แมนซิตี้ฟันเงินชดเชยจากฟุตบอลโลก2022มากสุด

แมนซิตี้ฟันเงินชดเชยจากฟุตบอลโลก2022มากสุด
เดอะ ไทม์ส สื่อของอังกฤษ ระบุ แมนฯ ซิตี้ คือทีมที่จะได้เงินชดเชยจากการปล่อยนักเตะไปเล่น ฟุตบอลโลก 2022 มากที่สุด ตามกฎที่ ฟีฟ่า ระบุเอาไว้ โดยมี บาร์เซโลน่า ตามมาเป็นที่ 2

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นทีมที่จะได้รับเงินชดเชยจากการปล่อยนักเตะไปรับใช้ชาติในศึก ฟุตบอลโลก 2022 มากที่สุดของโลก ด้วยจำนวน 4.5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 189 ล้านบาท) ตามการเปิดเผยของ เดอะ ไทม์ส สื่อชื่อดังของอังกฤษ

สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) มีการตั้งมาตรการชื่อ "โปรแกรมเพื่อผลประโยชน์ของสโมสร" (Club Benefits Programme) ซึ่งจะเป็นการจ่ายเงินชดเชยให้กับเหล่าสโมสรต่างๆ ที่ยอมให้นักเตะภายในทีมไปเล่นให้บ้านเกิด โดยตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมาแทบทุกสโมสรฟุตบอลต่างก็เรียกร้องให้ ฟีฟ่า ออกมาช่วยเหลือพวกเขาบ้าง ภายหลังบางครั้งนักเตะที่ไปเล่นให้ทีมชาตินั้นต้องกลับไปอยู่กับต้นสังกัดพร้อมกับมีอาการบาดเจ็บติดตัวมาด้วย

สำหรับมาตรการของการจ่ายเงินชดเชยนั้น ถ้าให้เทียบแล้วจะเป็นการจ่ายให้ 8,100 ปอนด์ (ประมาณ 340,200 บาท) ต่อ 1 วันที่นักเตะของสโมสรนั้นๆ ยังอยู่ในทัวร์นาเมนท์ หมายความว่ายิ่งนักเตะคนนั้นๆ เข้าถึงรอบลึกๆ มากแค่ไหน ต้นสังกัดของเขาก็จะได้เงินชดเชยมากขึ้นตามไปด้วย นอกจากนี้ มันยังมีการนับรวมวันเวลาในช่วงที่แข้งคนนั้นๆ เข้าแคมป์ซ้อมเพื่อเตรียมความพร้อมในช่วง 1 สัปดาห์ก่อนเริ่มทัวร์นาเมนท์เช่นกัน

ทั้งนี้ อันดับ 2 ในชาร์ตนี้คือ บาร์เซโลน่า ที่จะได้เงินราว 3.31 ล้านปอนด์ (ประมาณ 139.02 ล้านบาท) โดยที่จริง บาร์เซโลน่า เป็นสโมสรที่ส่งนักเตะมามีส่วนร่วมกับ ฟุตบอลโลก 2022 มากที่สุดในโลก ที่จำนวน 17 คน ส่วนของ แมนฯ ซิตี้ อยู่ที่ 16 ราย แต่แข้งหลายคนของ "อาซูลกราน่า" อยู่กับทีมชาติสเปน ซึ่งทัพ "ลา โรฆ่า" จอดป้ายไปในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ส่งผลให้ บาร์เซโลน่า ได้เงินชดเชยน้อยกว่า "เรือใบสีฟ้า" ตามไปด้วย

ขณะที่เงินชดเชยของอีก 5 ทีมในกลุ่มท็อปซิกซ์ของ พรีเมียร์ลีก นั้น ประกอบด้วย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่จะได้ไป 2.92 ล้านปอนด์ (ประมาณ 122.64 ล้านบาท), เชลซี ได้ไป 2.47 ล้านปอนด์ (ประมาณ 103.74 ล้านบาท), ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ได้เงิน 2.33 ล้านปอนด์ (ประมาณ 97.86 ล้านบาท), อาร์เซน่อล ได้รับ 2.11 ล้านปอนด์ (ประมาณ 88.62 ล้านบาท) และ ลิเวอร์พูล ที่ได้เงิน 1.55 ล้านปอนด์ (ประมาณ 65.1 ล้านบาท)


ที่มาของภาพ : gettyimages
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport