ทูเคิ่ล เอฟเฟกต์-มาเน่ แสบ!3เหตุผล บาเยิร์น จะเขี่ย แมนซิตี้ ร่วงชปล.

โธมัส ทูเคิ่ล เทรนเนอร์ บาเยิร์น มิวนิค มหาอำนาจลูกหนัง บุนเดสลีกา เยอรมัน จะนำทัพ "เสือใต้" ออกไปเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดแรก ที่สนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม คืนวันอังคารที่ 11 เมษายนนี้ (02.00 น. ตามเวลาประเทศไทย) 

ทูเคิ่ล เพิ่งเข้ามาคุม บาเยิร์น ต่อจาก ยูเลียน นาเกิลส์มันน์ ช่วงปลายเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา และนี่จะเป็นอีกครั้งที่กุนซือชาวเยอรมัน ได้โคจรมาเจอ แมนฯ ซิตี้ หลังเคยดวลกันมาแล้วใน พรีเมียร์ลีก สมัยที่เจ้าตัวคุม เชลซี 

เกม แมนฯ ซิตี้ พบ บาเยิร์น ถือเป็นหนึ่งในคู่บิ๊กแมตช์ของรอบก่อนรองชนะเลิศถ้วยหูใหญ่ปีนี้ และนี่คือ 3 เหตุผลที่อาจจะช่วยให้ "เสือใต้" เป็นฝ่ายเข้ารอบต่อไป

1. ทูเคิ่ล เอฟเฟกต์

อีกหนึ่งไฮไลต์ของเกมนี้คือการโคจรมาปะทะกันอีกครั้งระหว่าง เป็ป กวาร์ดิโอล่า นายใหญ่ "เรือใบสีฟ้า" ชาวสแปนิช กับ ทูเคิ่ล 

ทูเคิ่ล เคยสร้างความเจ็บแสบให้กับ เป็ป มาแล้ว สมัยที่เทรนเนอร์ชาวเยอรมัน ยังคุม เชลซี เจอ แมนฯ ซิตี้ ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาล 2020/21 รอบชิงชนะเลิศ 

เกมนั้นจบลงด้วยการที่ ทูเคิ่ล นำ "สิงห์บลูส์" เฉือนเอาชนะ 1-0 ส่งผลให้ เป็ป ชวดพา "เรือใบสีฟ้า" คว้าแชมป์ยุโรปสมัยแรกของสโมสรไปอย่างน่าเสียดาย

เป๊ป และ ทูเคิ่ล ดวลฝีมือกันมาแล้ว 10 ครั้ง โดย กวาร์ดิโอล่า พาทีมชนะ 6, เสมอ 1, แพ้ 3 อย่างไรก็ตาม ทั้ง 3 หนที่ ทูเคิ่ล มีชัยเกิดขึ้นแบบติดๆ กันในฤดูกาล 2020/21 

2. มาเน่ ตัวแสบ

ซาดิโอ มาเน่ ปีกทีมชาติเซเนกัล มีสถิติที่ยอดเยี่ยมในเวลาที่เจอกับ แมนฯ ซิตี้ โดยทำได้ 10 ประตูจาก 19 เกม ซึ่งในบรรดานักเตะที่ยังเล่นอยู่ปัจจุบัน มีแค่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ อดีตเพื่อนร่วมทีม ลิเวอร์พูล เท่านั้น ที่ทำประตูได้มากกว่า (11 ประตู จาก 19 เกม)

มาเน่ ย้ายจาก ลิเวอร์พูล มาอยู่กับ บาเยิร์น เมื่อซัมเมอร์ที่แล้ว และทำไป 11 ประตูกับ 4 แอสซิสต์ ก่อนบาดเจ็บหนักที่หัวเข่าจนต้องชวดไปเล่นฟุตบอลโลก 2022

ดาวเตะเซเนกัล เพิ่งกลับมาลงสนามได้เมื่อช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา และยังทำประตูไม่ได้เลยจาก 8 เกม 

นอกจาก มาเน่ แล้วนั้น บาเยิร์น ยังมีแข้งอันตรายอีกหลายรายในแนวรุกทั้ง คิงส์ลี่ย์ โกมัน, ลีรอย ซาเน่, โธมัส มุลเลอร์ และ แซร์จ นาบรี้ รวมทั้งมีคนที่พร้อมเติมเกมขึ้นมาได้น่ากลัวอย่าง จามาล มูเซียล่า, อัลฟอนโซ่ เดวิส, ชูเอา กานเซโล่ และ ลีออน โกเร็ตซ์ก้า เป็นต้น

3. พี่เสือประสบการณ์ล้นเหลือ

บาเยิร์น ครองเจ้ายุโรปมาแล้ว 6 สมัย ขณะที่ แมนฯ ซิตี้ ยังไม่เคยได้เชยชมถ้วยหูใหญ่เลย และเพิ่งได้มาเล่นใน แชมเปี้ยนส์ ลีก ครั้งแรกเมื่อฤดูกาล 2011/12

นอกจากนั้น "เสือใต้" ยังแพ้แค่ 2 ครั้งเท่านั้น จาก 10 เกมหลังสุดเวลาที่ออกไปเยือนสโมสรอังกฤษ ในถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก โดยชนะได้ถึง 6 และเสมอ 2

ขณะที่ผลงานในยุโรปซีซั่นนี้ บาเยิร์น ก็ดูดีกว่า หลังมีสถิติชนะ 100 เปอร์เซ็นต์จาก 8 นัด โดยที่ทำได้ถึง 21 ประตู และเสียแค่ 2 ประตูเท่านั้น

ส่วน แมนฯ ซิตี้ ชนะ 5, เสมอ 3 ทำได้ 22 ประตู, เสีย 3 ประตู โดยฤดูกาลนี้มีแค่ นาโปลี (25) และ เบนฟิก้า (23) ที่ทำประตูได้มากกว่า "เรือใบสีฟ้า" และ "เสือใต้" 

นับตั้งแต่ที่ แมนฯ ซิตี้ มาเล่นรายการนี้ครั้งแรกเมื่อปี 2011 นั้น บาเยิร์น สามารถผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศหรือดีกว่านั้นได้ถึง 7 หน 

หากพูดถึงผลงานและประสบการณ์แค่ในรายการนี้ต้องยกให้ บาเยิร์น ที่เหนือกว่า ขณะที่ แมนฯ ซิตี้ ต้องรอวันปลดล็อกเพื่อไปถึงแชมป์ให้ได้เสียที