เดอะ ค็อป รอดูผลงานของทีมหลังจากสะเปะสะปะไร้ทรงของทีมลุ้นสี่แชมป์เมื่อปีที่แล้วอย่างไม่น่าเชื่อว่าจะตกลงอย่างรวดเร็วในการออกตัวซีซั่นนี้จากผลงานที่ออกมาทุกแดน หน้า, กลาง, หลัง
โดนยิงก่อนเกือบทุกนัดยกเว้นนัดเสมอเอฟเวอร์ตัน (ก็โดนยิงก่อนแต่ล้ำหน้า) และชนะบอร์นมัธ คือเกมเดียวที่ยิงนำคู่แข่งก่อน นอกนั้นตั้งแต่ฟูแล่ม, พาเลส, แมนฯยูฯ, นิวคาสเซิล, นาโปลี โดนสอยก่อนเลย กระทั่งเกมนี้กับอาแจกส์ หรืออายักส์ ทีมที่ร้อนแรงสุดๆ ในการออกตัวปีนี้ชนะทุกนัดที่ลงสนาม ดัชท์ลีก6 นัด ช.ป.ล หนึ่งนัด ทั้ที่มีการเปลี่ยนตัวโค้ชและขายนักเตะตัวหลักแบบเป็นแกนนำของทีมไป 5-6 คน
ลิเวอร์พูลจะแสดงปฏิกริยาอย่างไรในเกมนี้หลังจากออกตัวได้แย่สุดนับจาก เจเค ทำทีมมา
เจเคได้กองกลางกลับมา
ถ้าดูจากสภาพทีมก่อนลงสนามตัวรุกพร้อมมีห้าคนให้เลือกใช้ แค่มีปัญหาว่า เจเค จะเลือกใครลงเล่นสามตัวทำ แดนหลังแม้ รอบโบ เจ็บ แต่ ซิมิกาส โอเค พอแทนได้ แดนกลางนี่แหละที่เป็นห่วงกัน แต่เมื่อ ติอาโก พร้อมลงเล่นทำให้การจัดตัวของ คลอปป์ ไม่ยากละ ติอาโก, ฟาบินโญ และ เอลเลียตต์ ยืนพื้นเลย ส่วนแดนหลังแบ๊กโฟร์ ปรับ ฟานไดจ์ เล่นกับ มาติป, ซิมิกาส และ เทรนต์ ที่ไม่มีคู่แข่งยืนตัวจริงต่อไป
ชโรเดอร์ จัดทีมเต็มสูบ
อาแจกส์ภายใต้การทำงานของ อัลเฟรด ชโรเดอร์ โค้ชใหม่ ที่ไม่ใหม่ เพราะเขาคืออดีตมือขวา เอริก เทน ฮาก ก่อนไปรับงานคุมทีมฮอฟเฟนไฮม์, ผู้ช่วยโค้ชทีมบาร์เซโลนา ซึ่ง โรนัลด์ คูมัน คุมทีมจากนั้นไปเป็นโค้ชใหญ่คุมคลับ บรูช ในเบลเยียม ก่อนอาแจกส์ ดึงกลับมาคุมทีมหลังจาก เทน ฮากไปแมนฯยูฯ
แม้ว่าตัวหลักหายไปห้าหกคน ตั้งแต่ มาร์ติเนส, กราเวนแบร์ก, อันโตนี, ฮัลแลร์ ,มาสซราอุย , แถม วินสตัน โบการ์เด หมดสัญญาในฐานะผู้ช่วยเหลือแค่ มิเชล ไรซีเกอร์ (สองคนนี้มือขวา เทน ฮาก สองปีล่าสุด) แต่ทีมส่วนใหญ่ ชโรเดอร์ ยังรู้จัก มีการเปลี่ยนแปลงก็จริงแต่ปรัชญาการเล่น ตัวผู้เล่นหลายคนเขารู้ดี
โครงสร้างของอาแจกส์ คือ 4-3-3 นำโดย ประตู พาสวีร์ แบ๊กโฟร์ เดวิน เรนช์ แทน มาสซาราอุย แบ๊กทีมชาติโมรอกโก ที่ย้ายไปบาเยิร์น คู่เซนเตอร์ยังมี ยูเลียน ทิมเบอร์ เล่น และนักเตะใหม่ คัลวิน บาสซีย์ ตัวทีมชาติไนจีเรียซื้อจากเรนเจอร์ส เพื่อแทน ลิซานโดร มาร์ติเนส แบ๊กซ้ายยังคงเป็น ดาเลย์ บลินด์ แม้ว่าได้ โอเวน วินดาห์ล จากอัล์คมาร์ (ติดทีมชาติฮอลแลนด์แล้ว)
กลางสามคน อัลบาเรส ตัวตัดเกมทีมชาติเมกซิโก คือเบอร์หก มี เคนเนต เทยเลอร์ ที่เหมือนแทน ไรอัน กราเวนแบร์ก และเบอร์สิบเกมนี้เป็น สตีเฟน เบิร์กเฮาส์ ที่มาเคยมาเล่นกับวัตฟอร์ด ปีกซ้าย สตีเฟน เบิร์กไวน์ ที่ได้ไปจากสเปอร์ส ส่วนด้านขวากัปตันทีม ที่ขยับจากซ้ายไปขวา ดูซาน ทาดิช หน้าเป้าหรือหน้าปลอม คูดุส ที่ปกติเล่นตัวเบอร์สิบ แต่ ชโรเดอร์ จับมาเล่นตำแหน่งนี้
เกิดอะไรขึ้นบ้าง....
1 ลิเวอร์พูลเริ่มกลับมาเล่นเกมตัวเอง
อันนี้ต้องยอมรับว่าจากความย่ำแย่ในการออกตัว 7 นัดทุดรายการ โดนวิจารณ์เยอะ ยิงยากและเสียง่าย นักเตะดูเล่นไม่มีใจ ไร้เรี่ยวแรง เกมเพรสซิงหายไป ความดุดันไม่มีให้เห็น นัดนี้คือเกมที่ต้องพิสูจน์และตลอดเกมจะด้วยเพราะเล่นในแอนฟิลด์ ด้วยหรือไม่ แต่นักเตะมีความมุ่งมั่น ไล่เพรสแดนบน แดนสอง คุมเกมได้หมด เหนือกว่าและบีบให้ อาแจกส์ รับในแดนสองและแดนตัวเอง สร้างโอกาสเข้ายิง ทำได้ดี และก็ขึ้นนำ ช่วงนั้น อาแจกส์ ไม่ได้ยิงเลยสักครั้ง
2 ครึ่งแรกหงส์ยิงได้เสียได้
โม ซาลาห์ ยิงแล้ว นี่คือชปลลูกแรกใน8 เกมล่าสุด และเป็นการทำประตูได้ก่อน8คู่แข่งเกมที่สองจาก 7 เกม จากเกมที่เหนือกว่าและทำได้ดีในเรื่องการเล่นเกม ทั้งเพรสวิงแดนบน, แดนสอง ก่อนลุยจนได้ประตูนำ แต่ได้จากจังหวะออกบอลของ เบคเกอร์ ที่เกมรับอาแจกส์พลาด ป้องกันไม่ดี บอลสองเป็นของ โชต้า และถึง ซาลาห์ ไม่พลาด กระนั้นทีมก็พลาดเสียประตูจากระบบเกมรับพังจนได้ โอเค เทร้นต์ พลาดโดนบอลผ่านหน้าแต่แดนกลางหายหมดเลย ฟาบินโย เองที่รับผิดชอบพื้นที่กลับวิ่งเหยาะๆ จน ฟานไดจ์ เจอภาระหนักสองรุมหนึ่ง แล้วก็โดน คูดุส ยิงเสียบคานสวยงาม 1-1
การเสียประตูเกิดจากการใช้โอกาสเปลืองของหงส์และ อาแจกส์ ยิงครั้งแรกได้ประตูตีเสมอทันที น.27
กระนั้น ระบบการป้องกัน กองหลังและแดนกลาง....ยังคงมีปัญหาอยู่ เหมือนปล่อยให้ภาระอยู่กับกองหลังมากเกินไป แดนกลางไม่ช่วยเท่าไหร่ เมื่อบอลโดนคู่แข่งเล่นเกมรุก
3 เซตพีสต้องมี
จากการบุกได้เยอะ ครองบอลมากกว่า รุกแดนสามได้ ทำให้ทีมได้ทั้งฟรีคิกและเตะมุม ปรากฏว่าทีมไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไรจากจุดนี้มาก มีเพียง ฟานไดจ์ โหม่ง แต่เข้ามือ พาสวีร์ ประตูอาแจกส์ไม่ยาก เหมือนการเตะมุมจากแบ๊กสองคนทั้ง อินสวิง และ เอ้าต์ สวิง เหมือนกองหลังอาแจกส์ ป้องกันได้อยู่ไม่ให้ตัวเองโดนกดดันง่ายๆ ทั้งที่คู่เซนเตอร์ก็ไม่ได้สูงอะไรมากมายนัก
ทว่า...นาทีที่ 88 เตะมุมช่วยได้ มาติป โหม่งเข้าประตูไปแล้ว ก่อนโดนโหม่งสกัดออกมา นั่นคือสิ่งที่ต้องบอกว่า จุดอ่อนอาแจกส์ คือการป้องกันลูกเตะมุม ซึ่งกว่าที่เด็กหงส์จะทำได้ก็เกือบหมดเวลา
4 แก้เกม 4-2-3-1
นาทีที่ 66 คลอปป์ ส่ง ดาร์วิน แทน โชต้า และ ฟีร์มีโน แทน เอลเลียตต์ แล้วปรับเล่น 4-2-3-1 เพราะ มี ฟีร์มีโน เล่นเบอร์สิบ ดิอาส, ซาลาห์ ด้านข้าง หน้าเป้าคือ ดาร์วิน นูเยซ คุมเกมได้หมดก็จริงแต่ อาแจกส์ รับลึกมากขึ้นเพราะเน้นผลแล้ว ทำให้เจาะยาก
5 หงส์เล่นไม่ละเอียด
หลายจังหวะเล่นบอลไม่ละเอียดน่าได้แต่ก็ไม่ได้ จังหวะที่ พาสวีร์ ประตูออกมาพลาด เอลเลียตต์ ได้บอล แต่ตัดสินใจยิงทั้งที่มุมไม่มี แถมมีคนเฝ้าเสา ขณะที่ข้างในมีว่างสามคน ไม่ส่งเข้าไป.. หรือ เกือบโดนลงโทษในครึ่งหลัง เช่น จังหวะ ติอาโก พักอกแล้วโดนแย่งไปได้ ก่อนที่บอลจากด้านข้างจะถึงหัวของ บลินด์ โหม่งออกนิดเดียว มันกลายเป็นว่าเวลาเด็กหงส์เล่นพลาดเสียบอล....มักจะโดนเล่นงานและเกือบเสียประตู
การเข้าบอลพรวดยังมีให้เห็น ทั้งแบ๊กและแดนกลาง.....
6 ดาร์วิน ยังไง
ซาลาห์ ใส่พานให้ น. 82 ไม่มีใครประกบ แต่ยิงออกไปเองจากระยะ 12 หลา จะว่าไปการเป็นหน้าเป้าของเขาเมื่อมีโอกาสและจากระยะแบบนั้น มันต้องเข้าประตู ส่วน การมีส่วนร่วมเล่นมาเด่นช่วงสิบนาทีท้าย วิ่งช่องดีและเกือบได้ลุ้น จังหวะผ่านแล้วติดมือ พาสวีร์ นิดเดียว ไม่งั้น ดิอาส ได้จ่อยิงแล้ว ถ้าจะให้วิจารณ์ การมีโอกาสครั้งเดียวได้ยิง.....ในเขตโทษ มันต้องได้ประตูอะนะ
7 ติอาโก....ทอปฟอร์ม
ปฏิเสธไม่ได้ว่าก่อนหน้านี้มีปัญหาที่แดนกลางขาด "คลาส" ของนักเตะไป การเลือก มิลเนอร์ และ เอลเลียตต์ ในสภาพที่ทีมมีปัญหาตัวเจ็บ มันส่งผล การได้ ติอาโก มาช่วยเกมนี้บอกชัดเจนเลยว่า มันสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่ง
โดยภาพรวมการเล่นดีขึ้นกว่าที่ผ่านมา ไล่บอล เพรสแย่งบอล เกมคุมเกมได้ คู่แข่งมีโอกาสน้อยมาก แต่ปัญหาคือเกมรุกเข้าทำแล้วไม่คมเอง มีโอกาสจะๆ สองสามครั้งที่น่ายิงให้เข้า ส่วนเกมรับการป้องกันก็ยังไม่ถึงกับนิ่งซะทีเดียว
กระนั้นถ้านี่คือสิ่งที่แฟนบอลอยากเห็น แม้ว่าจะชนะแบบเบียดๆ
แต่มันเกิดขึ้นจากรูปเกมที่เล่นได้ดีกว่าตามแทกติก ที่ เจเค ไม่ต้องการเปลี่ยน เพราะหงส์แดงเล่นเพรสแดนบน แดนสอง บุก คุมเกม และบีบให้ทีมที่เล่นด้วยปรัชญาเกมรุกอย่างอาแจกส์ ต้องตั้งรับ ก่อนได้ประตูชัยจากการเตะมุมฃ
จากฟอร์มที่สะเปะสะของหงส์แดง กลับมาเล่นดีตามแทกติกตัวเอง พร้อมทั้งได้ชัยชนะต่อทีมที่ชนะรวด 7 นัดฟอร์มสวยงามอย่างอาแจกส์
ให้ถือว่าเป็นการเริ่มต้นฤดูกาลนี้เลยก็แล้วกัน