ไม่มีข้อสงสัยเลยว่า อเล็กซานเดอร์ อิซัค มีศักยภาพมากพอที่จะยกระดับ ลิเวอร์พูล ไปอีกขั้น
3 เกมที่ทั้งสองทีมเจอกันในฤดูกาลนี้ อิซัค ทำประตูได้ในสองเกมที่ลงเล่นเป็นตัวจริง และการไม่มีเขาหนึ่งเกมจากอาการบาดเจ็บตรงโคนขาหนีบก็ส่งผลกระทบอย่างมากต่อ นิวคาสเซิ่ล
อิซัค พลาดการลงเล่นไปหลายช่วงเวลาตลอด 4 ฤดูกาลที่ผ่านมา
2024/25 พลาดลงเล่น 9 นัด
2023/24 พลาดลงเล่น 12 นัด
2022/23 พลาดลงเล่น 18 นัด
2021/22 พลาดลงเล่น 5 นัด (เรอัล โซเซียดาด)
อาการบาดเจ็บเป็นปัจจัยที่ ลิเวอร์พูล ต้องคำนึงถึง เพราะพวกเขาเองก็มีปัญหากับผู้เล่นที่เจอปัญหาดังกล่าวบ่อย ๆ อยู่แล้วอย่าง ดีโอโก้ โชต้า
...
ฝั่ง นิวคาสเซิ่ล... พวกเขายืนยันชัดเจนว่าไม่ขาย อิซัค ออกจากทีม ปักป้ายว่านักเตะคนนี้ไม่ได้มีไว้ขาย
แม้แต่ช่วงซัมเมอร์ที่แล้วที่พวกเขาเผชิญเรื่องปัญหาด้านกฎ PSR (กฎกำไรและความยั่งยืน) และมีข่าวว่า เชลซี สนใจ
ถึงกระนั้น นิวคาสเซิ่ล ก็ไม่เคยพิจารณาถึงการขาย อิซัค ออกจากทีมไป
ดาร์เรน อีเลส ซีอีโอ "สาลิกาดง" ให้สัมภาษณ์ตอนต้นเดือนว่า "คงเป็นเรื่องบ้า" ที่จะคิดขายผู้เล่นที่ดีที่สุดของทีมออกไป
ซึ่งท่าทีนี้ได้รับการยืนยันจากหัวเรือใหญ่ระดับสูงของสโมสรหลายคน และเห็นด้วยกับ เอ็ดดี้ ฮาว กุนซือของทีมที่เชื่อว่า อิซัค คือนักเตะที่ไม่มีใครสามารถทดแทนได้
สถานะของ นิวคาสเซิ่ล แข็งแกร่งพอที่จะปฏิเสธข้อเสนอจากทีมอื่น
ต่อให้การเจรจาสัญญาใหม่ยังไม่เกิดขึ้น แต่ อิซัค ก็ยังเหลือสัญญาอีก 3 ปี
นิวคาสเซิ่ล ตั้งใจกลับมาเปิดโต๊ะเจรจากับ อิซัค อีกครั้งในช่วงปิดฤดูกาล
แต่หากมีอะไรจะเปลี่ยนแปลงจุดยืนของพวกเขา ก็คงต้องเป็นข้อเสนอที่เกินกว่า 100 ล้านปอนด์
แล้วการที่ ลิเวอร์พูล จะทุ่มเงินมหาศาลเพื่อคว้าตัว อิซัค อาจขึ้นอยู่กับการปล่อยตัว ดาร์วิน นูนเญซ ออกไปก่อน
แน่นอนว่า อิซัค เองมีส่วนสำคัญต่อการตัดสินใจ แต่ นิวคาสเซิ่ล ก็หวังว่าการคว้าแชมป์ คาราบาว คัพ มาครองได้จะเป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงความก้าวหน้าของทีม
และหากคว้าตั๋วไปเล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้อีกก็ยิ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการรั้ง อิซัค ไว้กับทีมต่อไป
HOSSALONSO