ต้อนรับ มาร์เซโล่ เข้าก๊วน! 4 แข้งที่เคยฟาดแชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก ต่อด้วย โกปา ลิเบร์ตาดอเรส

ต้อนรับ มาร์เซโล่ เข้าก๊วน! 4 แข้งที่เคยฟาดแชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก ต่อด้วย โกปา ลิเบร์ตาดอเรส
แม้ว่าจะเคยได้แชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มาก่อนถึง 5 สมัยกับ เรอัล มาดริด แต่ มาร์เซโล่ เปิดใจว่าการได้แชมป์ โกปา ลิเบร์ตาดอเรส ประจำปี 2023 กับ ฟลูมิเนนเซ่ มันถือเป็นแชมป์ที่มีความหมายกับเขามากกว่าซะอีก เพราะนี่คือทีมที่เขาเคยอยู่ด้วยตั้งแต่สมัยเยาวชน

ความสำเร็จดังกล่าวทำให้ มาร์เซโล่ ถือเป็นนักเตะคนที่ 14 ที่เคยได้ทั้งแชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก กับ ลิเบร์ตาดอเรส ในฐานะนักเตะ อย่างไรก็ตาม หากนับเฉพาะคนที่ได้แชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นอันดับแรก ก่อนที่จะค่อยได้ไปจุมพิตถัวยแชมป์ระดับสโมสรรายการใหญ่ของทวีปอเมริกาใต้แล้วล่ะก็ มาร์เซโล่ ถือเป็นคนที่ 5 ที่ทำอย่างนั้นได้ และวันนี้เราจะมาย้อนกันว่า 4 คนก่อนหน้าเขามีใครบ้าง

- ดาวิด ลุยซ์

ในฤดูกาล 2011-12 ดาวิด ลุยซ์ ถือเป็นแกนหลักคนหนึ่งของ เชลซี โดยเขาได้ลงเล่นในถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก ไปทั้งหมด 11 เกม และทำได้ 1 ประตู ซึ่งเขาก็คือหนึ่งในตัวจริงที่ลงเล่นนัดชิงชนะเลิศกับ บาเยิร์น มิวนิค ด้วย ก่อนที่จะมีส่วนพาทีมได้แชมป์ในครั้งนั้น

ทั้งนี้ เมื่อช่วงปี 2021 ลุยซ์ ตัดสินใจกลับไปเล่นที่บ้านเกิดกับ ฟลาเมงโก้ และเมื่อฤดูกาล 2022 เขาก็มีส่วนสำคัญในการช่วยให้ทีมได้แชมป์ ลิเบร์ตาดอเรส หลังจากได้ลงเล่นไป 9 นัด ซึ่งเป็นในฐานะตัวจริงทั้งหมด โดยเขาได้เป็นตัวจริงในนัดชิงดำเช่นกัน

- รามิเรส

รามิเรส ก็อยู่ใน เชลซี ชุดที่ได้แชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาล 2011-12 เหมือนกับ ลุยซ์ โดยตอนนั้นเขาได้ลงเล่นไป 10 เกม พร้อมกับทำได้ 3 ประตู เพียงแต่ในซีซั่นนั้นเขาไม่ได้มีส่วนร่วมในนัดชิงดำเพราะติดโทษแบน

ในปี 2019 รามิเรส กลับไปเล่นที่ พัลเมยรัส ซึ่งในซีซั่น 2020 เขาได้ลงเล่นในถ้วย ลิเบร์ตาดอเรส เป็นจำนวน 7 เกม และถึงแม้เขาจะยกเลิกสัญญากับ พัลเมยรัส ด้วยความยินยอมร่วมกันในเดือนพฤศจิกายนปี 2020 หรือก็คือก่อนหน้าที่ พัลเมยรัส จะไปชนะ ซานโตส 1-0 ในนัดชิงชนะเลิศของ ลิเบร์ตาดอเรส ในวันที่ 30 มกราคม ปี 2021 แต่ในทางการแล้วเขายังถือว่าได้แชมป์ ลิเบร์ตาดอเรส ประจำฤดูกาล 2020 อยู่

- ราฟินญ่า

ในฤดูกาล 2012-13 ราฟินญ่า ไม่ได้ถือเป็นแกนหลักของ บาเยิร์น หลังได้ลงเล่นไป 17 นัดในทุกรายการ ซึ่งในจำนวนนั้นเป็นการลงสนามในถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก แค่ 2 นัด แต่เขาก็ยังได้สัมผัสกับถ้วยบิ๊กเอียร์หลังจาก "เสือใต้" เอาชนะ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในนัดชิงชนะเลิศ

ในปี 2019 ราฟินญ่า ตัดสินใจเก็บข้าวของบินจาก เยอรมนี ไปเล่นให้ ฟลาเมงโก้ ซึ่งเขาก็เป็นแกนหลักให้ทีมได้ทันทีจนได้ลงเล่นเกม ลิเบร์ตาดอเรส ไปทั้งหมด 7 นัด โดยรวมถึงเกมชิงดำที่ ฟลาเมงโก้ เฉือนชนะ ริเวอร์ เพลท 2-1 ด้วย

- โรนัลดินโญ่

ก่อนจะมาเริ่มค้าแข้งในทวีปยุโรปกับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ในปี 2001 โรนัลดินโญ่ เคยเล่นให้ทีมในทวีปอเมริกาใต้กับ เกรมิโอ แค่ทีมเดียว แถมเป็นช่วงระหว่างปี 1998-2001 ด้วย ทำให้ช่วงนั้นเขาไม่มีโอกาสได้สัมผัสกับแชมป์ ลิเบร์ตาดอเรส ก่อนที่ในฤดูกาล 2005-06 เขาจะได้แชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก ร่วมกับ บาร์เซโลน่า ด้วยผลงานอันสุดยอดจากการลงเล่นไป 12 เกมพร้อมกับทำได้ 7 ประตู

หลังย้ายออกจาก บาร์เซโลน่า แล้วไปเล่นให้ เอซี มิลาน กับ ฟลาเมงโก้ แล้วนั้น โรนัลดินโญ่ ก็มาลงหลักปักฐานกับ อัตเลติโก มิเนยโร่ ในปี 2012 และพอถึงฤดูกาล 2013 เขาก็มีส่วนช่วยให้ทีมได้แชมป์ ลิเบร์ตาดอเรส แบบสุดระทึก เพราะในนัดแรกของรอบชิงชนะเลิศ อัตเลติโก มิเนยโร่ แพ้ โอลิมเปีย ทีมจากปารากวัยไปก่อน 0-2 แต่ในนัดสองทีมจาก บราซิล เอาชนะด้วยสกอร์เดียวกันได้จนทำให้ต้องวัดกันต่อในช่วงต่อเวลาพิเศษ และมันก็ลากยาวไปถึงช่วงดวลเป้าก่อนที่ อัตเลติโก มิเนยโร่ จะเป็นฝ่ายได้เฮ จนทำให้พวกเขาได้แชมป์ ลิเบร์ตาดอเรส เป็นสมัยแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสร


- เด็กเกร็ดบอล -


ที่มาของภาพ : gettyimages
BY : เด็กเกร็ดบอล
เด็กเกร็ดบอล
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport