เคลาดิโอ รานิเอรี่ กุนซือเลือดมะกะโรนี สั่งลาการกุมบังเหียนกับ กายารี่ ไม่ค่อยน่าอภิรมย์เมื่อต้นสังกัดเปิดบ้านแพ้ ฟิออเรนติน่า 2-3 ในเกมลีก เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดยแมตช์นี้มีดราม่าช่วยทดเวลาบาดเจ็บจากจังหวะจุดโทษของ "ม่วงมหากาฬ" และวีเออาร์เข้ามาเกี่ยวข้อง แถมดันเป็นประตูสำคัญตัดสินเกมซะด้วย
เคลาดิโอ รานิเอรี่ เทรนเนอร์ขรัวเฒ่ามากประสบการณ์ของ กายารี่ สั่งลางานโค้ชไม่ค่อยสวยหรูเท่าไหร่ หลังต้นสังกัดแพ้ ฟิออเรนติน่า คาบ้าน 2-3 ในศึกกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 23 พฤษภาคมที่ผ่านมา
ก่อนที่แมตช์นี้จะฟาดแข้ง รานิเอรี่ ได้รับเกียรติจากแฟนบอลทั้งสองสโมสร, นักเตะ, สตาฟฟ์โค้ช และทีมงานผู้ตัดสินใจในเกมนี้ ที่ปรบมือกึกก้องลั่นสนามอูนิโปล โดมุส เพื่อเป็นการให้เกียรติและอำลา โค้ชชาวอิตาเลียน วัย 72 ปีซึ่งกุมบังเหียน กายารี่ เป็นเกมสุดท้าย
สำหรับเกมนี้ทีมเยือนทำให้เจ้าบ้านต้องเงียบกริบเมื่อ จาโคโม่ โบนาเวนตูร่า ส่งบอลซุกก้นตาข่าย นาทีที่ 39 อย่างไรก็ตาม กายารี่ ทวงคืนทบต้นทบดอกจาก อเลสซานโดร เดโยล่า นาทีที่ 64 และ คิงส์ตัน มูตันด์ว่า นาทีที่ 85 แต่อีกสี่นาทีถัดมา "ม่วงมหากาฬ" ได้ประตูตีเสมอ 2-2 จาก นิโกลัส กอนซาเลซ
เกมดูเหมือนจะจบลงด้วยการแบ่งแต้มแต่เรื่องดราม่าดันมาเกิดขึ้นช่วงทดเจ็บนาทีสุดท้าย เมื่อผู้เล่นฟิออเรนติน่าโดนเตะในเขตโทษ และกรรมการเช็ควีเออาร์แล้วยืนยันให้เป็นจุดโทษ จากนั้น อาร์ตูร์ เมโล่ สวมบทฮีโร่สังหารไม่เหลือซาก ส่งผลให้ ฟิออเรนติน่า บุกชนะ 3-2 คว้า 3 คะแนนสำคัญได้สำเร็จ
รานิเอรี่ ซึ่งผ่านการกุมบังเหียนมาหลายสโมสรแต่ที่โด่งดังเป็นพลุแตกก็คือการนำ เลสเตอร์ ซิตี้ คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2015/2016 กล่าวว่า "อะไรก็ตามที่เราต้องทำเราได้ทำร่วมกันหมดแล้ว ผมขอให้พวกคุณช่วยในช่วงปีครึ่งที่ผ่านมา เพราะมีเพียงพวกคุณเท่านั้นที่จะทำให้เราทำสิ่งที่เราทำได้"