เสียหายหนักขนาดไหน? 7 สิ่งที่จะเกิดขึ้นหาก แมนยู ตกรอบถ้วย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

เสียหายหนักขนาดไหน? 7 สิ่งที่จะเกิดขึ้นหาก แมนยู ตกรอบถ้วย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
เอริค เทน ฮาก กุนซือทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ได้เครียดหนักที่สุดในชีวิตการคุมทีมลูกหนังอีกหนอย่างแน่นอนเมื่อเขามีภารกิจสำคัญต้องพาทีม ปีศาจแดง เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ บาเยิร์น มิวนิค ในการโม่เกือกถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่มนัดสุดท้ายวันอังคารนี้ (12 ธ.ค.)

อย่างที่รู้กันว่า ผีแดง ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องชนะ เสือใต้ แถมต้องลุ้นให้ โคเปนเฮเก้น เสมอกับ กาลาตาซาราย ด้วยเพื่อที่พวกเขาจะทะยานจากอันดับบ๊วยเข้ารอบ 16 ทีมตามหลังแชมป์ บุนเดสลีกา ในฐานะทีมอันดับสองของกลุ่มเอ

ฉะนั้นแล้ว แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องประสบความสำเร็จพร้อมๆกันถึงสองเงื่อนไขซึ่งมองดูแล้วแทบเป็นไปไม่ได้เลย และส่งผลให้พวกเขามีโอกาสตกรอบแบ่งกลุ่มถ้วยหูใหญ่ซะมากกว่า

ในกรณีที่ เทน ฮาก ไม่อาจพาทีมโกงความตายได้ แมนฯ ยูไนเต็ด จะต้องประสบกับชะตากรรมที่เลวร้ายมากถึง 7 ข้อดังนี้

1. เงินรางวัลที่หลุดลอย

แมนฯ ยูไนเต็ด จะพลาดเงินก้อนแรก 9.6 ล้านยูโรหากพวกเขาไม่อาจกรุยทางเข้าไปเล่นในรอบ 16 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ รวมถึง 10.6 ล้านยูโรสำหรับการผ่านเข้าสู่รอบแปดทีม ,12.5 ล้านยูโรสำหรับการเข้าสู่รอบตัดเชือก ,15.5 ล้านยูโรสำหรับการได้ตำแหน่งรองแชมป์ และ 20 ล้านยูโรสำหรับการคว้าแชมป์ได้สำเร็จ

รวมเบ็ดเสร็จมันเป็นเงิน 52.7 ล้านยูโรแม้แน่นอนว่าทีม ปีศาจแดง ไม่น่าจะแข็งแกร่งมากพอถึงการครองความเป็นเจ้ายุโรปได้ก็ตามโดยเมื่อปี 2014 และ 2019 พวกเขาเคยสร้างผลงานที่ดีที่สุดด้วยการผ่านเข้าสู่รอบแปดทีมสุดท้าย

2. เกมหายรายได้หด

เป็นเรื่องธรรมดาที่ แมนฯ ยูไนเต็ด จะสูญรายได้ก้อนโตหากพวกเขาไม่อาจหลุดเข้าสู่รอบน็อกเอาต์ของศึก แชมเปี้ยนส์ลีก ได้ และต้องโกยรายได้จากเกม พรีเมียร์ลีก เป็นหลักแทนโดยมีการเผยว่าพวกเขามีรายได้เฉลี่ยเกมละ 3.96 ล้านปอนด์ในปี 2022 มากกว่าทุกทีมร่วมลีก ขณะที่ซีซั่นนี้ตัวเลขพุ่งขึ้นเป็น 4.2 ล้านปอนด์เนื่องจากสโมสรขึ้นราคาบัตรเข้าสนามอีก 5%

ในทางกลับกัน หาก แมนฯ ยูไนเต็ด ทะลุเข้ารอบ 16 ทีมไปปะทะกับทีมยักษ์อย่าง เรอัล มาดริด หรือว่า บาร์เซโลน่า พวกเขาก็จะมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างต่ำเกมละ 12.6 ล้านปอนด์

อย่างไรก็ดี ผีแดง ยังมีโอกาสโกยรายได้เข้าสโมสรแม้ว่าจะเป็นตัวเงินที่ลดลงไปในกรณีที่พวกเขาได้สิทธิ์ลดเกรดลงไปเล่นในถ้วย ยูโรปาลีก รอบเพลย์ออฟซึ่งแน่นอนว่าความต้องการบัตรของแฟนบอลจะไม่มากมายเท่ากับการได้เล่นในถ้วยหูใหญ่นอกซะจากว่าพวกเขาจะได้จ๊ะเอ๋กับคู่ต่อกรอย่าง ลิเวอร์พูล ในรอบลึกๆ

3.รายได้ค่าลิขสิทธิ์ทีวีก็ลด

แมนฯ ยูไนเต็ด จะสูญเงินจากค่าลิขสิทธิ์ทีวีเช่นกันหากพวกเขาด่วนตกรอบแบ่งกลุ่มฟุตบอลถ้วยบิ๊กเอียร์จากที่ ยูฟ่า เสนอเงินโดยรวม 300 ล้านยูโรให้กับแต่ละสมาคมฟุตบอลนำไปจัดสรรปันส่วน

ต่อประเด็นนี้ มูลค่าการถ่ายทอดสดในอังกฤษถือเป็นดีลที่มีตัวเงินสูงที่สุด ฉะนั้นแล้วทีมใน พรีเมียร์ลีก ย่อมต้องได้ส่วนแบ่งมากกว่าชาติอื่นๆโดยถึงขณะนี้ ปีศาจแดง ฟาดเงินก้อนนี้ไปครึ่งหนึ่งแล้ว ขณะที่อีกครึ่งหนึ่งจะถูกแบ่งจ่ายภายใต้เงื่อนไขที่ว่าแต่ละสโมสรได้ลงเล่นเป็นจำนวนเกมที่มากแค่ไหน

อย่างไรก็ดี หากทีมของ เทน ฮาก กระเด็นตกรอบแบ่งกลุ่มถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก พวกเขาจะได้ส่วนแบ่งเค้กชิ้นนี้ก้อนเล็กๆเท่านั้นในเมื่อพวกเขาไม่ได้ผ่านเข้าสู่รอบลึกๆ

4.ตกอันดับตารางค่าสัมประสิทธิ์

เงินก้อนโตอีก 600 ล้านยูโรจะถูกนำไปแจกจ่ายให้กับแต่ละสโมสรขึ้นอยู่กับอันดับค่าสัมประสิทธิ์ของ ยูฟ่า ซึ่งจะมีการคิดคำนวณกันในวงรอบเกินกว่า 10 ปีจากผลงานในถ้วยยุโรปโดยทีมที่มีแรงกิ้งต่ำที่สุดจะได้เงิน 1.1 ล้านยูโร ขณะที่ทีมในอันดับสูงที่สุดจะได้เงิน 36.4 ล้านยูโร

ปัจจุบัน เรอัล มาดริด มีค่าสัมประสิทธิ์นำหน้าเป็นอันดับหนึ่งตามด้วย บาเยิร์น มิวนิค และ บาร์เซโลน่า ขณะที่ แมนฯ ยูไนเต็ด รั้งอันดับ 11 ส่วน แมนฯ ซิตี้ กับ ลิเวอร์พูล รั้งอันดับ 4 และ 8

สำหรับซีซั่นก่อน เชลซี เป็นทีมจากอังกฤษที่รั้งอันดับสูงที่สุด (ปัจจุบันรั้งอันดับ 6) และรับเงินเข้าสโมสร 32 ล้านยูโร ส่วน สเปอร์ส ทีมจากอังกฤษที่อยู่ในอันดับต่ำที่สุดได้เงิน 19 ล้านยูโรจึงแน่นอนว่าหาก ผีแดง ตกรอบถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก รวมทั้ง ยูโรปาลีก อันดับของพวกเขาจะร่วงลงไปอีก

5. เพิ่มปัญหาสถานภาพทางการเงิน

แม้ซีซั่นก่อน แมนฯ ยูไนเต็ด จะมีรายรับสูงเป็นสถิติ 648 ล้านปอนด์ แต่มันไม่ได้ทำให้สถานภาพทางการเงินของพวกเขาอยู่ในระดับที่น่าอุ่นใจแต่อย่างใดเนื่องจากพวกเขาขาดทุนปีนี้ 27.8 ล้านปอนด์ และปีก่อน 115.5 ล้านปอนด์หลังประสบกับปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19

ต่อสถานการณ์ดังกล่าว ทำให้ ผีแดง ต้องจ่ายตลาดซื้อนักเตะอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้ผิดกฏ ไฟแนนเชี่ยล แฟร์ เพลย์ ของ ยูฟ่า หลังเคยถูกปรับเงินมาแล้ว 300,000 ปอนด์ดังจะเห็นว่าสโมสรไม่เคยขายนักเตะได้ราคาที่ดีเลยเมื่อเทียบกับนักเตะขาเข้าที่ถูกซื้อมาด้วยค่าตัวแพงระยับโดยตลอดสามปีหลังพวกเขาทำรายได้จากการขายนักเตะเพียง 110 ล้านปอนด์ แต่หมดเงินกับการซื้อพ่อค้าแข้งสูงถึง 589 ล้านปอนด์

เมื่อเป็นเช่นนี้ ผีแดง จึงจำเป็นต้องโกยรายได้จากทุกทิศทาง และการสูญเสียรายได้จากถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก ย่อมส่งผลกระทบต่อปัญหาทางการเงินโดยไม่อาจหลีกเลี่ยงได้

6. หลุดทำเนียบทีมระดับท็อป

นับตั้งแต่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน รีไทร์ในปี 2013 แมนฯ ยูไนเต็ด ทำได้แค่เข้ารอบแปดทีมถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก สองหนเท่านั้น และตกรอบ 16 ทีมสองหน แถมไม่ได้เล่นถ้วยหูใหญ่มากถึงสี่หนซึ่งหากเกมวันอังคารนี้พวกเขาตกรอบอีกก็จะเป็นหนที่สามที่ เร้ด เดวิลส์ ล่องจุ๊นรอบแบ่งกลุ่มรายการถ้วยหูใหญ่

ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าผลงานเยี่ยงนี้ไม่ใช่สถิติที่ดีเยี่ยมเอาซะเลยหากจะเทียบกับทีมที่มีความคงเส้นคงวาอย่าง บาเยิร์น , เรอัล มาดริด ,บาร์เซโลน่า , แมนฯ ซิตี้ และแม้กระทั่ง ลิเวอร์พูล โดยเฉพาะอย่างยิ่งซีซั่นก่อน ผีแดง ไม่ได้เล่นถ้วยบิ๊กเอียร์ด้วยแม้พวกเขาจะยังถูกมองว่าเป็นทีมระดับท็อป แต่หากขืนทีมจาก โอลด์ แทรฟฟอร์ด ยังสร้างผลงานที่น่าผิดหวังไม่เลิกอีกไม่นานพวกเขาก็จะเป็นทีมที่ไม่มีใครพูดถึง

7. ดาวดังพากันมองข้าม

จะแปลกอะไรเพราะในเมื่อ แมนฯ ยูไนเต็ด ล้มเหลวในการคว้าแชมป์ แชมเปี้ยนส์ลีก มันจึงทำให้พวกเขาประสบกับปัญหาในการเซ็นสัญญากับพ่อค้าแข้งชั้นยอดดังจะเห็นว่าพวกเขาโน้มน้าวนักเตะอนาคตไกลอย่าง จู๊ด เบลลิ่งแฮม และ เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ไม่สำเร็จโดยทั้งคู่เลือกย้ายออกจาก ดอร์ทมุนด์ ไปค้าแข้งกับสโมสรอื่น

ถึงขณะนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด ยังจ่ายค่าแรงก้อนโตให้กับนักเตะได้ก็จริง แต่พวกเขาไม่อาจดึงดูดสตาร์ดังได้ และแม้ กาเซมีโร่ กับ ราฟาแอล วาราน จะย้ายมาจาก เรอัล มาดริด ทั้งคู่ แต่มันเป็นเพราะว่า ราชันชุดขาว มองว่าพวกเขาพ้นจุดสุดยอดของอาชีพพ่อค้าแข้งไปแล้ว และต้องการขายทิ้งแลกกับการรับทรัพย์

และที่สำคัญ นักเตะชั้นยอดต้องการเล่นถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก ด้วยกันทั้งนั้นเพื่อคว้าโอกาสชูโทรฟี่ขึ้นเหนือศีรษะ หากแต่ในยามนี้ ผีแดง ไม่อาจมอบสิ่งนี้ให้กับพวกเขาได้


ที่มาของภาพ : ,gettyimages,
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport