ลิเวอร์พูล เคยพลาดนักเตะเป้าหมายไปหลายคน แต่บางครั้งก็ถือเป็นเรื่องโชคดีของพวกเขาที่ไม่ได้ผู้เล่นเหล่านั้น เพราะกลายเป็นว่าเป้าหมายที่อยากได้เป็นประเภทของปลอมทำเหมือน!!
ยอดทีมแห่งถิ่นแอนฟิลด์ ได้รับคำชื่นชมอย่างมากในเรื่องการเสริมทัพ เพราะนักเตะที่พวกเขาเซ็นมาร่วมทีมอย่าง เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, ซาดิโอ มาเน่ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ก้าวขึ้นมาเป็นตำนานของสโมสร หลังนำทีมประสบความสำเร็จมากมายในยุคกุนซือเจอร์เก้น คล็อปป์
กระนั้นหากย้อนกลับไปช่วงหลายปีที่ผ่านมาทัพ "หงส์แดง" ก็เคยพลาดผู้เล่นเป้าหมายหลายคนเช่นกัน ยกตัวอย่าง อันโตนี่ ที่พวกเขาหวังจะนำมาแทนที่ "บังโม" ซึ่งมีข่าวว่าจะไม่ขยายสัญญา แต่สุดท้าย "เดอะ หมุน" เลือกย้ายไปอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อปี 2022
แน่นอนว่ามีสตาร์หลายคนที่ ลิเวอร์พูล เคยพลาดดึงตัวมาร่วมทัพ แต่กลายเป็นว่านั่นคือโชคดีของพวกเขา เพราะผู้เล่นเหล่านั้นไม่เก่งอย่างที่คาดหวังเอาไว้ เพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจน จะขอชัด 11 ผู้เล่นที่ "เดอะ เร้ดส์" ควรแฮปปี้ที่ไม่ได้เซ็นสัญญามาเล่นในถิ่นแอนฟิลด์
ผู้รักษาประตู : แจ็ค บัตแลนด์
ย้อนกลับไปตอนนั้น แจ็ค บัตแลนด์ ได้รับการยกย่องว่าเป็นอนาคตมือ 1 ทีมชาติอังกฤษ นั่นทำให้เขามีข่าวพัวพันกับ ลิเวอร์พูล มานานหลายปี รวมทั้งเมื่อปี 2017 ด้วย โดย "หงส์แดง" พลาดเซ็นสัญญากับนักเตะ และจากนั้นก็ไปคว้าตัว อลีสซง เบ็คเกอร์ มาร่วมทัพในช่วงซัมเมอร์ถัดมา ซึ่งนั่นเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องเพราะ นายทวารชาวบราซิเลียน ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในโกลที่เก่งที่สุดในหน้าประวัติศาสตร์ลูกหนัง ขณะที่ บัตแลนด์ ปัจจุบันอายุ 31 ปี เคยเล่นแบบยืมตัวกับ แมนยู และตอนนี้เฝ้าเสาให้ เรนเจอร์ส
แบ็กขวา : ลูคัส นีลล์
ลิเวอร์พูล อยากได้ผู้เล่นแบ็กขวาอย่างมากสมัยที่ ราฟาเอล เบนิเตซ กุมบังเหียน โดยเขาต้องการเซ็นสัญญากับ ลูคัส นีลล์ อย่างมาก แต่ดูเหมือนว่าศักยภาพของนักเตะไม่ได้อยู่ในระดับที่ทีมต้องการ จริงๆ แล้ว ดาวเตะชาวออสเตรเลีย เป็นที่จดจำของสาวก "เดอะ ค็อป" เพราะเขาทำให้ เจมี่ คาร์ราเกอร์ ขาหักสมัยที่เล่นกับ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส เมื่อปี 2003 และเมื่อไม่ได้ย้ายมาสวมเครื่องแบบ "หงส์แดง" นักเตะย้ายไปอยู่กับ เวสต์แฮม เมื่อปี 2007 ก่อนจะเล่นให้ เอฟเวอร์ตัน, กาลาตาซาราย และ ซิดนี่ย์ เอฟซี
เซนเตอร์แบ็ก : ฟิล โจนส์
ต้องยอมรับว่า ฟิล โจนส์ เป็นกองหลังอนาคตไกลจริงๆ แต่น่าเสียดายที่ศักยภาพของเขาไม่ได้ถูกดึงมาใช้อย่างเต็มที่เนื่องจากโดนอาการบาดเจ็บเล่นงานอย่างต่อเนื่องจนทำให้สุดท้ายต้องแขวนสตั๊ด แต่หากย้อนไปสมัยที่กำลังรุ่งๆ โจนส์ เป็นเป้าหมายหลักของ "หงส์แดง" เมื่อปี 2011 ก่อนที่ท้ายที่สุดเจ้าตัวจะเลือกเมินพวกเขา และเซ็นสัญญากับ แมนยูไนเต็ด ตอนนั้นหลายคนมองว่านี่คืออนาคตทีมชาติอังกฤษ แต่กระนั้นอาการบาดเจ็บทำให้นักเตะไม่สามารถพัฒนาฟอร์มได้เลย แม้จะเล่นให้ "ผีแดง" 229 เกมซึ่งดูเหมือนเยอะ แต่เมื่อพิจารณาการอยู่กับทีม 12 ปี นั่นหมายความว่าเขาลงเล่นเฉลี่ย 19 เกมต่อซีซั่นเท่านั้น
เซนเตอร์แบ็ก : แอชลี่ย์ วิลเลี่ยมส์
หากเปรียบเทียบระหว่าง ฟาน ไดค์ กับ แอชลี่ย์ วิลเลี่ยมส์ ต้องบอกเลยว่ามันราวฟ้ากับเหว แต่กระนั้นหากย้อนกลับไปในอดีต ดาวเตะชาวเวลส์ ได้รับการพิจารณาให้เป็นตัวเลือกหลักที่จะดึงมาร่วมทีม เนื่องจาก เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ต้องการร่วมงานกับศิษย์เก่าสมัยอยู่ สวอนซี ซิตี้ เมื่อปี 2013 แต่งานนี้ วิลเลี่ยมส์ เลือกอยู่ "หงส์ขาว" จนถึงปี 2016 และสุดท้ายก็ย้ายไปเล่นให้ เอฟเวอร์ตัน คู่อริร่วมเมืองของ "หงส์แดง"
แบ็กซ้าย : เบน ชิลเวลล์
ก่อนหน้าที่ ลิเวอร์พูล จะเซ็นสัญญากับ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ด้วยค่าตัวแค่ 8 ล้านปอนด์ (ราว 352 ล้านบาท) จาก ฮัลล์ ซิตี้ ในปี 2017 นั้น เบน ชิลเวลล์ คือเป้าหมายแรกของพวกเขาในตำแหน่งแบ็กซ้าย โดยทีมไม่สามารถคว้าตัว สตาร์ชาวอังกฤษ มาได้ และสุดท้ายนักเตะเลือกลา เลสเตอร์ ซิตี้ ไปเล่นให้ เชลซี ในปี 2020 ขณะที่ "ร็อบโบ้" ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในแบ็กซ้ายที่เก่งที่สุดในยุโรปในช่วง 7-8 ปีที่ผ่านมา สวนทางกับ ชิลเวลล์ ที่ฟอร์มไม่เหมือนกับช่วงเริ่มต้นอาชีพของเขา แถมตอนนี้อายุก็ย่างเข้าสู่ 28 ปี และ เอ็นโซ่ มาเรสก้า ก็ไม่ค่อยใช้งาน ก่อนจะถูกส่งไปเล่นแบบยืมตัวกับ คริสตัล พาเลซ ถ้านับจำนวนอาการบาดเจ็บของเขาต้องบอกหาก "เดอะ เร้ดส์" คว้าตัวมาร่วมทีมได้คงจะเป็นความผิดพลาดที่เลวร้ายที่สุดของสโมสร
กองกลาง : โรเมโอ ลาเวีย
ตอนนี้แฟนบอลลิเวอร์พูล คงจำเหตุการณ์ที่ โรเมโอ ลาเวีย ปัดข้อเสนอของ "หงส์แดง" และไปเล่นให้ เชลซี เพราะหลังจากนั้นพวกเขาได้แผงกองกลางที่โคตรสุดยอดนั่นก็คือ ไรอัน กราเฟนแบร์ก, อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ และ โดมินิค โซโบซไล ย้อนกลับไปในตอนนั้น เจอร์เก้น คล็อปป์ อยากได้ มอยเซส ไกเซโด้ และ ลาเวีย แต่ทั้งสองคนตัดสินใจเซ็นสัญญากับ เชลซี นั่นทำให้ "บอส" ตัดสินใจคว้าตัว วาตารุ เอ็นโด มาร่วมทัพแบบแก้เขิน แต่กลายเป็นว่า ดาวเตะชาวญี่ปุ่น ก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักของทีม สวนทางกับ ไกเซโด้ และ ลาเวีย ที่ฟอร์มธรรมดาสามัญมากๆ โดยเฉพาะรายหลังที่ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่บนเตียงคนไข้มากกว่าสนามฟุตบอล
กองกลาง : เมสัน เมาท์
ซัมเมอร์ปี 2023 เมสัน เมาท์ ตกเป็นเป้าหมายของหลายสโมสร โดยเฉพาะ ลิเวอร์พูล กับ แมนยูไนเต็ด ที่เปิดสงครามนอกสนามเพื่อหวังเซ็นสัญญากับ ดาวเตะทีมชาติอังกฤษ แต่กลายเป็นว่า "เดอะ เร้ดส์" พ่ายแพ้ให้กับคู่อริตลอดกาล ซึ่ง ปีศาจแดง" ทุ่มเงินถึง 60 ล้านปอนด์ (ราว 2,640 ล้านบาท) เพื่อดึงตัวมาจาก เชลซี และมอบค่าเหนื่อยสูงกว่า 250,000 ปอนด์ (ราว 11 ล้านบาท) ต่อสัปดาห์ แต่กลายเป็นว่ามันไม่ได้คุ้มค่าเลย เพราะนักเตะยิงประตูกับแอสซิสต์แค่ครั้งเดียวจาก 32 เกม แถมยังบาดเจ็บเรื้อรังด้วย ส่วน ลิเวอร์พูล ได้ตัว "โซโบ" มาร่วมทีม มันช่างคุ้มยิ่งกว่าคุ้ม
กองกลาง : โตมาส์ เลอมา
โตมาส์ เลอมา เป็นผู้เล่นคีย์แมนของ โมนาโก ตอนที่พวกเขาทะลุเข้ารอบรองชนะเลิศ ศึกแชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อปี 2017 ซึ่งตอนนั้นเขาได้เล่นเคียงข้าง ฟาบินโญ่ และ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ โดย ลิเวอร์พูล แสดงความต้องการที่จะเซ็นสัญญากับเขา ซึ่งมีการยื่นข้อเสนอ 55.5 ล้านปอนด์ (ราว 2,442 ล้านบาท) และ 64.8 ล้านปอนด์ (ราว 2,852 ล้านบาท) แต่ก็โดนปฏิเสธหมด สุดท้ายเขาเลือกย้ายไปอยู่กับ แอตเลติโก มาดริด ในปี 2018 ตลอดระยะเวลา 7 ปีกับ "ตราหมี" นักเตะไม่เคยมีฟอร์มใกล้เคียงกับสมัยเล่นให้ โมนาโก อีกเลย
ปีกขวา : อันโตนี่
นี่คือเรื่องที่โคตรโชคดีเหลือเกิน เพราะ อันโตนี่ คือหนึ่งในการเซ็นสัญญาที่ห่วยที่สุดในหน้าประวัติศาสตร์ศึกพรีเมียร์ลีก โดย แมนยูไนเต็ด ทุ่มเงินถึง 86 ล้านปอนด์ (ราว 3,784 ล้านบาท) เพื่อให้ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ปล่อยตัว สตาร์ชาวบราซิเลียน มาร่วมทีม แต่มันไม่คุ้มค่าเงินเลย เพราะนักเตะทำได้แค่ 12 ประตูกับ 5 แอสซิสต์จากการเล่น 96 เกม และสุดท้ายต้องโดนปล่อยไปเล่นแบบยืมตัวกับ เรอัล เบติส งานนี้บอกเลยว่า ลิเวอร์พูล โชคดีที่สุดที่ไม่ได้เซ็นสัญญา "เดอะ หมุน" มาร่วมทัพ เพราะตอนนั้น คล็อปป์ อยากได้ตัวมาแทน ซาลาห์ ลองนึกภาพถ้าดีลนี้สำเร็จ แฟนบอล "หงส์แดง" คงน้ำตานองหน้า เพราะเสียดายตังค์แหงๆ
ปีกซ้าย : นิโกล่าส์ เปเป้
หากมองในแง่ของการทุ่มเงินแบบเปล่าประโยชน์สำหรับการเซ็นสัญญาในลีกสูงสุดเมืองผู้ดี ชื่อของ นิโกลัส เปเป้ ก็ไม่แตกต่างกับ อันโตนี่ เพราะนี่คือการทุ่มเงินแบบสูญเปล่าสำหรับ อาร์เซน่อล ซึ่งตอนนี้ยอมจ่ายถึง 72 ล้านปอนด์ (ราว 3,168 ล้านบาท) เมื่อปี 2019 โดยช่วงซัมเมอร์นั้น ลิเวอร์พูล ก็อยากได้ ดาวเตะชาวไอวอรี่โคสต์เช่นกัน งานนี้บอกเลยว่าโคตรโชคดีเช่นเดียวกับรายของ อันโตนี่ เพราะถ้าหากทีมได้ตัวมาคงเซ็งจิตสุดๆ ลองดูผลงาน16 ประตูกับ 9 แอสซิสต์จากการเล่น 80 เกมในลีกให้ อาร์เซน่อล คงไม่ต้องบอกว่ามันคุ้มไหม !!
กองหน้า : ติโม แวร์เนอร์
บรรดากูรูลูหนังบุนเดสลีกา มั่นคงมั่นใจว่า ติโม แวร์เนอร์ จะเข้ากับ ลิเวอร์พูล ได้อย่างสมบูรณ์แบบเมื่ออยู่ภายใต้การทำงานของ คล็อปป์ แต่นักเตะปฏิเสธ "หงส์แดง" และเลือกเซ็นสัญญากับ เชลซี และสุดท้ายก็ไปไม่รอดจนต้องกลับไปอยู่ แอลเบ ไลป์ซิก อีกรอบ เพราะฟอร์มล้มเหลวสุดขีดกับ "สิงโตน้ำเงินคราม" สำหรับตอนนี้ย้ายมาเล่นกับ สเปอร์ส แบบยืมตัว และฟอร์มก็ยังน่าผิดหวังยิงไม่ได้เลยจากการเล่น 18 เกมในลีกซีซั่นนี้ แม้ แวร์เนอร์ จะทำผลงานได้ดีในลีกเมืองเบียร์ แต่ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงในอังกฤษ ขณะเดียวกันการพลาดนักเตะรายนี้ทำให้ ลิเวอร์พูล หันไปคว้าตัว ดีโอโก้ โชต้า มาร่วมทีม และบอกเลยว่าคุ้มสุดๆ
ทอมเม้ง