เอริค เทน ฮาก ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตกอยู่ในสถานการณ์หลังพิงฝา เนื่องจากผลงานของ "ปีศาจแดง" ย่ำแย่เหลือเกินในช่วงต้นฤดูกาลนี้ ฉะนั้นแมตช์ที่ต้องรับมือ กาลาตาซาราย ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอ วันอังคารที่ 3 ตุลาคมที่ผ่านมา กุนซือชาวดัตช์ต้องเอาชนะคู่แข่งจากแดนไก่งวงให้ได้ เพื่อเรียกศรัทธาและความมั่นใจกลับคืนมา อย่างไรก็ตามคู่แข่งจากตุรเคียก็ไม่ธรรมดา ฟอร์มการเล่นในเวลานี้แข็งแกร่งสุดๆ และมีโอกาสที่จะบุกมาขย้ำเจ้าบ้านได้เช่นกั
1. การกลับมาของ อันโตนี่
กลับมาของ อันโตนี่ น่าจะทำให้ เทน ฮาก มีทางเลือกในการจัดเกมรุกให้อันตรายเพิ่มมากขึ้น หลังช่วงที่ผ่านมา แมนฯ ยูไนเต็ด ทำผลงานได้ค่อนข้างฝืดในการสร้างโอกาส และการเจาะตาข่ายคู่แข่ง
สำหรับเกมล่าสุด "เดอะ หมุน" ลงเล่นให้กับ "ปีศาจแดง" ก็คือแมตช์ที่ออกไปแพ้ อาร์เซน่อล 1-3 เมื่อช่วงต้นเดือนกันยายน จากนั้นก็ขอตัวกลับบ้านเกิดไปเคลียร์คดี และกลับอังกฤษมาให้การเพิ่มเติมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กระทั่งมีภาพออกมาว่าลงซ้อมร่วมกับทีม
จากสถานการณ์ที่ทีมต้องการชัยชนะอย่างมากหลังเกมแรกออกไปแพ้ "เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค น่าจะเป็นเหตุผลที่ เทน ฮาก เตรียมที่จัดเขาลงสนาม แต่อาจจะยังไม่ส่งตัวจริง และคาดว่าตำแหน่งของเขาคงจะให้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส รับบทบาทไปก่อน
อย่างไรก็ตาม การมี ปีกชาวบราซิเลียน วัย 23 ปี อยู่ในขุมกำลังเพื่อรับมือ กาลาตาซาราย คงทำให้ เทน ฮาก สามารถวางแท็กติกที่หลากหลาย ที่สำคัญความกระหายอยากลงไปช่วยทีมของ อันโตนี่ น่าจะมีพลังแฝงที่อาจทำให้ แมนฯ ยูฯ ได้ประโยชน์มากยิ่งขึ้นก็ได้
2. แรชฟอร์ดเปลี่ยนแมนยูเปลี่ยน
อีกหนึ่งประเด็นที่ทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด โดนวิจารณ์มาตลอดในช่วงต้นฤดูกาลนี้ก็คือฟอร์มการเล่นของ มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่ต้องบอกว่าน่าผิดหวังอย่างมาก หากเทียบกับฟอร์มเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา
"ดร.แรชชี่" ระเบิดฟอร์มขั้นเทพภายใต้การกุมบังเหียนของ เทน ฮาก ในซีซั่นแรก เมื่อจัดการซัดไปถึง 30 ประตูจากการเล่นในทุกรายการ และช่วยให้ แมนฯ ยูฯ ติดท็อปโฟร์ คว้าโควตาแชมเปี้ยนส์ ลีก และได้แชมป์คาราบาว คัพ
สำหรับฤดูกาลนี้สาวก "เร้ด อาร์มี่" คาดหวังว่า แรชฟอร์ด จะรักษาฟอร์มสุดยอดเอาไว้ แต่ทุกอย่างกลับตาลปัตรเพราะตั้งแต่เปิดซีซั่นจนถึงตอนนี้ หัวหอกวัย 25 ปี ตะบันไปแค่ประตูเดียวซึ่งเกิดขึ้นในแมตช์แพ้ อาร์เซน่อล
แรชฟอร์ด โดนวิจารณ์อย่างหนักว่าพยายามเล่นฟุตบอลแบบ วัน แมน โชว์ และมุทะลุเพราะมั่นใจในเรื่องความสามารถเฉพาะตัวและความเร็วซึ่งเคยทำได้สำเร็จเมื่อซีซั่นที่ผ่านมา แต่สำหรับตอนนี้แนวรับคู่แข่งจับทางได้หมดแล้ว
ฉะนั้นสิ่งที่ เทน ฮาก จำเป็นต้องทำอย่างยิ่งก็คือพยายามปรับเปลี่ยนทัศนคติของ แรชฟอร์ด ให้หันมาเล่นเพื่อทีมมากขึ้น เพราะถ้าเขาทำได้เชื่อว่าเกมรุกของ "ผีแดง" จะกลับมาโหดอีกครั้ง และผลงานของทีมน่าจะกระเตื้องขึ้นกว่านี้
3. ปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บ, อาจลองของใหม่
สำหรับเรื่องที่น่าเป็นห่วงเหลือเกินของ แมนฯ ยูฯ ในเวลานี้ก็คือปัญหาเกมรับที่ค่อนข้างรั่วสุดๆ โดยพวกเขาเสียไปแล้ว 11 ประตูจากการเล่นเกมลีก 7 แมตช์เท่านั้น และเสียรวมทุกรายการ 15 ประตูเข้าไปแล้ว
หนึ่งในปัญหาหลังยวบมาจากผู้เล่นตัวหลักบาดเจ็บ แม้ตอนนี้ ราฟาเอล วาราน จะกลับมาเป็นคุมพื้นที่กองหลังแล้ว แต่เขายังขาด ลิซานโดร มาร์ติเนซ ที่เพิ่งเข้ารับการผ่าตัดข้อเท้า และต้องพักยาวตลอดทั้งปี 2023 แน่นอน
ขณะที่ ลุค ชอว์ ที่บาดเจ็บกล้ามเนื้อก็ยังต้องอยู่ในช่วงพักฟื้นร่างกาย ส่วน อารอน วาน-บิสซาก้า บาดเจ็บเอ็นกล้ามเนื้อต้นขา ด้าน ไทเรลล์ มาลาเซีย เจ็บเข่ายังไม่ฟิตที่จะลงสนามช่วยทีมในช่วงเวลานี้ ด้าน เซร์คิโอ เรกีลอน ยังไม่ชัวร์ว่าจะลงเล่นเกมรับมือ กาลาตาซาราย ได้ไหม หลังบาดเจ็บเล็กน้อยทำให้พลาดช่วยทีม 2 เกมหลังสุด
นอกจากนี้ดูเหมือน เทน ฮาก อาจจะมีเซอร์ไพรส์ในตำแหน่งผู้รักษาประตู เพราะเขาพูดเปรยตอนให้สัมภาษณ์ก่อนเกมนี้ว่า อัลตาย บายินเดียร์ อาจจะได้ลงสนามเป็นตัวจริง หลังผลงานของ อ็องเดร โอนาน่า ไม่ค่อยเข้าเป้าตามที่คาดหวังเอาไว้
4. กาลาตาซาราย ฟอร์มไม่ธรรมดา
จากสถิติของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในการพบกับ กาลาตาซาราย ที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ถือว่ายอดเยี่ยมเลยทีเดียว โดยพวกเขาไม่เคยแพ้ผู้มาเยือนจากแดนไก่งวงจากการพบกัน 3 แมตช์ก่อนหน้านี้
ย้อนไปเมื่อเดือนตุลาคม 1993 ในเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก แมนฯ ยูไนเต็ เสมอ กาลาตาซาราย 3-3 จากนั้นก็ถลุงยับไม่นับญาติ 4-0 ในเดือนธันวาคม 1994 และ 1-0 เมื่อเดือนกันยายน 2012 ในรอบแบ่งกลุ่ม
อย่างไรก็ตามในฤดูกาลนี้ กาลาตาซาราย มีการเสริมทัพค่อนข้างน่ากลัวโดยเฉพาะการได้ผู้เล่นที่ผ่านประสบการณ์ในพรีเมียร์ลีก ทั้ง วิลฟรีด ซาฮา, ฮาคิม ซิเย็ค (เจ็บลงไม่ได้), ดาวินซอน ซานเชซ และ ต็องกีย์ เอ็นดอมเบเล่ ซึ่งพวกเขาเคยปะทะฝีเท้ากับ "ผีแดง" มาแล้วทั้งนั้น
ฟอร์มในลีกตุรเคียของพวกเขายอดเยี่ยมมากๆ ยังไม่แพ้ใครเลย ชนะ 6 เสมอ 1 เกม มี 19 คะแนนรั้งอันดับ 2 ตามหลัง เฟเนร์บาห์เช่ 2 แต้มเท่านั้น ขณะที่ในเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก พวกเขาโชว์ฟอร์มคัมแบ็กสุดยอดหลังตามหลัง โคเปนเฮเก้น 0-2 ก่อนจะไล่ตีเสมอ 2-2 ได้อย่างสุดยอด
ฉะนั้นในการเยือน "โรงละครแห่งความฝัน" กาลาตาซาราย พบความมุ่งมั่นมาเต็มกระเป๋า เพราะพวกเขารู้อยู่แล้วว่าเจ้าบ้านกำลังตกอยู่ในสภาพขาดความมั่นใจ และมีโอกาสดีที่จะจัดการล็อก "ผีแดง" คาบ้าน
5. กู้ศรัทธา เทน ฮาก
แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องการชัยชนะอย่างมาก เพราะนอกจากจะเป็นการทำให้ "ผีแดง" กลับมามีความมั่นใจ และทำให้พวกเขากลับสู่เส้นทางที่ถูกต้อง ยังเป็นการกู้ศรัทธาคืนมาจากแฟนบอล หลังช่วงที่ผ่านมา เทน ฮาก โดนวิจารณ์อย่างหนักกับการทำทีมที่ขาดจินตนาการในซีซั่นนี้
เทน ฮาก กลายเป็นกุนซือความหวังใหม่จากการเรียกสปิริต "ผีแดง" กลับคืนสู่ "เธียเตอร์ ออฟ ดรีม" เมื่อซีซั่นที่ผ่านมา และทำให้ แมนฯ ยูฯ กลายเป็นทีมที่เล่นด้วยความมุ่งมั่น, ตื่นเต้นเร้าใจ และเป็นพวกแพ้ยากเหมือนสมัยที่ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุมบังเหียน
อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างกลับตาลปัตรอย่างรวดเร็ว เพราะฟอร์มของ แมนฯ ยูฯ ในซีซั่นนี้มันไม่ค่อยน่าอภิรมย์ โดยเฉพาะสไตล์การเล่นแบบสะเปะสะปะไม่เป็นทรง ขาดระบบที่ชัดเจน เกมรุกก็เล่นแบบตัวใครตัวมัน ส่วนเกมรับก็ขาดความแน่นอน
การพ่ายแพ้ 4 จาก 7 เกมแรกในพรีเมียร์ลีก ถือเป็นครั้งแรกในหน้าประวัติศาสตร์แมนฯ ยูไนเต็ด ฉะนั้น เทน ฮาก ต้องพยายามนำทีมคว้าชัยชนะพร้อมกับแนวทางการเล่นที่ยอดเยี่ยม เพื่อเป็นการเรียกศรัทธาจาก สาวก "เร้ด อาร์มี่" กลับคืนมา แต่ถ้าทำไม่ได้...ชื่อของเขาอาจขึ้นเป็นเต็งหนึ่งกุนซือว่างงานในเร็วๆ นี้ !!!
ทอมเม้ง