เชลซี คำราม

เชลซี รับมือ อาร์เซน่อล

สถานการณ์ในพรีเมียร์ลีกเวลานี้เชลซีคือทีมที่อยู่ใกล้อาร์เซน่อลจ่าฝูงมากที่สุด ช่องว่างระหว่างทั้ง 2 ทีมคือ 6 คะแนน

ในเชิงการชิงชัยและโอกาสเป็นแชมป์แล้ว ผลการแข่งขันของเชลซีเกมนี้ยังจะเป็นความหวังให้กับทีมอื่น ๆ ที่ไล่ตามมาด้วย

ถ้าทีมสิงโตน้ำเงินครามยังหยุดทีมปืนใหญ่ไม่ได้ เห็นทีความหวังของใครก็ตามที่ยังแอบลุ้นว่าจะแซงอาร์เซน่อลได้อยู่ก็ยิ่งมอดไหม้ลงไปอีก

มองไปที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับ ลิเวอร์พูล ที่ผลัดกันเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกกันมาในรอบหลายปีหลัง ซิตี้ตามอาร์เซน่อล 7 คะแนน หงส์แดงตามอาร์เซน่อล 11 คะแนน

เกมเยือนเชลซีรองจ่าฝูงที่ถือเป็นเกมเสี่ยงที่สุดของเดอะกันเนอร์สจึงเป็นความหวังของแฟนบอลเรือใบสีฟ้าและเดอะค็อปว่ายักษ์ใหญ่แห่งลอนดอนเหนือจะสะดุดหรือถูกหยุดความร้อนแรงได้บ้าง

เพื่อที่ตัวเองจะได้มีความหวังขยับใกล้เข้าไปอีกนิด

เพียงแต่อาร์เซน่อลในช่วงออกตัว 12 เกมแรกของฤดูกาลนี้ยอดเยี่ยมเหลือเกิน สะดุดเสียแต้มแค่ 3 นัดคือแพ้ลิเวอร์พูลที่แอนฟิลด์ เสมอแมนฯ ซิตี้ที่เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม และเสมอซันเดอร์แลนด์ที่สเตเดี้ยม ออฟ ไลต์

ที่เหลือปัดเป็นชัยชนะได้ทั้งหมด.. 9 นัด 27 แต้ม เสียประตูแค่ 2 ใน 9 นัดนั้น

และในเกมล่าสุดของอาร์เซน่อล ก็เป็นความหวังของบรรดาผู้ไล่ตามมาเช่นเดียวกัน เพราะทีมของ มิเกล อาร์เตต้า ต้องทำศึกนอร์ธลอนดอนดาร์บี้กับ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์

เป็นเกมยากเพราะศักดิ์ศรีค้ำคอ แต่ไป ๆ มา ๆ ภาพหวังที่วาดเอาไว้ว่าช่องว่างของคะแนนอาจถูกลดลงมากลับกลายเป็นตรงกันข้าม เพราะไม่เพียงแต่อาร์เซน่อลจะเก็บไก่เดือยทองคู่ปรับตลอดกาลอย่างไม่มีปัญหาด้วยชัยชนะขาดลอย 4-1 แล้ว ทั้ง ซิตี้ และ ลิเวอร์พูล ต่างก็ไม่มีคะแนนติดมือด้วยกันทั้งคู่

ระยะห่างจึงถูกถ่างไกลออกไปอีก

อย่างไรก็ตามในขณะที่เราเพ่งเล็งไปที่ แมนฯ ซิตี้ กับ ลิเวอร์พูล ในฐานะอีก 2 ทีมที่อยู่ในกลุ่มลุ้นแชมป์ เชลซีของ เอนโซ่ มาเรสก้า กลับค่อย ๆ ไต่อันดับขึ้นมาเรื่อย ๆ

ไม่ได้มีใครจับตามองทีมสิงโตน้ำเงินครามมากนัก อีกทั้งผลงานในซีซั่นนี้ก็มีหกล้มตามรายทาง

เสมอคริสตัล พาเลซในบ้าน เสมอเบรนท์ฟอร์ด แพ้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และยังแพ้ไบรท์ตันกับซันเดอร์แลนด์คาบ้าน

แต้มกระเด็นตกหล่นเป็นว่าเล่น

แต่กับสิ่งที่กำลังเป็นอยู่ ณ เวลานี้ เชลซีก็ยังเป็นรองจ่าฝูงของลีก มีคะแนนตามหลังอาร์เซน่อล 6 แต้ม

ถ้าชนะได้ ช่องว่างจาก 6 จะถูกหดเหลือแค่ 3 อยู่ในวิสัยที่สามารถตามกันทันภายในเกมเดียว

อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น และผมเชื่อว่ากองเชียร์ทั้ง 2 ฝ่ายไม่มีใครกลัวใคร พร้อมวัดทุกนาที จะให้เกมเริ่มฟาดแข้งวันพรุ่งนี้เลยก็ได้

กับเหล่ากูนเนอร์สนั้นแน่นอนอยู่แล้ว ผลงาน 12 เกมที่ผ่านมาชัดเจนมาก ๆ ว่าซีซั่นนี้เป็นอีกครั้งที่พวกเขาพร้อมล่าแชมป์ลีกสูงสุดที่รอคอยมานาน 22 ปี

บุกชนะแมนฯ ยูไนเต็ด บุกชนะนิวคาสเซิ่ล เก็บสามคะแนนเหนือคู่ปรับยาก ๆ ร่วมกรุงลอนดอนที่แบ่งแต้มจากพวกเขาได้เมื่อฤดูกาลที่แล้วทั้ง เวสต์แฮม ฟูแล่ม และคริสตัล พาเลซ

ยำใหญ่สเปอร์สคู่ปรับตัวเอ้

ผลการแข่งขันเหล่านี้ล้วนสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นในหมู่แฟนบอลอาร์เซน่อล แต่ในขณะเดียวกันไม่มีใครสังเกตเชลซีเลยว่าพวกเขาชนะรวดต่อเนื่องมา 5 เกมแล้วในทุกรายการนับตั้งแต่วันที่ถูกซันเดอร์แลนด์บุกข่วนคาเดอะบริดจ์ปลายตุลาคม

บุกเฉือนวูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส 4-3 ในคาราบาว คัพรอบสี่ (16 ทีมสุดท้าย) ต่อด้วยชนะสเปอร์ส (1-0 เยือน) วูล์ฟแฮมป์ตันอีกรอบ (3-0 เหย้า) เบิร์นลี่ย์ (2-0 เยือน) ในเกมพรีเมียร์ลีก และล่าสุดเปิดบ้านทุบบาร์เซโลน่า 3-0 ในเวทียูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วยผลงานเอกอุเล่นดีทุกคนในสนาม

เกมรุกทำประตูได้ต่อเนื่อง ขณะที่เกมรับไม่เสียประตูง่าย ๆ เผลอแค่พริบตาเชลซีชนะเกมศูนย์มา 4 นัดติดต่อกันแล้ว

เห็นเชลซีเล่นในเกมล่าสุดกับบาร์เซโลน่า พวกเขาเต็มไปด้วยความเชื่อมั่น เกมแน่น แม่นและเร็ว ขึ้น-ลงทั้งแผง เล่นงานจุดสลบคู่แข่งได้แบบเน้น ๆ

ทุกเสียงชื่นชม เอสเตเวา ที่โชว์ฟอร์มสุดยอดในเกมนี้ ทว่านี่คือเกมที่นักเตะเชลซีเล่นกันได้ยอดเยี่ยมทุกคนจริง ๆ ตื่นตัวกระฉับกระเฉง ออกบอลดี เคลื่อนที่ดี ไม่มีความผิดพลาดส่วนบุคคลง่าย ๆ

นอกจากเอสเตเวา ผมยังชอบการเล่นของ มาร์ก กูกูเรย่า เอนโซ่ เฟร์นานเดซ และ เปโดร เนโต้ ที่โดดเด่นมากเช่นกัน

ไม่บ่อยหรอกนะครับที่จะเห็นทีมอย่างบาร์เซโลน่าแพ้ยับเยินขนาดนี้ และยิ่งไม่บ่อยเข้าไปใหญ่กับการที่จะได้เห็นพวกเขาแพ้แบบตีไข่ไม่แตก ทำประตูไม่ได้เลยตลอด 90 นาที

จัดเป็นเกมระดับมาสเตอร์พีซอีกนัดหนึ่งของเชลซีในซีซั่นนี้ และมันเกิดขึ้นอย่างเหมาะเจาะก่อนเปิดศึกนัดสำคัญกับอาร์เซน่อล

เดิมที เชลซี-อาร์เซน่อล ก็เป็นบิ๊กแมตช์ที่น่าดูมาก ๆ อยู่แล้วนะครับ แต่ยิ่งสถานการณ์บนตารางคะแนนและฟอร์มการเล่นล่าสุดเป็นแบบนี้ บิ๊กแมตช์ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ วันอาทิตย์จึงน่าดูในระดับที่พลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง

ตังกุย