ค่ำคืนแห่งความทรงจำ!สถิติและเกร็ดหลัง นิวคาสเซิ่ล คว่ำ เปแอสเช

ที่จริงการที่ นิวคาสเซิ่ล เก็บ 3 แต้มได้ในนัดนี้ก็ถือว่าเป็นผลการแข่งขันที่เซอร์ไพรส์ในระดับหนึ่งแล้ว แต่สกอร์ที่ออกมาก็เรียกได้ว่าเกินความคาดหมายของหลายคนมากขึ้นไปอีก และนั่นก็ส่งผลให้มันเกิดเกร็ดกับสถิติบางอย่างตามไปด้วย

- ความต่างของความสุขและทุกข์

แม้ว่าก่อนหน้านี้ นิวคาสเซิ่ล จะเคยผ่านเกมระดับ แชมเปี้ยนส์ ลีก มาบ้าง แต่เชื่อหรือไม่ว่าในประวัติศาสตร์นั้นพวกเขาไม่เคยชนะทีมไหนด้วยผลต่าง 3 ลูกมาก่อนเลย ซึ่งมันก็คงไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่า "สาลิกาดง" จะทำสถิตินี้ได้กับทีมระดับ ปารีสฯ

ในทางตรงกันข้าม นี่ก็นับเป็นความพ่ายแพ้ด้วยผลต่างที่ขาดลอยที่สุดของทาง "เปแอสเช" ในถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก นับตั้งแต่เดือนกันยายน ปี 2004 โดยครั้งนั้นพวกเขาแพ้ เชลซี 0-3 คากรุงปารีส ซึ่งตอนนั้น ปารีสฯ ยังไม่ใช่ทีมที่มีสภาพการเงินแข็งแกร่งอย่างในทุกวันนี้

นอกจากนี้ หากนับเฉพาะตั้งแต่ที่ กาตาร์ สปอร์ตส์ อินเวสต์เมนต์ส กลุ่มทุนจาก กาตาร์ เข้ามาเทคโอเวอร์ ปารีสฯ แล้วนั้น นี่ก็นับเป็นความปราชัยในถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วยสกอร์ที่ขาดลอยที่สุดเป็นอันดับ 2 เลย รองจากวันที่พวกเขาเคยพ่าย บาร์เซโลน่า 1-6 เมื่อวันที่ 8 มีนาคม ปี 2017

- คนอังกฤษ เพื่อทีมอังกฤษ

4 ประตูของเจ้าถิ่นในเกมนี้มี 2 ลูกที่มาจากนักเตะชาวอังกฤษ นั่นคือ แดน เบิร์น กับ ฌอน ล็องสตาฟฟ์ ซึ่งนี่ก็ทำให้มันเป็นครั้งที่ 2 เท่านั้นที่ นิวคาสเซิ่ล ได้ประตูในนัดใดนัดหนึ่งของ แชมเปี้ยนส์ ลีก จากนักเตะเชื้อสายอังกฤษอย่างน้อย 2 คน

สำหรับครั้งแรกนั้นเกิดขึ้นเมื่อเดือนธันวาคม  ปี 1997 โดยวันนั้น นิวคาสเซิ่ล ในยุคของ เซอร์ เคนนี่ ดัลกลิช เปิดรังเอาชนะ ดินาโม เคียฟ 2-0 จากประตูของ จอห์น บาร์นส์ และ สจ๊วร์ต เพียร์ซ แต่มันก็ไม่เพียงพอที่จะทำให้พวกเขาผ่านรอบแบ่งกลุ่มไปได้

- วันที่เกมรับของ เปแอสเช เปื่อยเป็นทิชชู่

ถ้าก่อนลงสนามนั้นมีใครบอกว่า ปารีสฯ จะเสียประตูในเกมนี้ถึง 4 ลูกก็คงจะไม่มีใครเชื่อ แต่มันก็เป็นอย่างนั้นไปแล้ว และนี่ก็ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ ปี 2020 ที่พวกเขาเสียถึง 4 ประตูในเกมเดียวจากการลงเล่นในทุกรายการ โดยหนนั้นเป็นเกม ลีก เอิง ที่เสมอกับ อาเมียงส์ 4-4

ขณะเดียวกัน นี่ก็ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 6 มีนาคม ปี 2019 ที่ ปารีสฯ ตกเป็นฝ่ายตามหลังไปก่อนถึง 0-2 ตั้งแต่จบครึ่งแรกของเกมระดับ แชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วย โดยครั้งนั้นเกิดขึ้นในเกมที่ ปารีสฯ เจอกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก่อนที่สุดท้ายพวกเขาจะแพ้ไป 1-3

- ลางดี

เกมนี้ นิวคาสเซิ่ล ขึ้นนำตั้งแต่นาทีที่ 17 จากผลงานของ มิเกล อัลมิร่อน และมันก็ทำให้เทรนด์ๆ หนึ่งยังดำเนินต่อไป นั่นคือเมื่อไหร่ก็ตามที่ นิวคาสเซิ่ล ขึ้นนำคู่แข่งไปก่อนในเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก นั้น พวกเขาก็ไม่เคยต้องออกจากสนามในฐานะผู้แพ้เลย

- เด็กเกร็ดบอล -