ซ้อมๆ ก่อนเจออาร์เซนอล

1 คลอปป์ ปรับระบบ 4-4-2

แก้ปัญหาเกมรับอะไรหรือไม่ คำตอบคือไม่ เพราะเรนเจอร์ส แทบไม่ได้ทำอะไรให้ลิเวอร์พูลลำบากใจมากนัก แต่การใช้ระบบ 4-4-2 มันคือการส่งตัวรุกลง โดยเฉพาะการเลือก ดีโอโก โชต้า ก่อน บ๊อบบี ฟีร์มีโน ซึ่ง โชต้านั้น ธรรมชาติเป็นกองหน้ามากกว่า เป็นตัวทำเกมรุกในระบบ 4-2-3-1 

เกมนี้ เจเค ให้เล่นคู่กับ ดาร์วิน นูนเยส โดยปีกสองข้าง ดิอาส กับ ซาลาห์ มีมิดฟิลด์คู่กลางคือ ติอาโก และ เฮนโด เมื่อบุกจะเป็น 4 กองหน้า บวกแบ๊กสองข้างเติมขึ้นมา มีกลางคู่ขยับขึ้น เซนเตอร์สองคนกดถึงกลางสนามเลยทีเดียว 

อีกทั้งปีกสองข้างและหน้าคู่ สลับตำแหน่งในระหว่างเกมบ้าง คนหนึ่งเข้าใน อีกคนออกข้างนอก  เหมือนเกมนี้ เจเค ปรับระบบการเล่นเพื่อบุกและการบุกคือการป้องกันไปในตัว 

ส่วนการได้ประตูจากฟรีคิกสุดสวยของ เทรนต์  และจุดโทษของ ซาลาห์ 

จริงๆจากโอเพ่น เพลย์ น่าได้อย่างยิ่ง แต่ไม่ได้สักลูก

2 เพรสแดนบน,แดนสองดี

จุดที่น่าสนใจเกมนี้คือการแก้ปัญหาไม่ให้กองหลังรับภาระมากนั่นคือ การไล่เพรสแดนบนและแดนสอง ทุกครั้งเมื่อเสียบอลก็รุมแย่งคืนกลับมา ทำให้ครองบอลบุกต่อเนื่อง เรนเจอร์ส เองก็ไม่ได้สวนกลับอะไรเลย กองหลังลิเวอร์พูลจึงมีส่วนในการเติมเกมรุกมากกว่าจะมาตั้งรับ แบ๊กสองข้าง รวมทั้ง มาติป ที่เดินเกมรุกในหลายจังหวะ 

จุดนี้จึงทำให้ลิเวอร์พูลเจอปัญหาเกมรับน้อยมากในเกมนี้

3 เรนเจอร์ส คุณภาพไม่สูง

อันนี้ชัดเจน คุณภาพนักเตะลีกสกอตเป็นรองพรีเมียร์ลีก การแย่งบอล, ความแข็งแกร่งอะไรทั้งหลายเหล่านี้ มันชัด การรับส่งบอลไม่แม่น การเสียบอลเกิดขึ้นตลอดเวลา ลิเวอร์พูลจึงไม่ลำบากใจมากนักในการเล่น ส่วนนักเตะที่โดดเด่นของ เรนเจอร์ส คือ แมกเกรเกอร์ นายประตูเลือดสกอตที่เซฟลูกยากไม่ทำให้ทีมเสียประตูมากกว่า 2 ลูก โดยเฉพาะโอเพ่น เพลย์ นั้นเด็กหงส์ยิงไม่ได้ก็แล้วกัน ได้ประตูจาก ฟรีคิกและจุดโทษ

4 ดาร์วิน เป็นไง

เคลื่อนที่ วิ่งทำทางดี โดยเฉพาะการประสานงานกัน โม ซาลาห์ 

การร่วมเล่นกับเพื่อนพอใช้ได้ เพียงแต่ว่าเขายังไม่ชัวร์เท่าไหร่ในการเล่น

ที่สำคัญมีโอกาสจบสกอร์ 3 ครั้งแบบเน้นๆ แต่ไม่คมเอง ทำให้ไม่มีสกอร์เกมนี้

ยังคงต้องรอเวลาเพื่อปรับตัวเข้ากับทีม เพราะเจเค เองใช้ บ๊อบบี เล่น "หน้าปลอม" มานาน เมื่อมีหน้าเป้ามาเสริมทีม

ทุกอย่างต้องค่อยๆปรับ 

อันนี้ให้เวลา ดาร์วิน ละกัน

5 เทรนต์...ไม่พบสิ่งผิดปกติ

ไม่ค่อยโดนทดสอบเพราะลิเวอร์พูลบุกอย่างเดียว เทร้นต์ ก็สนุกกับการบุกมากกว่าจะมาเล่นเกมรับ ฟรีคิกของเขาคือลูกที่6 ให้ลิเวอร์พูล

ฮอฟเฟนไฮม์ (2017)

วัตฟอร์ด(2018)

คริสตัล พาเลส(2020)

เชลซี(2020)

เวสต์ แฮม (2021)

เรนเจอร์ส (2022

การชนะเรนเจอร์ส เป็นไปตามเป้าครับ เพราะไม่แกร่งเท่าไหร่

ของจริงนั้นรอลิเวอร์พูลอยู่ในวันอาทิตย์เมื่อต้องบุกเยือนอาร์เซนอล

วันอาทิตย์นี้แหละที่จะได้เห็นว่า "ปัญหาเกมรับ" คลี่คลายไปแล้วบ้างหรือไม่

เกมชนะเรนเจอร์สให้ถือว่าซ้อมเท้าไปก่อนเจอทีมคุณภาพที่เล่นด้วยความมั่นใจอย่างปืนโต