10 มิ.ย. 2023 จะเป็นวันประวัติศาสตร์ของชาวซิติเซ่นส์ ไปตลอดกาล ทั้งวันแรกที่พวกเขาครองเจ้ายุโรปครั้งแรก และเป็นวันที่พวกเขาคว้า3 แชมป์มาครองต่อจากเพื่อนบ้านที่ไม่ค่อยส่งเสียงในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ นับเป็นทีมที่สามในสหราชอาณาจักรที่ครอง 3 แชมป์ ต่อจาก...
กลาสโกว์ เซลติก 1967
แมนฯยูไนเต็ด 1999
แมนฯซิตี้ 2023
หากจะนับรวม "สามแชมป์" ของลิเวอร์พูล 1984 ที่มี "ลีก คัพ" สอดแทรกมาด้วยก็จะขอบคุณมาก 😂
ส่วนทีมที่คว้าสามแชมป์ในยุโรป....มี 10 ครั้ง 8 ทีม
1966/67: Celtic
1971/72: Ajax
1987/88: PSV Eindhoven
1998/99: Manchester United
2008/09: Barcelona
2009/10: Inter
2012/13: Bayern München
2014/15: Barcelona
2019/20: Bayern München
2022/23: Man City
ทีม "สามแชมป์" ล่าสุดมันคือความยอดเยี่ยมของ "เรือใบสีฟ้า" เกิดขึ้นจากทุกมิติของการทำบอลอาชีพ
เงินถึง....โค้ชดี....นักเตะพร้อม...แฟนบอลหนุน
หลักการง่ายๆที่ทีมแชมป์ทุกทีมต้องมี ถ้าไม่มีโอกาสไปถึงตรงนั้นก็เหนื่อยละครับ ยิ่งยุคปัจจุบันการแข่งขันนั้นสูงด้วยแล้ว ปัจจัยสี่ที่กล่าวมาจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีให้ครบ
ขาดข้อไหนไป...หมายถึงเส้นทางสู่เส้นชัยก็จะทอดไกลกว่าเดิม
ประเด็นเบื้องลึก แมนเชสเตอร์ เดอะ เทรเบิล หรือ สามแชมป์นั้น ก็คงต้องยกเครดิตให้กับทุกฝ่ายที่เกียวข้องแล้วเป็นปัจจัยในการนำพวกเขาสู่ความสำเร็จในแบบที่ยิ่งกลายเป็นเพื่อนบ้านเสียงดังหนักขึ้นกว่าเดิม...คงหนีไม่พ้นปัจจัย 4 ดังที่กล่าวมาแล้ว
1 เงินถึง...พึ่งได้
นับจากอาบูดาบี ยูไนเต็ด กรุ๊ป เข้ามาเทก โอเวอร์ ทีมแมนฯซิตี้ต่อจากคุณ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีสยามประเทศเมื่อ 1 ก.ย. 2008 พวกเขามีเป้าหมายชัดเจนในการพัฒนา แมนฯซิตี เพื่อให้ก้าวไปสู่ทีมชั้นนำของประเทศ จากนั้นเป็นสโมสรระดับโลก
โรด แมพ ของ อาบูดาบี ยูไนเต็ด กรุ๊ป ได้เขียนไว้ตั้งแต่ต้นด้วยเพราะพวกเขาเชื่อมั่นในการลงทุนครั้งสำคัญกับทีมกีฬา
เฉพาะ...ช่วงเวลาที่เป๊ป รับงานมีการประเมินสรุปตัวเลขการซื้อนักเตะมาเสริมทีมเพื่อศักยภาพของทีมสูงถึง £1,240 ล้าน หรือประมาณ 52,080 ล้านบาทในการนำนักเตะมาเสริมทีมนับจากปี 2016-17 โดยไม่รวมที่ย้ายมาก่อนปี 2016 และนับเฉพาะนักเตะที่ดึงเพื่อมาเล่นกับทีมชุดใหญ่เท่านั้น (ไม่รวมเด็กเยาวชน) จำนวนทั้งสิ้น 32 คน
แยกตามตำแหน่งดังนี้...
ผู้รักษาประตู 4
กองหลัง 11
กองกลาง 9
กองหน้า 8
ที่น่าสนใจคือนับจาก ชีค มานซูร์ เจ้าของทีมได้เข้าชมเกมที่แมนฯซิตี้ ลงสนามแข่งขันแค่ 2 เกมในรอบ 13 ปี
เกมแรก ยูฟา คัพ รอบคัดเลือกที่หมู่เกาะ แฟโร และเกมที่สองคือนัดชิงชนะเลิศเมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา...คืนที่ แมนฯซิตี้ เป็นเจ้ายุโรปสมัยแรกและคว้า "สามแชมป์" สุดยิ่งใหญ่
2 เป๊ป...สร้างความยิ่งใหญ่
เป๊ป กวาร์ดิโอล่า โค้ชอัจฉริยะที่มีแพสชั่นกับฟุตบอลล้นเหลือ มีแง่มุมแทกติกมากมาย และหลากหลาย จนถูกมองว่าคิดมาก คิดเยอะ และซับซ้อน แต่เป้าหมายของเขาคือต้องการทำทีมออกมาให้สมบูรณ์แบบที่สุดในทีมที่ เพรสซิงและพาสซิง และทีมที่นักเตะ 20 คนสามารถเข้าใจไอเดียในการเล่นฟุตบอลของเขา ไม่ใช่แค่ 11 คนแรกเท่านั้น
เขาสามารถโรเตชั่นนักเตะใช้งานได้อย่างราบรื่น..นักเตะเล่นเยอะก็พัก, นักเตะเจ็บหรือแบน มีตัวแทน, นักเตะฟอร์มตก มีตัวพร้อมลงเล่น นักเตะตัวหลัก คีย์แมน ไม่ยิง มีตัวยิงแทนให้
ทว่า...ทีมของเขามีนักเตะพร้อมใช้งานเมื่อทีมต้องการ
อย่างเกมนัดชิงชนะเลิศ เขาไม่ได้ส่ง ไคล วอล์คเกอร์ ซึ่งไม่พร้อม สามแนวรับจึงเป็น อาคานยี, ดิอาส, อาเก โดย สโตน ไปเล่นกองกลางกับ โรดริ และด้านข้าง ซิลวา , กรีลิช โดยมี กุนโดกัน และ เดอ บรอยน์ เป็นสองกองกลางตัวรุก และหน้าเป้า ฮาลันด์ คนเดียว
ส่วนอินเตอร์ ซิโมเน อินซากี เล่น 3-5-2 นำโดย
โอนานา ; ดาร์เมียน, อแชรบี, บาสโตนี ; ดุมฟรีส์, บาเรลลา, โบรโซวิช,ชัลฮาโนกลู, ดิมาร์โก ; เชโก, ลา มาร์ติเนส
เหมือนจัดมาตั้งรับ...แต่เปล่าเลย ทีม อินซากี เพรสทั้งแดนบน โดยเฉพาะแดนสองเพรสหนักจน กุนโดกัน, เดอ บรอยร์ (เจ็บและโดนเปลี่ยนออก น.35) โรดริโก ที่เล่นบอลไม่ได้เลย เล่นไม่ถนัด ไม่สามารถครองบอลจนถึงแนวรุกได้
ขณะที่ วิงแบ๊กสองข้าง ดิ มาร์โก และ ดุมฟรีส์ จัดการตัวริมเส้นของซิตี้อยู่หมัดทั้ง กรีลิช และ ซิลวา เรียกว่าเล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐานดังนั้น บอลจึงไม่ค่อยถึง ฮาลันด์ มากนัก
อย่างไรก็ตาม...เพียงแค่เสี้ยววินาทีที่พวกเขาหลงไปกับการปิดเส้นทาง ฮาลันด์ เท่ากับเปิดพื้นที่ให้ โรดริ ยิงในกรอบโทษอย่างแม่นยำ เป็นประตูตัดสินเกมที่ แม้ อินเตอร์ เองก็มีโอกาสที่ได้ลุ้นประตูตีเสมอ
กระนั้น...เอแดร์ซอน ที่พลาดในคคึ่งแรกกลับมาแก้ตัวได้ในครึ่งหลัง...ลูกเซฟ ลูกากู และ มาร์ติเนส ทำให้ ซิตี คลีน ชีต และทำให้ประตูของ โรดริโก คือลูกตัดสินเจ้ายุโรป จากเกมที่ซิตี ต่ำกว่ามาตรฐาน...
กระนั้น...ในวันที่พวกเขาเล่นได้ไม่ดีเหมือนที่เคย นั่นอาจเป็นนัดชิงชนะเลิศ เกมยาก คู่แข่งทำการบ้านมาดีมาก แต่พวกเขายังมีทีเด็ดในการตัดสินเกมให้ชนะได้ โดยเฉพาะนี่คือถ้วยสำคัญ
ยกเครดิต ให้ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า อย่างไม่ต้องสงสัย
3นักเตะพร้อม
นักเตะของเป๊ป ที่ได้มาหลังจากเขาคุมทีม เมื่อ ก.ค. 2016 ที่ยังอยู่ในทีมชุด "สามแชมป์" กุนโดกัน, เอแดร์ซอน, สโตน, แบร์นาโด ซิลวา, ดิอาส, อาเก, กรีลิช, ฮาลันด์ , โฟเดน , อาคานยี
นั่นหมายความว่า....มีเพียง เควิน เดอ บรอยน์ คนเดียวเท่านั้นที่ เป๊ป ไม่ได้ซื้อ เพราะอยู่กับทีมปี 2015 ยุค เปเยกรินี ดังนั้นทีมทั้งหมดที่ได้สามแชมป์ในปีนี้คือทีมที่เขาได้สร้างมากับมือล้วนๆ มีผลงานเข้าระบบกันทุกคน อาจไม่ได้มาตรฐานที่สูงเหมือนที่เคยเห็น เพราะนี่คือนัดชิงชนะเลิศ และอินเตอร์ วางแทกติกมาแล้วใช้ได้ผล แต่สิ่งที่เห็นชัดคือ นักเตะทุกคนพร้อมช่วยทีมได้ในสถานการณ์ที่คับขันและกดดัน
เป๊ป ทำให้นักเตะของเขาทุกคน "พร้อม" ทั้งร่างกายและจิตใจ ที่สำคัญ ทุกคน"พร้อม" เป็นฮีโรของทีมได้เช่นกัน
4 แฟนบอลเสียงดัง
แฟนบอลเรือใบสีฟ้า มักโดนค่อนขอด แม้กระทั่งจากเป๊ป กวาร์ดิโอล่า ในบางเกม บางแมตช์ แฟนบอลไม่เต็มความจุ โดยเฉพาะนัดบอลสโมสรยุโรป กระนั้นสิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับมันคือการที่ เซอร์ อเลกส์ เฟอร์กูสัน ใช้วาทะกระแทกใจแฟนเรือใบสีฟ้าว่า "เพื่อนบ้านเสียงดัง" หลังจากท่านชีค มานซุร์มาซื้อทีม
จะว่าไปพวกเขาคือทีมเก่าแก่ที่เคยมีฐานที่มั่นกลางเมืองละแวกเมนโรด ถึงวันนี้ออกมาจากใจกลางเมืองเล็กน้อยแต่ก็เป็นอาณาบริเวณของพวกเขาเองที่มีทั้ง เอติฮัด , ศูนย์ฝึกซ้อมมูลค่าหลักพันล้านบาทที่อยู่ในพื้นที่ใกล้กัน
ในซีซั่นที่ผ่านมา...แฟนๆเรือใบต่างเข้ามาเชียร์ฟุตบอลกันอย่างคึกคัก ลบภาพของคำว่า emtyhad ลงจนหมดสิ้น
แฟนบอลแมนฯซิตี้ เข้ามาเชียร์ในบ้านโดยค่าเฉลี่ย 53,249คน ยอดแฟนบอลเฉลี่ยห้าหมื่นคน...เสียงดังฟังชัดๆ ลอยไปถึงชานเมืองย่านแทรฟฟอร์ด อย่างไม่ต้องสงสัย
ปัจจัย4 แบบภาพกว้างๆ ที่ส่งผลต่อความสำเร็จครั้งประวัติศาสตร์ของฟุตบอลอังกฤษในการคว้า “สามแชมป์” เฉกเช่นเดียวกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และเซลติก
เมื่อดูผลงานตลอด 10 ปีที่ผ่านมา พวกเขาเป็นทีมอันดับหนึ่งของเกาะอังกฤษที่คว้าแชมป์อย่างต่อเนื่องได้ทุกแชมป์ในประเทศ
จนปีนี้พวกเขาคือทีมอันดับหนึ่งของทวีป…โดยปราศจากข้อโต้แย้งอย่างสิ้นเชิง
JACKIE