อย่าแหย่รังแตน, ไม่ใช่วันของ ฮาลันด์! 5 ข้อ แมนซิตี้ กินนิ่ม เซอร์เวน่า ซเวซด้า

อย่าแหย่รังแตน, ไม่ใช่วันของ ฮาลันด์! 5 ข้อ แมนซิตี้ กินนิ่ม เซอร์เวน่า ซเวซด้า
แมนฯ ซิตี้ ไม่พลาดคว้าสามแต้มได้ตามความคาดหมายจากการลงเล่นเกมแรกป้องกันแชมป์ลูกหนัง ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก นัดเปิดบ้านเอาชนะ เซอร์เวน่า ซเวซด้า ทีมจาก เซอร์เบีย ไปแบบเบาะๆ 3-1 เมื่อวันอังคารที่ 19 ก.ย.

จากสกอร์ที่ปรากฏ แม้ เซอร์เวน่า ซเวซด้า จะบุกมายิงประตูนำหน้าได้ก่อนในนาทีสุดท้ายของครึ่งแรก แต่จากฟอร์มการเล่นของทั้งสองทีมซึ่งห่างชั้นกันเยอะ สุดท้ายแล้วจึงไม่มีคำว่า "พลิกล็อก" เกิดขึ้นแต่อย่างใด

1. เรือใบ เปิดซิง นูเนส ลงตัวจริง

แมนฯ ซิตี้ เปิดโอกาสให้ มาเตอุส นูเนส มิดฟิลด์ที่คว้ามาจากทีม วูล์ฟส์ ในช่วงซัมเมอร์ลงเล่นเป็นตัวจริงเกมแรกแทนที่ เฌเรมี่ โดกู ปีกทีมชาติ เบลเยี่ยม ที่มีชื่อนั่งข้างสนาม

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า นายใหญ่ เรือใบสีฟ้า ตัดสินใจปรับโผ 11 คนแรกรวมสามรายจากเกม พรีเมียร์ลีก แมตช์บุกสยบ เวสต์แฮม 3-1 เมื่อวันเสาร์โดยกุนซือสกินเฮดส่ง นาธาน อาเก้ กับ เซร์คิโอ โกเมซ ลงเล่นในแผงหลังแทน มานูเอล อคันจี กับ ยอสโก้ กวาร์ดิโอล

2. เซอร์เวน่า เปลี่ยนทีมวุ่น

เซอร์เวน่า ซเวซด้า ปรับทัพขนานใหญ่หลังจากเกมลีก เซอร์เบีย เมื่อวันเสาร์พวกเขาออกไปแพ้ กูคาริคกี้ 2-1

กุนซือ บารัค บาคาร์ สลับโผตัวจริงในเกมนี้รวมห้ารายโดยเฉพาะในแผงกลางซึ่ง ปีเตอร์ โอลายินก้า , คิงส์ คังวา และ วลาดิเมียร์ ลูซิช ถูกดร็อปโดยมี สเตฟาน มิโตรวิช , ฮวาง อิน บอม และ ออสมาน บูการี ได้ลงสนาม

นอกจากนี้ แผงหลังของทีมเยือนก็มีการเปลี่ยนแปลงเช่นกันทั้งในตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟซึ่ง นาสเซอร์ ฌีก้า ได้ลงเล่นแทน อูรอส สปายิช รวมทั้งแบ็คขวาซึ่ง คอสต้า เนเดลจ์โตวิช เสียตำแหน่งให้กับ เซอร์ดาน มิไฮโลวิช

3. วีเออาร์ พาแชมป์เก่าหงอย

ในเกมลูกหนัง อะไรๆก็เกิดขึ้นได้ ว่าแล้ว เซอร์เวน่า ก็พิสูจน์ให้เห็นถึงสัจธรรมข้อนี้เมื่อชิงนำ แมนฯ ซิตี้ ไปก่อน 1-0 จากฝีเท้าของ  บูการี่ ดาวเตะทีมชาติ กาน่า ซึ่งหลุดเดี่ยวมาส่องจากระยะ 18 หลาผ่าน เอแดร์ซอน ตุงตาข่ายในนาทีที่ 45 พอดี

แรกทีเดียว ไลน์แมนยกธงล้ำหน้าด้วยซ้ำ แต่แน่นอนว่าเกมยุคนี้จำเป็นต้องเช็กวีเออาร์เพื่อความชัวร์ และมันฟ้องชัดเจนว่าไม่ใช่ลูกออฟไซด์จึงทำให้แชมป์เก่าตามหลัง 1-0

ยิ่งไปกว่านั้น มันเป็นโอกาสหนแรกที่ทีมเยือนได้สับไกด้วย แถมเป็นประตูทันทีอีกต่างหากขณะที่ แมนฯ ซิตี้ ได้ยิง 22 ครั้ง เข้ากรอบ 7 ครั้ง ครองบอลเหนือกว่า 79:21% แต่ตกเป็นฝ่ายตามหลังโดย เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ดาวซัลโวตัวกลั่นได้สัมผัสบอลตลอด 45 นาทีแรกเจ็ดครั้งเท่านั้น และยิงพลาดเป้าไปหมด รวมถึงจังหวะโขกบอลชนคานด้วย

ต่อโอกาสคลำเป้า 22 ครั้งของ เรือใบสีฟ้า มีการยืนยันว่าเป็นสถิติที่มากที่สุดสำหรับหนึ่งทีมใน 45 นาทีแรกของเกม แชมเปี้ยนส์ลีก นับตั้งแต่มีการจดบันทึกสถิติในซีซั่น 2003/04

4. วันของ อัลวาเรซ

ปกติในเกมดวลกับทีมรองบ่อน ฮาลันด์ เครื่องจักรถล่มประตูของ แมนฯ ซิตี้ มักลูบปากและกระทุ้งประตูได้แบบไม่บันยะบันยัง

กระนั้นก็ดี มันไม่ใช่เกมนี้ซึ่ง ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ โดดเด่นกว่าทั้งการซัดประตูให้ทีมตีเสมอตั้งแต่ต้นครึ่งหลัง แม้จังหวะนี้ต้องยกเครดิตให้กับสตาร์ทีมชาติ นอรเวย์ ด้วยที่สะกิดบอลให้หอกอาร์เจนไตน์หลุดไปล็อกหลบนายทวารก่อนซัดมุมแคบได้อย่างเหนือชั้น

จากนั้น อัลวาเรซ มีชื่อติดกสอร์บอร์ดซัดให้ทีมนำ 2-1 อีกต่างหากทั้งๆที่จังหวะที่เขาโยนลูกฟรีคิกจากกราบซ้ายไปเสาไกล ออมรี กลาเซอร์ กระโดดชกด้วยมือเดียวแล้วบอลแฉลบกำปั้นเข้าประตูตัวเองแท้ๆ แต่ ยูฟ่า มอบประตูนี้ให้กับดาวยิงเลือดฟ้าขาวแทน

นอกจาก อัลวาเรซ แล้ว โรดรี้ ถือเป็นขุนพลคนสำคัญที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า พึ่งพาได้อย่างมหาศาลอีกรายในระยะหลังโดยเฉพาะการหาจังหวะซัดประตูที่เหลือเชื่อ และเป็นดาวเตะทีมชาติสเปนที่โชว์ลีลาเข่นให้เจ้าบ้านนำห่างอย่างสบายใจเป็น 3-1 ในนาทีที่ 73

5. โรคเดี้ยงไม่เป็นอุปสรรค

ครบ 90 นาทีที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม ทีมของ กวาร์ดิโอล่า กำชัยได้สำเร็จตามคาด แม้สกอร์อาจน้อยไปนิด และพวกเขาแสดงให้เห็นถึงความต่างชั้นกับ เซอร์เวน่า ซเวซด้า จากการครองบอลที่เหนือกว่า 76:24% และโอกาสยิง 37 ครั้งที่เข้ากรอบ 16 ครั้ง  ขณะที่ทีมเยือนได้ง้างทั้งหมด 3 ครั้ง และเข้ากรอบ 2 ครั้ง

อย่างไรก็ดี ที่น่าทึ่งมากไปกว่านั้นก็คืออันที่จริง เรือใบสีฟ้า ขาดนักเตะในยามนี้ที่ล้มเจ็บพร้อมกันหลายรายทั้ง เควิน เดอ บรอยน์ , แจ็ค กรีลิช , มาเตโอ โควาซิช และ จอห์น สโตนส์ แต่มันไม่ได้เป็นปัญหาในการคว้าผลลัพธ์สำหรับพวกเขาเลยแม้แต่น้อย

ดังจะเห็นว่าทั้งๆที่ทีมเงินถังเสียจอมทัพทีมชาติ เบลเยี่ยม ไปตั้งแต่เกมเปิดซีซั่น พรีเมียร์ลีก นัดบุกไปอัด เบิร์นลีย์ ทีมน้องใหม่ 3-0 แต่พวกเขายังกำชัยเกมลีกได้ห้านัดรวดซึ่งต้องไม่ลืมว่า อิลคาย กุนโดกัน ห้องเครื่องคนสำคัญย้ายไปค้าแข้งกับ บาร์เซโลน่า แล้วด้วย แต่ดูเหมือนว่า เรือใบสีฟ้า จะไม่ได้รับผลกระทบในทางลบเลยสักนิด

ต่อประเด็นนี้ มันชัดเจนแล้วว่า แมนฯ ซิตี้ ไม่ได้พึ่งพานักเตะคนไหนมากเป็นพิเศษ แต่พวกเขาเน้นการเล่นที่เป็นระบบได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า และโดยเฉพาะปัจจุบัน กวาร์ดิโอล่า มี โรดรี้ พุ่งขึ้นมาเล่นได้อย่างท็อปฟอร์มแทบทุกเกมอันรวมถึงเกมชนะทีมจาก เซอร์เบีย ด้วยซึ่งดาวเตะเลือดกระทิงดุคว้าตำแหน่ง แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ไปเชยชมได้อีกตามเคย มันจึงแจ่มแจ้งแล้วว่าเขาสามารถแบกรับภาระแทน เดอ บรอยน์ หรือว่า กุนโดกัน ได้อย่างสบาย อันรวมถึง อัลวาเรซ ด้วยเช่นกันที่นับวันจะโดดเด่นมากขึ้นทุกทีเพราะหากเกมไหน ฮาลันด์ ปืนฝืด เขาก็มักคลำเป้าแทนกองหน้าร่างยักษ์ได้เสมอ


ที่มาของภาพ : gettyimages,
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport