คริสเตียน เอริคเซ่น มิดฟิลด์เลือดโคนม ระบุ ภายในห้องแต่งตัวเงียบกริบ หลัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พลิกพ่าย กาลาตาซาราย คาบ้าน 2-3 พร้อมกำชับเพื่อนร่วมทีมต้องรู้จักรักษาสกอร์นำให้เป็น
คริสเตียน เอริคเซ่น กองกลางชาวเดนิชของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เผยว่า บรรยากาศภายในห้องแต่งตัวเต็มไปด้วยความเงียบและความผิดหวัง หลังจากที่ "ปีศาจแดง" เปิดรัง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด พลิกแพ้ กาลาตาซาราย 2-3 ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอ นัดสอง เมื่อวันอังคารที่ 3 ตุลาคม ที่ผ่านมา
ราสมุส ฮอยลุนด์ โขกให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ขึ้นนำ 1-0 ตั้งแต่นาทีที่ 17 แต่หลังจากนั้นไม่นาน นาทีที่ 23 กาลาตาซาราย ตีเสมอ 1-1 สำเร็จ จากการยิงของ วิลฟรีด ซาฮา
ถึงแม้นาทีที่ 67 "ปีศาจแดง" ขึ้นนำอีกครั้งเป็น 2-1 จากการหลุดเข้าไปยิงของ ฮอยลุนด์ ซึ่งถือเป็นประตูที่สองของเจ้าตัวในเกมนี้ด้วย ทว่านาทีที่ 71 ทีมเยือนไล่เจ๊าอีกรอบ จากการยิงโล่งๆ ของ เคเรม อัคตูร์โคกลู
นาทีที่ 77 แมนฯ ยูไนเต็ด เหลือผู้เล่นสิบคน จากจังหวะที่ กาเซมีโร่ ทำฟาวล์ ดรีส เมอร์เทนส์ ในกรอบเขตโทษ พร้อมรับใบเหลืองที่สองเป็นใบแดง แต่โชคดีที่ เมาโร อีการ์ดี้ ยิงจุดโทษหลุดกรอบ
อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นไม่นาน นาทีที่ 81 กาลาตาซาราย มาได้ประตูพลิกนำและเป็นประตูชัย จากการหลุดเข้าไปยิงอย่างเหนือชั้นของ อีการ์ดี้ ซึ่งแก้ตัวจากการยิงจุดโทษไม่เข้าได้สำเร็จ
การปราชัยนัดนี้ทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ยังไม่มีแต้ม หลังผ่านไปสองเกม พร้อมรั้งอันดับสุดท้ายของกลุ่ม เอ
"มันเป็นอะไรที่น่าผิดหวังมาก และบรรยากาศภายในห้องแต่งตัวก็เงียบมากๆ ด้วย ผมคิดว่าเรามีช่วงที่ดีระหว่างเกม แต่สุดท้ายพอเราขึ้นนำได้ เราก็เสียประตูให้พวกเขาแบบทันที มันจึงเป็นเรื่องยากทื่จะพยายามอยู่ในเกม"
"นั่นคือสิ่งที่เราต้องปรับเปลี่ยนโดยด่วน มันไม่ใช่เรื่องความมั่นใจ แต่มันเป็นเรื่องของการรักษาระดับฟอร์มการเล่น เพราะการที่ขึ้นนำได้ถึงสองครั้ง คุณก็ไม่ควรทิ้งโอกาสดีๆ แบบนี้ไป ซึ่งในฤดูกาลนี้ เราก็เป็นแบบนี้ให้เห็นมาบ้างแล้ว เรารู้ดีว่า เกมต่อๆ ไป เราจำเป็นต้องชนะให้ได้ทุกเกม เพื่อโอกาสที่จะผ่านเข้ารอบ" เอริคเซ่น ซึ่งนัดนี้ลงสำรองช่วงครึ่งหลัง เปิดใจหลังเกม