เชลซี ไม่น่ารอด, แมนซิตี้ เหนื่อย! วิเคราะห์ศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย

เชลซี ไม่น่ารอด, แมนซิตี้ เหนื่อย! วิเคราะห์ศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย
เชื่อว่าหลายคนคงทราบกันเป็นที่เรียบร้อย สำหรับผลการจับสลากประกบคู่รอบ 8 ทีมสุดท้าย หรือรอบก่อนรองชนะเลิศของศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ประจำฤดูกาล 2022-23 ซึ่งถือว่าน่าสนใจและน่าดูทั้งสี่คู่เลยทีเดียว และนี่คือบทวิเคราะห์แบบคร่าวๆ แบบตื้นๆ ถึงความน่าจะเป็นของแต่ละคู่ ที่จะฟาดแข้งกันช่วงกลางเดือนหน้า มาดูกันสิว่า น่าจะเป็นทีมไหนที่ได้ผ่านเข้าไปลุยต่อในรอบตัดเชือก

- เรอัล มาดริด VS เชลซี

นัดแรก 12 เม.ย., ซานติอาโก เบร์นาเบว

นัดสอง 18 เม.ย., สแตมฟอร์ด บริดจ์ 

เจอกันในรอบน็อกเอาต์ แชมเปี้ยนส์ ลีก ติดต่อกันเป็นฤดูกาลที่สามแล้ว ซึ่งสองครั้งก่อนหน้านี้ผลัดกันเฮผลัดกันน้ำตาร่วง และสุดท้ายฝ่ายที่ได้เฮนั้น สามารถหลุดเข้าไปถึงตำแหน่งแชมป์ด้วย แต่การเจอกันครั้งนี้ ดูแล้วค่อนข้างห่างกันพอสมควร แน่นอนว่า ฟุตบอลอะไรก็เกิดขึ้นได้ แต่ดูแล้วแชมป์เก่าอย่าง "ราชันชุดขาว" เขี้ยวกว่ามาก โดยเฉพาะชื่อชั้นของกุนซือระหว่าง คาร์โล อันเชลอตติ ที่คว้าแชมป์รายการนี้ในฐานะโค้ชมาแล้วถึง 4 ครั้ง กับ แกรม พ็อตเตอร์ ที่ยังใหม่มากๆ กับถ้วยนี้ หนทางเดียวที่ "สิงห์บลูส์" จะมีโอกาสเข้ารอบตัดเชือกคือ ต้องพยายามได้ผลการแข่งขันที่ดี หรืออย่างน้อยไม่แพ้ในเกมแรก ซึ่งจะต้องออกไปเยือนที่บ้านของ เรอัล มาดริด ก่อน 

โอกาสเข้ารอบ : เรอัล มาดริด 65% เชลซี 35%  

- เบนฟิก้า VS อินเตอร์ มิลาน

นัดแรก 11 เม.ย., เอสตาดิโอ ดา ลุซ

นัดสอง 19 เม.ย., ซาน ซิโร่

รอบที่แล้ว อินเตอร์ ผ่าน ปอร์โต้ มาได้แบบหวุดหวิดจวนเจียน มารอบนี้ก็ยังต้องเจอกับของแข็งจากโปรตุเกส แถมดูเหมือนจะแข็งกว่าเดิมด้วย เพราะ เบนฟิก้า ของกุนซือ โรเจอร์ ชมิดท์ มาดีมากๆ ในฤดูกาลนี้ แถมมีเกมรุกที่ไม่ธรรมดา โดยกระหน่ำไปแล้วถึง 23 ประตู ซึ่งมากสุดอันดับสองของทัวร์นาเมนต์ (รองแค่ นาโปลี ที่ทำ 25 ประตู) เลยทีเดียว ดังนั้นหากเกมแรก "เหยี่ยวลิสบอน" คว้าชัยแบบสวยๆ ได้ก่อน ก็มีโอกาสสูงที่จะผ่านเข้ารอบตัดเชือก แต่ถ้าหากทำได้แค่เสมอหรือแพ้ (แบบสกอร์ไม่ขาด) พวกเขาก็มีดีพอที่จะบุกไปยิง อินเตอร์ ถึงบ้านเช่นกัน เพราะฉะนั้น "งูใหญ่" ของกุนซือ ซิโมเน่ อินซากี้ มีโอกาสเสร็จง่ายๆ หากมัวแต่เล่นเกมรับ 

โอกาสเข้ารอบ : เบนฟิก้า 55% อินเตอร์ 45%  

- แมนเชสเตอร์ ซิตี้ VS บาเยิร์น มิวนิค

นัดแรก 11 เม.ย., เอติฮัด สเตเดี้ยม

นัดสอง 19 เม.ย., อัลลิอันซ์ อารีน่า 

ถือเป็นคู่เอกประจำรอบนี้เลยก็ว่าได้ ถึงแม้ "เรือใบสีฟ้า" ของยอดกุนซือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ถูกมองเป็นเต็งหนึ่งที่จะคว้าแชมป์ แต่การเจอกับ บาเยิร์น นั้น ถือเป็นงานสุดหินเลยทีเดียว เพราะต่อให้ "เสือใต้" มีผลงานขึ้นๆ ลงๆ ในลีก แต่มาตรฐานของพวกเขาในถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก สูงส่งเสมอ และมักจะยกระดับฟอร์มการเล่นขึ้นมาได้ตลอดยามลงเตะรายการนี้ จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่ บาเยิร์น เป็นเพียงทีมเดียวของทัวร์นาเมนต์ ที่มีสถิติชนะแบบ 100% (เฮทั้ง 8 นัด) ทั้งที่ตลอดเส้นทางเจอของแข็งอย่าง บาร์เซโลน่า, อินเตอร์ มิลาน และล่าสุด ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ต้องยอมรับว่า เป็นคู่ที่ฟันธงยากจริงๆ แต่ถ้าให้เลือกก็คงจะเป็น แมนฯ ซิตี้ ที่ดูมีโอกาสมากกว่านิดๆ เพราะยามที่พวกเขาเล่นได้ท็อปฟอร์ม มันก็ยากที่ใครจะต้านทานได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแดนหน้าที่มีเครื่องจักรถล่มประตูิอย่าง เออร์ลิง ฮาลันด์ ซึ่งกดไปแล้ว 10 ตุงในรายการนี้ แต่ทางฝั่งทีมของกุนซือ ยูเลียน นาเกิลส์มันน์ ก็มีพลังเกมรุกที่น่ากลัวไม่น้อย เพราะทำประตูกันได้หลายคน คู่นี้รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ มีความสำคัญมาก และสามารถชี้ขาดผลแพ้-ชนะได้เลย 

โอกาสเข้ารอบ : แมนฯ ซิตี้ 51% บาเยิร์น 49%  

- เอซี มิลาน VS นาโปลี

นัดแรก 12 เม.ย., ซาน ซิโร่ 

นัดสอง 18 เม.ย., สตาดิโอ ดีเอโก้ อาร์มันโด้ มาราโดน่า 

น่าสนใจไม่น้อยสำหรับคู่นี้ ถือเป็นศึกสายเลือดที่เป็นการดวลกันของสองสโมสรจากอิตาลี โดย สเตฟาโน่ ปิโอลี่ นายใหญ่ มิลาน ประกาศกร้าวว่า นาโปลี อาจทำได้ดีกว่าในลีก แต่ใน แชมเปี้ยนส์ ลีก ถือเป็นอีกเรื่อง ซึ่งมันก็จริง!!! แต่ก็ต้องยอมรับว่า ชั่วโมงนี้ นาโปลี มาดีจริงๆ และทำได้เยี่ยมทั้งสองรายการ โดยเฉพาะเกมรุกที่จัดจ้านมากๆ นำโดยสองดาวเด่นอย่าง วิคเตอร์ โอซิมเฮน และ ควิชา ควารัตสเคเลีย ดังนั้น มิลาน จำเป็นต้องได้ผลการแข่งขันนัดแรกในบ้านตัวเองที่ดีมากๆ หากหวังเข้ารอบต่อไป แต่ดูแล้วมีโอกาสไม่น้อยที่ทีมของกุนซือ ลูชาโน่ สปัลเล็ตติ จะเก็บ มิลาน ได้ทั้งสองนัด 

โอกาสเข้ารอบ : มิลาน 40% นาโปลี 60%  

Subinho


ที่มาของภาพ : gettyimages
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport