เหลืองแดงว่อน-ไล่ "ทูเคิ่ล"! แมนซิตี้ บุกเจ๊าเดือดบาเยิร์น รวมลิ่วตัดเชือกชน เรอัล มาดริด

เหลืองแดงว่อน-ไล่ "ทูเคิ่ล"! แมนซิตี้ บุกเจ๊าเดือดบาเยิร์น รวมลิ่วตัดเชือกชน เรอัล มาดริด
เจ๊าเดือด-เหลืองแดงว่อนไล่ "ทูเคิ่ล"! บาเยิร์น มิวนิค ทำได้แค่ไล่เจ๊า แมนฯ ซิตี้ ในบ้าน 1-1 ฮาลันด์ ซัดขึ้นนำก่อนที่ท้ายเกม คิมมิช จะซัดจุดโทษให้เจ้าถิ่นไล่ตีเสมอ แต่ไม่เพียงพอหลังสกอร์รวมเป็น "เรือใบสีฟ้า" ผ่านเข้าไปเล่นในรอบรองชนะเลิศ ด้วยประตูรวม 4-1 โดยเข้าไปพบกับ เรอัล มาดริด ซึ่งจะดวลกันนัดแรกช่วงวันที่ 9-10 พ.ค.นี้ ส่วนทัพ "เสือใต้" ร่วงรอบ 8 ทีมสุดท้าย 3 ปีติด

ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดสอง เมื่อวันพุธที่ 19 เมษายนที่ผ่านมา เจ้าถิ่น บาเยิร์น มิวนิค เปิด อัลลิอันซ์ อารีน่า รับการมาเยือนของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งนัดแรกทัพ "เรือใบสีฟ้า" จัดการถล่มมาขาดลอย 3-0

เกมนี้ โธมัส ทูเคิ่ล กุนซือ "เสือใต้" ไม่มีทางเลือกต้องเปิดเกมรุกเข้าใส่หวังทวงประตูให้ได้เร็วที่สุดโดยได้ เอริก ชูโป-โมติง ผ่านความฟิตลงสนามล่าตาข่ายร่วมกับ เลรอย ซาเน่, จามาล มูเซียล่า และ คิงส์เลย์ โกมัน พร้อมได้ ซาดิโอ มาเน่ พ้นโทษแบนของสโมสรหลังมีเรื่องทะเลาะกับ ซาเน่ เป็นตัวสำรองที่ข้างสนาม

ส่วนทาง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า นายใหญ่ "เรือใบ" ตุนสกอร์ไว้ถึง 3 เม็ด แต่เกมนี้ไม่ประมาทจัพแนวรุกสุดโหดทั้ง แบร์นาร์โด้ ซิลวา, อิลคาย กุนโดกัน, เควิน เดอ บรออยน์, แจ็ค กรีลิช โดยทิ้ง เออร์ลิง ฮาลันด์ กระซวกตาข่ายเหมือนเดิม

เริ่มเกมครึ่งแรกมา "เสือใต้" เปิดฉากพุ่งเข้าใส่ทัพเรือใบทันทีแต่รูปเกมยังหาจังหวะโอกาสยิงได้ชนิดจะแจ้งไม่มีเลย

ต้องรอถึงนาที 15 กลายเป็น "ซิตี้" ที่ได้เสียวจังหวะที่ เดอ บรออยน์ ครอสจากด้านข้างมาในกรอบ 6 หลาบอลกำลังถึง กุนโดกัน พุ่งชาร์จแล้วแต่ ยานน์ ซอมเมอร์ ยังอ่านขาดออกมาตะครุบไว้ได้ทัน

นาที 17 บาเยิร์น ทิ้งโอกาสทองขึ้นนำอย่างน่าเสียดาย หลัง มูเซียล่า ได้บอลตรงกลางแล้วแทงให้ ซาเน่ หลุดเดี่ยวเข้าไปแต่พยายามยิงหนี เอแดร์ซอน มากไปทำให้บอลหลุดกรอบออกไป

อีกนาทีถัดมา ดาโยต์ อูปาเมกาโน่ ไปฟาวล์ใส่ ฮาลันด์ จังหวะหลุดเดี่ยวเข้าไป ก่อนควักใบแดงไล่ออก อูปาเมกาโน่ โดยตรง กระนั้นหลังเช็กจาก วีเออาร์ แล้วเป็น ฮาลันด์ ที่อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าก่อนทำให้เชิ้ตดำกลับคำตัดสินริบใบแดง 

เกมเริ่มเดือดเริ่มระอุขึ้นหลัง นาที 21 อาเก้ ไปฟาวล์ใส่ โกมัน อย่างน่าเกลียดจนแข้งเสือใต้ไม่พอใจแต่ไม่มีเหตุการณ์บานปลาย และจากจังหวะต่อมา เลรอย ซาเน่ กดฟรีคิกด้วยซ้ายบอลพุ่งแรงเกือบเสียบเสาแรกแต่ยังดีที่ เอแดร์ซอน พุ่งไปออกไป

นาที 36 แมนซิตี้ มาได้ลูกที่จุดโทษหลัง กุนโดกัน ซัดไปโดนแขนของ อูปาเมกาโน่ ผู้ตัดสินเป่าให้จุดโทษแก่ทีมเยือนทันทีพร้อมใบเหลืองของ อูปาเมกาโน่ ทว่า เออร์ลิง ฮาลันด์ ดันซัดเหินคานออกไปทำให้เจ้าบ้านยังไม่เสียประตูสกอร์ยัง 0-0 เหมือนเดิม

ท้ายครึ่งแรก นาที 42 บาเยิร์น ได้ลุ้นหลัง ซาเน่ ดีดให้ โกมัน หลุดไปซัดด้วยซ้าย เสาแรกแต่บอลพุ่งไปตรงตัว เอแดร์ซอน ที่เซฟออกมาได้ 

ก่อนช่วงทดเจ็บ นาที 45+1 มูเซียล่า ที่ไม่มีมุมยิงม้วนกลับมาแล้วจ่ายคืนให้ เอริก ชูโป-โมติง ซัดไปติดบล็อค บอลไปเข้าทาง โกมัน ซ้ำอีกทีแต่ก็โดนแข้งซิตี้ขวางเอาไว้ได้อีก 

ก่อนอีกนาทีถัดมีเหตุให้ชุลมุนให้ผู้ตัดสินต้องแจกใบเหลืองอีกหลัง คิมมิช ไปเตะบอลอัดใส่ กุนโดกัน จนกัปตันเรือใบสีฟ้าไม่พอใจต้องมีปากเสียงทำให้เชิ้ตดำจะแจกไปคนละเหลืองทำให้ยอดสะสมใบเหลืองครึ่งแรกมากถึง 6 ใบไปแล้ว ก่อนที่ครึ่งแรกจะจบแบบไร้สกอร์ 0-0

นาที 55 บอลสวนกลับของ แมนซิตี้ เกือบได้ผลหลัง กรีลิช ได้บอลแล้วแทงให้ ฮาลันด์ ไม่ล้ำหน้าหลุดเข้าไปซัดเสาแรกแต่ไปตรงตัวเข้ามือ ยานน์ ซอมเมอร์ รับไว้ไม่กระฉอก นับเป็นโอกาสยิงตรงกรอบหนแรกของเรือใบสีฟ้าในเกมนี้

นาที 57 บาเยิร์น เกือบได้ลุ้นขึ้นนำหลัง โกมัน กระชากถึงเส้นหลังแล้วซัดผ่าน เอแดร์ซอน ไปแล้วแต่บอลหลุดไปทางเสาไกล ก่อนที่ จอห์น สโตนส์ จะเคลียร์สาดบอลโด่งยาวมาให้ ฮาลันด์ โขกตั้งให้ เดอ บรอนย์ ก่อนที่จอมแอสซิตส์จะแทงบอลสุดสวยให้ ฮาลันด์ ดวลกับ อูปาเมกาโน่ แล้วโยกหลอกจนเสียคนก่อนเข้าไปซัดผ่าน ซอมเมอร์ ตุงตาข่ายให้ แมนซิตี้ บุกมานำ 1-0 สกอร์รวม 4-0

นาที 63 ทูเคิ่ล แก้เกมด้วยการส่ง ซาดิโอ มาเน่ และ อัลฟองโซ่ เดวี่ส์ ลงไปเล่นแทน เลรอย ซาเน่ และชูเอา กานเซโล่

อีกสามนาทีถัดมา เป๊ป เปลี่ยนตัวเช่นกันหลัง นาธาน อาเก้ มีอาการเจ็บต้องให้ อายเมอริค ลาปอร์กต์ ลงเล่นแทน

นาที 67 เจ้าบ้านได้โอกาสลุ้นอีกคร้งหลัง จามาล มูเซียล่า ไหลให้ เอริก ชูโป-โมติง ซัดด้วยขวาแต่ก็ยังไม่ผ่านมือ เอแดร์ซอน ก่อนเป็นโอกาสสุดท้ายในสนามหลังโดนเปลี่ยนตัวออกในนาที 71 แล้วให้ มาธีส เทล ลงมาเล่นแทนเช่นเดียวกับ โธมัส มุลเลอร์ ลงมาเล่นแทน จามาล มูเซียล่า

นาที 76 โกมัน หลุดเข้าไปแม้จะลื่นล้มแต่ซัดไปติดเซฟของ เอแดร์ซอน บอลมาเข้าทาง มาธีส เทล ซ้ำเข้าไปตุงตาข่าย ทว่าต้องดีใจเก้อหลังผู้ตัดสินเป่าเป็นจังหวะล้ำหน้าของ คิงส์เลย์ โกมัน

นาที 81 บาเยิร์น มิวนิค มาได้ลูกที่จุดโทษหลังบอลไปโดนแขน มานูเอล อคานจี ก่อนที่ วีเออาร์ จะยืนยันให้จุดโทษแก่เจ้าบ้าน และเป็น โยชัว คิมมิช ที่ซัดเข้าไปกลางประตูให้ บาเยิร์น มิวนิค ไล่ตีเสมอ แมนฯ ซิตี้ 1-1 สกอร์รวมไล่มา 1-4

นาที 87 โธมัส ทูเคิ่ล ที่ออกมาโวยวายไม่ยอมรับคำตัดสินโดนเหลืองแดงถูกไล่ออกไปชมเกมอัฒจันทร์

จากนั้นไม่มีประตูเพิ่มเติม จบเกม บาเยิร์น มิวนิค ทำได้แค่เสมอกับ แมนฯ ซิตี้ ในบ้าน 1-1 รวมผลสองนัด "เรือใบสีฟ้า"ของ เป๊ป ผ่านเข้าไปเล่นในรอบรองชนะเลิศ ด้วยประตูรวม 4-1 โดยเข้าไปพบกับ เรอัล มาดริด ในช่วงกลางเดือนหน้า ส่วนทัพ "เสือใต้" ร่วงรอบ 8 ทีมสุดท้าย 3 ปีติด 

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

บาเยิร์น มิวนิค (4-2-3-1) : ยานน์ ซอมเมอร์ - เบนฌาแม็ง ปาวาร์ (โยซิป สตานิซิช น.77), ดาโยต์ อูปาเมกาโน่, มาไตจ์ส เดอ ลิกต์, ชูเอา กานเซโล่ (อัลฟองโซ่ เดวี่ส์ น.63) - โยชัว คิมมิช, เลออน โกเร็ตซ์ก้า - เลรอย ซาเน่ (ซาดิโอ มาเน่ น.63), จามาล มูเซียล่า (โธมัส มุลเลอร์ น.71), คิงส์เลย์ โกมัน - เอริก ชูโป-โมติง (มาธีส เทล น.71)

แมนฯ ซิตี้ (3-2-4-1) : เอแดร์ซอน โมราเอส - มานูเอล อคานจี, รูเบน ดิอาส, นาธาน อาเก้ (อายเมอริค ลาปอร์กต์ น.67) - จอห์น สโตนส์, โรดรี้ - แบร์นาร์โด้ ซิลวา, อิลคาย กุนโดกัน, เควิน เดอ บรออยน์ (ไคล์ วอล์คเกอร์ น.88), แจ็ค กรีลิช - เออร์ลิง ฮาลันด์ (ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ น.84)


ที่มาของภาพ : gettyimages
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport