ไคล์ วอล์คเกอร์ กัปตันทีม แมนฯ ซิตี้ เปิดปากเผยว่าปกติไม่ชอบยิงลูกโทษ แต่ตัดสินใจขอร่วมสนุกด้วยเพราะต้องการแสดงความเป็นผู้นำในเกม ซูเปอร์คัพ ซึ่ง เรือใบสีฟ้า คว้าแชมป์มาครองด้วยการชนะดวลลูกโทษต่อ เซบีย่า จากการฟาดแข้งที่ เอเธนส์ , กรีซ เมื่อวันพุธที่ 16 ส.ค.
แมนฯ ซิตี้ แชมป์ ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก เปิดศึกกับ เซบีย่า แชมป์ ยูโรปาลีก โดยเสียประตูก่อนในครึ่งแรกจากลูกโขกของ ยุสเซฟ เอ็น นาซารี่ แต่มาได้ โคล พาลเมอร์ โหม่งตีเสมอในครึ่งหลังกระทั่งต้องอาศัยการดวลลูกโทษตัดสินซึ่งแบ็คขวาสายสปีดยอมรับว่าปกติไม่ชอบยิงลูกโทษ แต่เกมนี้ต้องการพิสูจน์ตัวเอง
"มันเป็นเกมที่ยากเสมอ นักเตะโชว์ฟอร์มกันได้ดี เราต้องมีความเด็ดขาดมากกว่านี้ แต่เราทำงานได้อย่างลุล่วง" กองหลังทีมชาติ อังกฤษ ระบุก่อนเอ่ยถึงการสังหารลูกโทษของตัวเอง
"สำหรับคนที่เล่นร่วมทีมเดียวกับผม พวกเขารู้ว่าผมไม่ชอบยิงลูกโทษเพราะผมไม่อยากทำให้ผู้คนผิดหวังหากว่าผมพลาด เป๊ป ใส่ชื่อผมเป็นคนที่ห้า ผมอยากแสดงความเป็นผู้นำ โชคดีที่มันเข้าประตู และเป็นประตูชัย"
วอล์คเกอร์ เอ่ยถึง โคล พาลเมอร์ ซึ่งโขกตีเสมอให้ทีมตามมาว่า "เขาเยี่ยมมาก เขาได้เรียนรู้จากนักเตะที่ดี และผู้จัดการทีมที่ดีที่สุดในโลก เขาจำเป็นต้องก้าวไปข้างหน้า และติดดินเข้าไว้เหมือนที่เขาทำอยู่ และยิงประตูได้ หากเขาพัฒนา เขาก็จะเยี่ยมมาก"
"ทีมชั้นดีต้องฉวยความผิดพลาดของผู้คนได้ เรามีโชคช่วยด้วย และเราทำได้สำเร็จ บรรยากาศเป็นไปอย่างตึงเครียด ทุกคนอ่อนล้า คุณสามารถเห็นได้เลยว่าอากาศร้อน"
"เราเดินทางมาเพื่อคว้าแชมป์ และเป็นความรู้สึกที่ดีที่ ซิตี้ นำมันไปตั้งโชว์ในตู้ได้"