"ราชันชุดขาว" แกร่งเกินต้านแม้ 14 นาทีแรกตามหลังถึงสองประตูแต่ไม่มีปัญหาได้ วินิซิอุส, เบนเซม่า เหมาคนละ 2 ตุงพาทีมกระหน่ำรัวแซง "หงส์แดง" รวดเดียว 5-2 กุมความได้เปรียบใน ยกแรก ก่อนมีคิวเปิด ซานดิอาโก้ เบร์นาเบว ชี้ชะตาเข้ารอบวันที่ 15 มีนาคมนี้ ในศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก คืนวันอังคารที่ผ่านมา
สนาม : แอนฟิลด์, ลิเวอร์พูล
ลิเวอร์พูล ภายใต้การทำทีมของเทรนเนอร์ เจอร์เก้น คล็อปป์ พาทีมผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายด้วยการเป็นอันดับ 2 ของกลุ่ม เอ ส่วนผลงานเกมล่าสุดเอาชนะ นิวคาสเซิ่ล มา 2-0 เป็นคว้าชัย 2 เกมติดในลีก
ทางด้าน เรอัล มาดริด ของเทรนเนอร์ คาร์โล อันเชล็อตติ ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายด้วยการเป็นแชมป์ของกลุ่ม เอฟ โดยเกมล่าสุดบุกไปเอาชนะ โอซาซูน่า มา 2-0 ในลีก คว้าชัยมา 4 นัดรวมทุกรายการ
เปิดฉากครึ่งแรก 4 นาที ลิเวอร์พูล ทะยานออกนำ 1-0 โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เก็บบอลทางริมเส้นฝั่งขวาจี้หาเขตโทษก่อนจ่ายถวายพานมาหน้ากรอบ 6 หลาให้ ดาร์วิน นูนเญซ สอดมาไขว้ผ่าน ติโบต์ กูร์กตัวส์ ตุงตาข่าย
นาทีที่ 12 จากจังหวะสวนกลับ โคดี้ กัคโป ถอยมาเก็บบอลกลางสนามพลิกแหวกขึ้นมาฝากออกขวาให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ พาขยับเข้าเขตโทษได้ช่องซัดยัดเสาแรกหลุดออกหลังน่าผิดหวัง
แต่แล้วนาทีที่ 14 "หงส์แดง" ขยับหนีเป็น 2-0 จากความผิดพลาดของ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ประมาททำบอลโดนเข่าลั่นไปเข้าทาง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เก็บส้มหล่นดีดตามน้ำด้วยซ้ายไม่พลาด
นาทีที่ 21 "ราชันชุดขาว" ตีไข่แตกไล่มา 2-1 วินิซิอุส จูเนียร์ เก็บบอลในเขตโทษฝั่งซ้ายโยกตัดเข้าในได้ช่องปั่นด้วยขวาโค้งหนีบล็อค อลิสซง เบ็คเกอร์ พุ่งผ่านมือซุกหน้าต่างเสาไกลงามหยด
4 นาทีต่อมา เจ้าถิ่น หวิดบวกสกอร์เพิ่ม โมฮาเหม็ด ซาลาห์ สอดมาชาร์จในเขตโทษบอลชุลมุนมาเข้าทาง ดาร์วิน นูนเญซ เกือบได้ซ้ำแต่ยังติด เอแดร์ มิลิเตา ยืนคุมเส้นหวดทิ้งออกมา
30 นาทีผ่าน เรอัล มาดริด เริ่มทำได้ดีกว่า วินิซิอุส จูเนียร์ ล้มตัวปั่นด้วยขวาติดปลายมือ อลิสซง เบ็คเกอร์ ก่อนเป็น เฟเดรีโก้ วัลเวร์เด้ สอดมาตะบันหน้าเขตโทษฝั่งขวาปลิ้นข้ามคาน
นาทีที่ 36 เรอัล มาดริด ไล่ตีเสมอเป็น 2-2 โจ โกเมซ คืนบอลกลับหลังให้ อลิสซง เบ็คเกอร์ แจกคืนบ้างจ่ายพลาดไปติดขา วินิซิอุส จูเนียร์ ที่ขยับมาบีบกดดันเด้งย้อยเข้าประตูเหลือเชื่อ
ต่อมานาทีที่ 45 ลิเวอร์พูล หวิดงานเข้า ติโบต์ กูร์กตัวส์ รับฟรีคิกของ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ฉวยโอกาสออกบอลเร็วมาทางซ้าย เฟเดรีโก้ วัลเวร์เด้ แทงเข้าเขตโทษให ปาดข้ามมาหน้ากรอบ 6 หลาเกือบถึง โรดรีโก้ โกเอส ต้องชม แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ตามมากวาดทิ้งนิดเดียว
หมดครึ่งเวลาแรก ลิเวอร์พูล 2 เรอัล มาดริด 2
นาทีที่ 47 "ราชันชุดขาว" พลิกแซง 3-2 จากจังหวะฟรีคิกทางซ้าย ลูก้า โมดริช อัดยัดมาเสาแรกเข้าหัว เอแดร์ มิลิเตา โฉบมาโขกแบบไร้ตัวประกบตุงตาข่ายชนิดที่ อลิสซง เบ็คเกอร์ ได้แค่ยืนมอง
ต่อมานาทีที่ 53 "หงส์แดง" พลาดได้จุดโทษ ดาร์วิน นูนเญซ ไปโดน ดาเนียล การ์บาฆาล เจตนาผลักร่วงลงไปในเขตโทษแต่ ผู้ตัดสิน ใจแข็งไม่เป่าให้แถมไม่มีสัญณานจาก วีเออาร์
2 นาทีต่อมากลายเป็น เรอัล มาดริด ขยับหนีห่าง 4-2 จากจังหวะทำชิ่งสุดสวยทางฝั่งขวา โรดรีโก้ โกเอส แปะคืนตั้งให้ คาริม เบนเซม่า สอดมาชาร์จในเขตโทษไปแฉลบขา โจ โกเมซ เปลี่ยนทางตุงตาข่าย
นาทีที่ 67 ทีมเยือน รัวห่าง 5-2 คราวนี้เป็น ฟาบินโญ่ เสียบอลกลางสนามโดน ลูก้า โมดริช สอดมาฉกไหลออกซ้ายให้ วินิซิอุส จูเนียร์ ตบเข้าในถึง คาริม เบนเซม่า ดึงหลอก อลิสซง เบ็คเกอร์ ก่อนซัดเข้าไปอย่างเยือกเย็น
ช่วงเวลาที่เหลือแม้เป็น "หงส์แดง" ที่พยายามบุกเข้าใส่ครองบอลมากกว่าแต่เจอปัญหาความมั่นใจเล่นงาน ครึ่งหลัง ได้จบสกอร์เพิ่มแค่ 2 ครั้งแถมตรงกรอบเพียงครั้งเดียว
หลังจากนั้นไม่มีสกอร์เพิ่ม จบเกม ลิเวอร์พูล 2 เรอัล มาดริด 5
รายชื่อนักเตะที่ลงสนาม
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซง เบ็คเกอร์ - เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โจ โกเมซ (โฌแอล มาติป น.73), เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน - จอร์แดน เฮนเดอร์สัน (เจมส์ มิลเนอร์ น.73), ฟาบินโญ่, สเตฟาน บายเซติช (ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ น.85) - โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โคดี้ กัคโป (โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ น.64), ดาร์วิน นูนเญซ (ดิโอโก้ โชต้า น.64)
เทรนเนอร์ : เจอร์เก้น คล็อปป์
เรอัล มาดริด (4-3-3) : ติโบต์ กูร์กตัวส์ - ดาเนียล การ์บาฆาล, เอแดร์ มิลิเตา, อันโตนิโอ รือดิเกอร์, ดาวิด อลาบา - เฟเดรีโก้ วัลเวร์เด้, เอดูอาร์โด้ กามาวิงก้า, ลูก้า โมดริช (โทนี่ โครส น.87) - โรดรีโก้ โกเอส (ดานี่ เซบายอส น.81), คาริม เบนเซม่า (มาร์โก อาเซนซิโอ น.87), วินิซิอุส จูเนียร์
เทรนเนอร์ : คาร์โล อันเชล็อตติ
ผู้ตัดสิน : อิสต์วาน โควัชส์ (โรมาเนีย)