เจอร์เก้น คล็อปป์ นายใหญ่ชาวเยอรมัน นำลิเวอร์พูล ลงเล่นเกมอุ่นเครื่องที่นครดูไบ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 11 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยประเดิมด้วยการพ่าย โอลิมปิก ลียง 1-3 แน่นอนว่าผลการแข่งขันถือว่าน่าผิดหวัง แต่ปัญหาสำคัญยิ่งกว่านั้นก็คือ "หงส์แดง" โดนโรคเดี้ยงเล่นงานอีกแล้ว เมื่อ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ ได้รับบาดเจ็บ และต้องลุ้นว่าอาการจะรุนแรงหรือไม่ สำหรับเกมต่อไปพวกเขามีคิวพบ เอซี มิลาน วันศุกร์ที่ 16 ธ.ค.นี้ และเชื่อว่า นายใหญ่ชาวเยอรมัน คงต้องกระตุ้นทีมให้โชว์ฟอร์มแกร่งเพื่อคว้าผลการแข่งขันที่ดีกว่านี้
1. คาร์วัลโญ่ พร้อมแทนที่ ดิอาซ ?
สำหรับตอนนี้ ลิเวอร์พูล ต้องขาด หลุยส์ ดิอาซ และ ดีโอโก โชต้า ไปพักใหญ่ๆ และแน่นอนว่าหากพวกเขาไม่ซื้อใครมาเสริม ผู้เล่นที่จะทำหน้าที่แทนคงหนีไม่พ้น ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่
เจ้าหนูคาร์วัลโญ่ ถือเป็นหนึ่งในแข้งพรสวรรค์ทัพ "หงส์แดง" โดยนักเตะจัดการเบิกประตูแรกให้ทีมตั้งแต่ 45 วินาทีขณะเดียวกันการประสานงานร่วมกับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ในการเจาะพื้นที่สุดท้ายถือว่ายอดเยี่ยม
สิ่งที่ คล็อปป์ น่าจะพอใจในผลงานของ คาร์วัลโญ่ ก็คือการที่เขาสามารถเล่นร่วมกับ "บังโม" และ "บ็อบบี้" ได้ดีเยี่ยม และยังมีการเคลื่อนที่หาตำแหน่งได้ดีด้วย
ด้วยการที่ "เดอะ เร้ดส์" มีทางเลือกไม่มากนักทางฝั่งซ้าย กอปรกับ ดาร์วิน นูนเญซ ยังไม่กลับมาร่วมเข้าแคมป์กับต้นสังกัด งานนี้ คาร์วัลโญ่ คงมีบทบาทสำคัญในตำแหน่งนี้ต่อไปอีกซักระยะ
2. น้าเจมส์ยังมีประโยชน์
การที่ ฟาบินโญ่ และ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ยังอยู่ในช่วงรับใช้ชาติทำศึกฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ (แต่น่าจะเดินทางมาเข้าแคมป์เร็วๆ นี้หลัง บราซิล และ อังกฤษ ตกรอบเรียบร้อย) งานนี้ คล็อปป์ จำเป็นอย่างยิ่งต้องใช้งาน เจมส์ มิลเนอร์ !
มิลเนอร์ สามารถเล่นได้ทั้งแบ็กขวา และโฮลดิ้ง มิดฟิลด์ ฉะนั้นนี่คือตัวเลือกที่ คล็อปป์ จำเป็นต้องใช้งานในช่วงอุ่นเครื่องที่นครดูไบ เพราะประสบการณ์ของเขาจะช่วยพวกนักเตะดาวรุ่งได้เป็นอย่างดี
สำหรับเกมกับ ลียง นายใหญ่ชาวเยอรมัน เลือกใช้งาน มิลเนอร์ ในตำแหน่งแบ็กขวา พร้อมกับจับ สเตฟาน บาจ์เซติช ดาวรุ่งอีกราย ลงตัวจริงในแดนกลาง ซึ่งงานนี้เจ้าหนูวัย 18 ปี ทำผลงานได้อย่างโดดเด่น ทั้งแข็งแกร่งในการเสียบสกัดและยังผ่านบอลได้เฉียบคมด้วย
ขณะที่ครึ่งหลัง มิลเนอร์ ถูกจับขึ้นไปเล่นตรงกลางแทนที่ บาจ์เซติช ซึ่งโดนเปลี่ยนตัวออกช่วงพักครึ่ง และส่ง คาลวิน แรมซี่ย์ ลงมายืนเป็นแบ็กขวา ซึ่งก็โชว์ฟอร์มได้ดีเยี่ยม และน่าจะมีอนาคตในถิ่นแอนฟิลด์
3. อาการบาดเจ็บกลับมาหลอน
หนึ่งในเรื่องที่น่าผิดหวังที่สุดมากกว่าผลการแข่งขันในแมตช์นี้ก็คืออาการบาดเจ็บของ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ ซึ่งจำเป็นต้องถูกเปลี่ยนตัวออกในช่วงนาทีที่ 28 ของเกมเท่านั้น
ดูเหมือนว่าอาการเดี้ยงครั้งนี้ เอลเลียตต์ จะรู้ตัวว่าค่อนข้างอันตรายเพราะในขณะที่เดินออกจากสนามเจ้าตัวเอาแต่ส่ายศีรษะด้วยความรู้สึกผิดหวัง ซึ่งมันเป็นการส่งสัญญาณว่าอาการน่าจะไม่ค่อยดีนัก
การที่ คล็อปป์ ตัดสินใจรีบเปลี่ยนตัวออกเพราะไม่อยากเสี่ยงให้นักเตะเจ็บหนัก ส่วนอาการจะหนักมาแค่ไหนงานนี้ นายใหญ่ชาวเยอรมัน ยังได้แต่ภาวนาว่าคงจะไม่รุนแรงมากนัก
สำหรับในเกมอุ่นเครื่องนัดต่อไปที่จะพบกับ เอซี มิลาน วันศุกร์ที่ 16 ธ.ค.นี้ คล็อปป์ คาดหวังว่า เอลเลียตต์ น่าจะหายเจ็บกลับมาร่วมซ้อมกับทีม ส่วนจะได้ลงสนามหรือไม่ งานนี้ต้องวัดใจ "บอส" เอาเอง
4. จังหวะเพรสซิ่งยังยอดเยี่ยม
ช่วงต้นเกม ลิเวอร์พูล แสดงให้เห็นถึงสไตล์การเล่นที่คุ้นเคยนั่นก็คือการขึ้นไปเพรสซิ่งสูง ซึ่งระบบการเล่นแบบนี้ทุกๆ คนคงได้เห็นมาตลอดกับทีมที่ คล็อปป์ คุมทั้งในอังกฤษ และ เยอรมนี
ความรวดเร็ว และคล่องตัวของ ซาลาห์ กับ ฟีร์มีโน่ ทำให้แนวรับของ โอลิมปิก ลียง ระส่ำระส่าย และสุดท้ายก็เป็น คาร์วัลโญ่ ที่จะการส่งบอลเข้าไปซุกก้นตาข่ายตั้งแต่เกมเริ่มไม่ถึงนาที
งานนี้ถ้าหากบรรดาทีมคู่แข่งของ "หงส์แดง" ทั้งในพรีเมียร์ลีก และยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มีอาการหวาดหวั่นเหมือนที่ ลียง แสดงให้เห็น บอกเลยว่าพวกเขามีสิทธิ์ที่จะเสียประตู
ระบบการเล่นเพรสซิ่งในแบบ ลิเวอร์พูล เป็นสิ่งที่ คล็อปป์ ต้องการให้ลูกทีมรักษาเอาไว้ เพราะหลังจบศึกฟุตบอลโลก 2022 พวกเขามีโปรแกรมหนักทั้งพบ แมนฯ ซิตี้ (คาราบาว คัพ) ตามด้วยเกมลีกปะทะ แอสตัน วิลล่า กับ เลสเตอร์ ซิตี้ ฉะนั้นการอุ่นเครื่องเป็นสิ่งจำเป็นมากๆ
5. แนวรับยังไม่แข็งแกร่ง
เกมอุ่นเครื่องกับ ลียง คงทำให้สาวก "เดอะ ค็อป" คิดถึง เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ปราการหลังจอมแกร่ง เพราะทีมเล่นได้แย่มากๆ และปล่อยให้คู่แข่งเข้าไปเจาะตาข่ายได้สบายๆ
คล็อปป์ มีคู่เซนเตอร์แบ็กให้เลือกแค่นิดเดียวนั่นก็คือ โฌแอล มาติป กับ โจ โกเมซ โดยทั้งสองคนยังทำผลงานได้ไม่ค่อยดีนักเมื่อเทียบกับตอนที่ ฟาน ไดค์ ยืนเป็นหัวใจหลักในเกมรับ
การไม่มี ฟาน ไดค์ แสดงให้เห็นว่าทีมไม่มีหัวเรือใหญ่คอยสั่งการในแผงแบ็กโฟร์ ในกรณีของ มาติป ฟอร์มยังพอที่จะปรับได้บ้าง แต่สำหรับ โกเมซ ค่อนข้างน่าผิดหวังเพราะโดน อเล็กซ็องด์ ลากาแซ็ตต์ กับ มุสซ่า เดมเบเล่ เล่นงานจนอยู่หมัด
แน่นอนว่า ฟาน ไดค์ ยังคงเป็นหัวใจสำคัญในเกมรับของทีม ส่วนคู่ขาของเขาตอนนี้ต้องลุ้นว่าจะเป็น มาติป หรือ อิบราฮิม่า โกนาเต้ ส่วน โกเมซ น่าจะต้องรีบพัฒนาฟอร์มอีกสักพักใหญ่ๆ เลยทีเดียว
ทอมเม้ง