เจมี่ คาร์ราเกอร์ เหน็บ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ภายหลัง ลิเวอร์พูล เพิ่งพาย เรอัล มาดริด คารัง แอนฟิลด์ พร้อมบอกว่าเกมรับของ "หงส์แดง" ในซีซั่นนี้ทำผลงานได้แย่อย่างต่อเนื่อง
เจมี่ คาร์ราเกอร์ ตำนานกองหลังของ ลิเวอร์พูล จิกกัด เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ว่าถ้าเป็นตอนนี้ตนคงจะแย่งตำแหน่งตัวจริงมาจากอีกฝ่ายได้ พร้อมบอกว่าอดีตทีมของตนขาดตัวเลือกในแนวรับที่ดี หลังจากล่าสุด "หงส์แดง" แพ้ เรอัล มาดริด 2-5 คารัง แอนฟิลด์ ในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก เมื่อวันอังคารที่ 21 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
ซีซั่นนี้ ลิเวอร์พูล เสียประตูหลายลูกจนทำให้หลายคนตั้งข้อสงสัยว่าอะไรเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกมรับของพวกเขาแย่ลง โดยนัดล่าสุดนั้น เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ กับ โจ โกเมซ ถูกเลือกให้เป็นคู่เซนเตอร์แบ็กตัวจริง แต่ทั้ง 2 คนกลับทำได้ไม่ดีพอในการรับมือกับแนวรุกของ "ราชันชุดขาว"
คาร์ราเกอร์ กล่าวว่า "สิ่งที่น่าหัวเราะสำหรับผมก็คือเมื่อราว 2 เดือนก่อน เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ เคยบอกว่าผมคงไม่มีทางเป็นตัวจริงในแผงแบ็กโฟร์ชุดนี้ได้ (ฟาน ไดค์ เคยพูดเมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาว่าถ้า คาร์ราเกอร์ เล่นฟุตบอลในสมัยนี้ เขาก็ไม่น่าจะดีพอที่จะเป็นตัวเลือกของทีมได้) คือที่จริงผมไม่ได้คิดมากกับคำพูดนั้นหรอกนะ แต่ผมคิดว่าถ้าเป็นตอนนี้น่ะผมคงจะแย่งตำแหน่งมาจากเขาได้แน่ๆ!"
"นักเตะบางคนที่ลงเล่นในวันนี้ อย่างเช่น โจ โกเมซ น่ะนะ...คือผมเข้าใจแหละว่าคนเป็นนักฟุตบอลต่างก็มีโอกาสที่จะเจอคืนที่แย่ๆ ได้ทั้งนั้น และบางทีเราก็อาจจะไม่ควรซ้ำเติมใครก็ตามในตอนที่พวกเขาล้ม เพราะผมมั่นใจว่าตอนนี้เขาต้องรู้สึกแย่มากแน่ๆ แต่ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมาเราเอาแต่พูดกันว่า ลิเวอร์พูล ต้องการนักเตะในตำแหน่งกองกลาง ซึ่งนั่นเป็นมุมองที่ถูก อย่างไรก็ตาม ในขณะเดียวกันผมก็คิดว่า ลิเวอร์พูล ต้องการกองหลังเหมือนกัน เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่พวกเขาโดนเล่นงานแล้วน่ะพวกเขาก็ไม่สามารถป้องกันอีกฝ่ายได้เลย"
คาร์ราเกอร์ บอกด้วยว่าเกมนี้เป็นการพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าที่จริง ลิเวอร์พูล ไม่ได้กลับมาแล้วเหมือนอย่างที่หลายคนคิด พร้อมตำหนิแนวรับที่ทำผลงานได้แย่อย่างต่อเนื่องในซีซั่นนี้ "การที่พูดกันว่า ลิเวอร์พูล กลับมาแล้วในช่วง 2 เกมก่อนหน้านี้มันเป็นเรื่องที่ไร้สาระมากๆ และนั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมรู้สึกไม่มั่นใจเท่าไหร่ (ว่า ลิเวอร์พูล จะชนะ) ก่อนที่เกมนี้จะเริ่มขึ้น"
"เกมกับ เอฟเวอร์ตัน พวกเขาเจอกับหนึ่งในทีมที่เล่นได้แย่ที่สุดในเกมดาร์บี้แมตช์ เพราะว่า เอฟเวอร์ตัน ไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย ส่วนเกมกับ นิวคาสเซิ่ล ผมก็อยู่ในสนามเหมือนกัน ขนาดวันนั้น นิวคาสเซิ่ล เหลือผู้เล่นแค่ 10 คนน่ะพวกขเายังสร้างโอกาสทำประตูได้ตั้งหลายครั้ง ผมเชื่อเลยว่าถ้าเกิดวันนั้นพวกเขามีนักเตะอยู่ในสนาม 11 คนแล้วล่ะก็ พวกเขาก็คงจะไล่ตีเสมอเป็น 2-2 ได้แน่ๆ"
"ตลอดทั้งฤดูกาลนี้ ลิเวอร์พูล มีเกมรับที่ย่ำแย่มากๆ นี่คือทีมที่มีสถิติเกมรับที่ยอดเยี่ยมเมื่อฤดูกาลก่อนเชียวนะ แน่นอนว่าแผงกลางน่ะไม่มีเรี่ยวแรงเหมือนสมัยก่อนแล้ว นักเตะในแนวรุกไม่ได้ไล่กดดันคู่แข่งเหมือนแต่ก่อนหรือไม่ก็ยังขาดการประสานงานกันที่ดี พวกเขาเคยมี ฟีร์มีโน่ หรือ มาเน่ คอยอยู่ในแดนหน้า แต่ตอนนี้ต้องมาเริ่มกันใหม่กับ นูนเญซ และ กัคโป"
"อย่างไรก็ตาม เกมรับของ ลิเวอร์พูล ในตอนนี้กลับไม่สามารถรับมือกับคู่แข่งได้ทั้งที่ตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมาตัวเลือกในแนวรับบางคนของพวกเขาน่ะได้รับการยกย่องว่าเป็นนักเตะที่เก่งที่สุดของโลก"
"ตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมาพวกเขามีแนวรุก 6 คนที่อาจจะทำงานกันหนักกว่าและฉลาดกว่าทุกทีมในโลก แต่ตอนนี้พอจุดนั้นหายไปแล้วน่ะทุกอย่างก็พังทลายไม่เป็นชิ้นดี"
"คือถ้าจะบอกว่าเราเอาแต่หาคำแก้ตัวมันก็อาจจะเป็นคำพูดที่ไม่ถูกต้องล่ะนะ แต่ในฐานะแฟนบอล ลิเวอร์พูล แล้วน่ะเรารักผู้จัดการทีมคนนี้และรักทีมนี้มากๆ พวกเขาทำหลายอย่างเพื่อสโมสรมาตลอดช่วง 4 หรือ 5 ปีหลังสุด ดังนั้นมันเลยรู้สึกเจ็บปวดเมื่อต้องพูดแย่ๆ เกี่ยวกับพวกเขา เพราะพวกเขาทำหลายอย่างให้กับคุณ แต่ตอนนี้ ลิเวอร์พูล เป็นที่ 8 ใน พรีเมียร์ลีก และพวกเขาเพิ่งแพ้ 2-5 ใน แชมเปี้ยนส์ ลีก"
"ผมรู้ดีว่าคู่แข่งของพวกเขาคือ เรอัล มาดริด แต่นี่คือคู่ชิงชนะเลิศของฤดูกาลก่อนเชียวนะ สิ่งที่เรากำลังเห็นในฤดูกาลนี้เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ และเราก็เอาแต่หาเหตุผลรวมถึงข้ออ้างมาโดยตลอด แต่ผลงานมันไม่ใกล้เคียงกับคำว่าดีพอเลย"