบแบ่งกลุ่มถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก เป็นครั้งที่หกแล้ว (1994-95, 2005-06, 2011-12, 2015-16 และ 2020-21) และเป็นครั้งที่สองที่พวกเขารั้งอันดับบ๊วยโดยก่อนหน้านี้เกิดขึ้นในซีซั่น 2005-06
5. รอเก็บศพเกมแดงเดือดต่อ
จบเกมบู๊กับ บาเยิร์น เชื่อขนมกินได้เลยว่า แมนฯ ยูไนเต็ด น่าจะไร้ แม็กไกวร์ กับ ชอว์ สองกองหลังบุกไปเยือน ลิเวอร์พูล ในวันอาทิตย์นี้ แล้วไหน บรูโน่ แฟร์นันด์ส จะทำให้ตัวเองโดนแบนในเกมแดงเดือดอีกด้วย
นึกสภาพทีมที่พิกลพิการของ แมนฯ ยูไนเต็ด แล้ว มันทำให้ยากที่จะจินตนาการซะจริงว่าพวกเขาจะเก็บได้อย่างน้อยหนึ่งแต้มออกจาก แอนฟิลด์ ในเมื่อได้เล่นในบ้านของตัวเองแท้ๆ พวกเขายังไม่สามารถคว้าผลลัพธ์ได้เลย
ถึงตอนนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด เพิ่มผลงานแพ้คารังสองนัดติดต่อกันแล้ว และเมื่อรวมการลงบู๊สี่เกมหลัง พวกเขาชนะ เชลซี ในบ้าน 2-1 นัดเดียวเท่านั้นของเกม พรีเมียร์ลีก
นิวคาสเซิ่ล 1- แมนฯ ยูไนเต็ด 0
แมนฯ ยูไนเต็ด 2- เชลซี 1
แมนฯ ยูไนเต็ด 0 - บอร์นมัธ 3
แมนฯ ยูไนเต็ด 0- บาเยิร์น 1
ลิเวอร์พูล ?- แมนฯ ยูไนเต็ด ?
สำหรับเครื่องหมายคำถาม แม้เกมลูกหนังจะยากแก่การคาดเดาสกอร์ แต่ฟอร์มของ แมนฯ ยูไนเต็ด ชั่วโมงนี้แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเขาจะมีชัยเหนือ หงส์แดง แถมค่อนข้างแน่ด้วยซ้ำไปว่าทีมของ เทน ฮาก จะสานต่อสถิติชนะรวดใน แอนฟิลด์ ให้กับ เครื่องจักรสีแดง ซะมากกว่า